บทที่ 4 เพื่อคนที่รัก(1)

"เอามา!" "ใช้ให้มันประหยัด ๆ หน่อย พี่มีแค่นี้!"

ที่ยอมให้ง่าย ๆ เพราะไม่อยากมีปากเสียงกับลูกกวางที่นี่ ฉันรีบหยิบเงินให้น้องแล้วรีบเข้าไปดูลูกอม

"แค่ถลอกนิดหน่อย ทำอย่างกับอีลูกอมมันจะตาย!"

...ลูกกวางเบะปากมองบนใส่พี่สาว ก่อนจะเดินควงแขนแฟนหนุ่มออกไปเที่ยวเตร่

"พี่ลูกตาล ฮือ!!!"

พอลูกอมเห็นพี่ก็ร้องไห้ใหญ่

"น้องคงตกใจค่ะ ไม่เป็นอะไรแล้วนะคนเก่ง"

คุณหมออุ้มลูกอมเดินมาหาฉัน

"ไม่ต้องกลัวนะ พี่มาแล้ว"

ฉันกอดปลอบน้อง ลูกอมอายุเพิ่งจะ 10 ขวบ แต่มีความรับผิดชอบกว่าผู้ใหญ่หลาย ๆ คน

"ไม่เป็นไรแล้วนะ เดี๋ยวพี่พากลับบ้าน"

ลูกอมยังร้องไห้สะอื้น คงจะตกใจ เด็กอายุแค่นี้เอง

"กลับบ้านได้เลยนะคะ น้องแค่มีแผลถลอกเล็กน้อย" พยาบาลเดินเอายาทามาให้พร้อมกับรอยยิ้ม

"ขอบคุณค่ะ คุณหมออยู่ไหนคะ"

ฉันวางลูกอมลงกับพื้น

"ขอบคุณค่ะ"

ก่อนเราสองพี่น้องจะเดินออกจากโรงพยาบาล

"หิวมั้ย พี่พาไปกินข้าว"

นี่ก็เย็นแล้ว ลูกอมคงจะยังไม่ทานอะไร

"ลูกอมอยากกลับบ้าน ลูกอมเป็นห่วงลูกเกด"

ตอนนี้ลูกเกดคงจะอยู่บ้าน

"งั้นพี่ไปส่ง แต่ก่อนกลับ เราไปซื้อของกินก่อน จะได้เอาไปให้น้องด้วย"

ที่จริงใจอยากเอาทั้งลูกอมและลูกเกดไปอยู่ด้วย แต่ก็อย่างที่รู้ น้าแพรวแกไม่ชอบหน้าฉันเท่าไหร่

เวลาเห็นน้อง ๆ อยู่กับฉัน น้าแพรวแกก็จะพูดดุด่าน้อง ๆ และตีน้อง ๆ เหมือนเป็นการประชด เลยได้แค่ มองดูเด็ก ๆ อยู่ห่าง ๆ

"ส่วนนี่เงิน เก็บไว้ให้ดีอย่าให้พ่อกับแม่รู้ เอาไว้ไปโรงเรียน"

ฉันจะแอบให้เงินกับน้องแบบนี้ประจำ เพราะถ้าให้พ่อหมด มีหวังเด็กไม่ได้ไปโรงเรียนแน่ ๆ

"ค่ะ พี่ลูกตาล"

"ขอบคุณนะคะ"

ลูกอมกอดฉันแล้วรีบวิ่งเข้าบ้าน คงกลัวแม่จะมาเห็น

"เฮ้อ!!"

ฉันได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินกลับไปที่ห้องเช่า ตั้งแต่เรียนจบก็ 1 ปีเต็ม ที่อยู่คนเดียว ต้องทำงานส่งตัวเองเรียน หาเลี้ยงน้อง ๆ ตั้งแต่อายุ 15 จนตอนนี้อายุ 23 ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะนับวันพ่อยิ่งดื่มเหล้า และตอนนี้เหมือนจะติดการพนันด้วย…

หลายวันผ่านไป

วันนี้เป็นวันแต่งงานฟ้า ฟ้าเลยต้องลางานยาวไม่มีกำหนด ฉันเองก็อยากไปแสดงความยินดีนะ แต่ก็อย่างที่รู้ ๆ ใครจะกล้าไปล่ะ

"ลูกตาล"

"ไปทานข้าวกันมั้ย"

เป็นคุณเตชินท์ เจ้าของบริษัทที่ทำงานอยู่เอ่ยขึ้น

"ห้ามปฏิเสธ"

ฉันกำลังจะปฏิเสธเขา แต่เขากลับพูดขึ้นก่อน

"แต่..คือตาล" คุณเตชินท์เขาตามจีบฉันอยู่ แต่คือไม่อาจเอื้อมหรอก ฉันรู้ตัวเองดีและเจียมตัวเสมอ

"ไม่มีแต่"

พูดจบ เขาก็เดินมาจูงมือฉันไปขึ้นรถทันที

ร้านอาหาร

"ผมว่าถึงเวลาแล้วล่ะ ที่ผมจะบอกคุณ"

ตอนนี้มันรู้สึกอึดอัดมาก กับสายตาคุณเตชินท์ที่เอาแต่มองแล้วส่งยิ้มให้

"คือผม...ผมรักคุณ" เขาจับมือฉันแน่น

"ผมไม่สนใจว่าคุณจะเป็นใคร"

"ผมรู้แค่ว่าผมรักคุณ รักตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอกับคุณ"

ฉันได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ ไม่นึกว่าเขาจะมาสารภาพรักกลางร้านอาหารแบบนี้

"ขอบคุณนะคะที่รู้สึกดีกับลูกตาล"

ฉันรีบขยับมือออก

"แต่ตาลไม่มีอะไรเหมาะสมกับคุณ"

"คุณเป็นคนดี ทั้งรูปร่างหน้าตา อย่ามาเสียเวลากับผู้หญิงที่ไม่มีอะไรอย่างตาลเลย"

"ยังมีผู้หญิงดี ๆ ที่เหมาะกับคุณมากกว่าลูกตาล" ฉันยิ้มให้เขา

ตอนนี้ไม่อยากจะคิดเรื่องนี้ เพราะยังมีครอบครัวให้ต้องดูแล มีภาระหน้าที่มากมาย ไม่อยากคิดเรื่องรัก ๆ เลิก ๆ ให้มันปวดหัว

"ผมไม่สนใจ ผมรู้แค่ผมรักคุณ!"

แต่ดูคุณเตชินท์จะไม่ยอมฟังที่ฉันพูดเลยสักนิด

"เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเถอะค่ะ"

"สำหรับตาล คุณคือเจ้านายที่ดีที่สุด"

"ขอตัวนะคะ"

ฉันยิ้มให้เขาแล้วรีบเดินออกจากตรงนั้นทันที

"ทำไม!!!"...เตชินท์กำหมัดแน่น ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะ แต่เขาไม่ยอมแพ้และจะเอาชนะใจลูกตาลให้ได้

หลังจากที่ออกมาจากร้านอาหาร ฉันก็กลับไปทำงานต่อ จิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวยังไงไม่รู้

ผับ 20:00 น.

แล้ววันนี้ก็เหมือนกับทุกวันที่ต้องทำหน้าที่เหมือนเช่นทุกวัน

"ตาล! วันนี้ทำงานแทนพี่ที พอดีพี่ปวดท้อง"

พี่เปียโนเดินมือกุมท้อง ทำหน้ามุ่ยเดินเข้ามาหา

"แต่ตาลดื่มไม่เป็นนะคะ"

"ไม่เป็นไร แค่นั่งเป็นเพื่อนแขก พี่บอกเขาไว้แล้ว"

"เขาบอกไม่เป็นไร ขอแค่มีสาว ๆ สวย ๆ นั่งเป็นเพื่อน เขาก็พอ"

"ค่ะ…ว่าแต่พี่ไหวมั้ย"

ดูท่าแล้วพี่เปียโนคงจะปวดท้องหนักอยู่เหมือนกัน

"เป็นผู้หญิงก็แบบนี้แหละ ปวด ฉิบหาย"

ฉันก็เคยปวดท้องประจำเดือนนะ แต่ก็คงไม่ปวดมากเหมือนพี่เปียโนตอนนี้

"พี่ไปก่อนนะ ไม่ไหวแล้ว"

"กลับบ้านดี ๆ นะ"

ฉันได้แต่ยืนมองพี่เปียโนเดินออกไป

วันนี้ที่ผับคนเยอะเหมือนกับทุกวัน แต่วันนี้ดูคนจะแน่น เพราะเป็นวันศุกร์ โดยเฉพาะนักศึกษาหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่มากันเป็นแก๊ง ๆ

ถ้าจะพูดตามตรง ฉันไม่เคยมีชีวิตวัยรุ่นเหมือนคนอื่นหรอก นอกจากเรียนและทำงานก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ฉันมีเพื่อนสนิทอยู่ 2 คน แก้วตา กับ เมจิ

ตอนนี้สองคนนั้นมีการงานที่ดี อีกหน่อยคงได้บรรจุเป็นคุณครูและพยาบาลตามความฝัน

ส่วนฉันเหรอ? ความฝันคืออะไร ตัวฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองต้องการอะไร

ฉันก็ยืนรับแขกตามปกติ เพราะแขกพิเศษที่พี่เปียโนบอกไม่เห็นจะมาสักที

"ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อยสิวะ"

ผู้ชายรูปร่างหน้าตาดี 2 คนเดินเข้ามาในร้าน

"เห็นมั้ย สาว ๆ ที่นี่สวย ๆ ทั้งนั้น" ผู้ชายคนหนึ่งหันมายิ้มให้

ส่วนอีกคนฉันเหมือนเคยเจอเขาที่ไหน แต่นึกไม่ออก แต่เขาดูเย็นชาและน่ากลัวมาก

ส่วนหน้าตาไม่ต้องพูดถึง ถือว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงได้ขนาดนี้ นัยน์ตาคมเข้ม จมูกโด่ง ผิวขาว ไม่รู้ทำไมเหมือนกันฉันถึงไม่อาจละสายตาจากผู้ชายคนนั้นได้ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่แม้แต่จะมองฉันสักนิด

บทก่อนหน้า
บทถัดไป