บทที่ 3

เจโรลด์

ข้าสู้เพื่อโลกใบนี้ เพียงเพื่อจะถูกขับไสในยามที่มันปลอดภัยแล้ว ไม่มีใครอยากได้กระทิง ‘โสโครก’ ‘เหม็นสาบ’ มาอยู่ใกล้ๆ เผ่าพันธุ์ของข้า แม้แต่ตัวข้าผู้เป็น ‘ตนแรก’ ก็มีปัญหากับอารมณ์... แค่มีตัวตนอยู่ก็สร้างปัญหาแล้ว บางตนไม่ได้เกิดมาพร้อมสติปัญญาแม้แต่น้อย มีเพียงความเดือดดาลนั้น...

ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของข้าที่ต้องจัดการสังหารพวกมัน

ความไว้ใจไม่มีอยู่จริง และแม้ในยามหลับ ข้าก็เรียนรู้ที่จะซุกปืนไว้ใต้หมอน... เพราะลูเซียน

ไม่มีวันอีกแล้ว

ข้าจะไม่มีวันรักใครอีก ข้าจะไม่เปิดช่องว่างให้ตัวเองอีกต่อไป... ข้ายอมอยู่อย่างเดียวดายเสียดีกว่า

ข้ามีกระสุนเงินหนึ่งนัดเตรียมไว้ให้มันโดยเฉพาะ เผื่อว่ามันจะลองอีกครั้ง ข้าเคยถูกควักหัวใจออกมา... ยัดใส่กล่อง มันเป็นส่วนหนึ่งของ “พร” ที่มอบให้ข้าเพื่อปกป้องโลกใบนี้

เพียงเพราะข้าไม่มีวันตาย ไม่ได้หมายความว่าข้าไม่เจ็บปวด ข้าได้เป็นราชาเพราะข้าคือครึ่งอสูรตนแรก... ข้าถูกแต่งตั้งให้เป็นราชาแห่งเหล่าครึ่งอสูรเพื่อหยุดยั้งอสุรกายที่หลับใหลอยู่ภายในภูเขาไฟที่โด่งดังที่สุดของอิตาลี

เผ่าพันธุ์ของข้าเป็นที่น่ารังเกียจที่สุด... เราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นการลงทัณฑ์จากทวยเทพโดยแท้... เราถือกำเนิดขึ้นมาแบบเดียวกับในตำนานปรัมปราของโรมัน... จากการสมสู่กับสัตว์ร้าย อสูร และอื่นๆ บิดาของข้าคือทูร์รัส มหาโคถึก นักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่ถูกสร้างโดยจ้าวเขา...ผู้ซึ่ง...หายตัวไปเฉยๆ มารดาของข้าเคยรับใช้จ้าวแห่งแสงในฐานะมหานักบวชหญิงสูงสุดของพระองค์... แม้นางจะเป็นมนุษย์ แต่นางยังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะความดื้อรั้นของข้า...

อันที่จริง ข้าถูกห้ามไม่ให้ย่างกรายเข้าสู่ ปรโลก ใดๆ ก็เพราะสิ่งที่ข้าทำลงไปนั่นแหละ... ข้าคือสาเหตุที่ทำให้มีประตูมิติ ประตูเชื่อมภพ และอะไรเทือกนั้นไปยังโลกอื่น... ตอนที่นางสิ้นใจ ข้าไม่หยุดไล่ฆ่าฟันไปทั่วทุกภพภูมิจนกระทั่งอุ้มนางกลับมาบ้านได้สำเร็จ ข้าปฏิเสธไม่ยอมให้นางตาย และเพราะการกระทำนั้น... ข้าจึงถูกปฏิเสธการพักผ่อนชั่วนิรันดร์

ข้าเกลียดแม้กระทั่งการต้องนึกถึงช่วงเวลานั้น... ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึก

นั่นก็เพราะไม่มีใครเหลือรอดมาจดบันทึกมันต่างหาก ทรราช... ซาซาส ราชันย์แห่งภพ เป็นเจ้าของ โลกใบนี้ มันคือของเล่นของเขา... พวกข้าเหล่าราชันย์ได้รับมอบหมายภารกิจที่น่าหวาดหวั่นและเป็นไปไม่ได้ นั่นคือการหยุดยั้งผู้ที่ถูกขนานนามว่า ‘ผู้ปกครองสูงสุด’ และสิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้ก็คือการสัญญาว่าจะมอบของสงวนชั้นเลิศที่หาได้ยากยิ่งให้แก่เขา

หายากเสียจนเราหลอกล่อให้เขายอมรอ... พันธะคู่แท้ สิ่งที่มารดาของเขาสร้างขึ้น คือสิ่งที่ถูกหยิบยื่นให้เป็นสัญญา สักวันหนึ่งนางจะถือกำเนิดขึ้นมา และข้าจะต้องรับมือกับไอ้สารเลวจิตวิปริตนั่น... ตัวตนที่เปี่ยมด้วยพลังอำนาจมหาศาล ถึงขนาดที่ว่าแค่แนวคิดเรื่องชัยชนะเหนือคนอย่างมันยังเป็นสิ่งที่ไม่อาจจินตนาการถึงได้...

มัน ไม่มี อยู่จริง... และไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เราจะต้องหยุดมันให้ได้หากมันตื่นขึ้นมาพร้อมกับตวัดดาบบ้าๆ นั่น... มันคือสาเหตุที่ทำให้เรามี 7 ทวีป

มันคือเทพเจ้าที่ถูกยัดอยู่ในร่างเนื้อ เดิมทีมารดาของมัน พระแม่จันทรา ควรจะได้สมรสกับเทพแห่งความเมตตา เทพที่ข้าอุทิศตนรับใช้

แต่เปล่าเลย นางกลับไปสมสู่กับจ้าวเขา และให้กำเนิดเทพแห่งการพิพากษาขึ้นมา นางถึงกับสร้างพันธะคู่แท้ขึ้นมาเพื่อรับประกันตำแหน่งราชินีแห่งรัตติกาลของตนเอง...

สิ่งที่ไม่มีวันทำลายได้... ล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำใดๆ... และเป็นเหตุผลที่ทำให้บุตรชายของนางยอมตกลงกับแผนการเฉพาะหน้าอันปุบปับของราชันย์หมาป่า อาชิทัล

แล้วพวกนั้นก็ทิ้งไอ้เวรนั่นไว้ที่นี่ แล้วโยนมาให้เป็นปัญหาของ ข้า!

นางถูกจองจำและลงทัณฑ์ ด้วยเหตุที่จ้าวเขานั้นเป็นเทพ ทมิฬ ผู้ประกอบแต่กรรมชั่ว... การกระทำอันเลวร้ายป่าเถื่อน

ข้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องบ้าๆ นั่นเลยสักนิด แต่พวกนั้น... เหล่าทวยเทพไม่สนใจหรอก ข้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าเคยเห็นพวกเขาตัวเป็นๆ แค่ครั้งเดียว... วันที่การลงทัณฑ์มาถึงตัวข้า

ก็ในเมื่อเหล่าครึ่งอสูรอย่างข้า เซนทอร์ ฮาร์ปี้ และตนอื่นๆ ที่เกิดจากมนุษย์ซึ่งไปรักใคร่กับอมนุษย์แห่งรัตติกาลนั้นถูกสร้างมาเพื่อเป็นบทลงโทษอยู่แล้ว มารดาของข้าก่ออาชญากรรม เดียวกัน กับพระแม่จันทรา... นั่นคือการรักและแต่งงานกับตัวแทนจากราชสำนักรัตติกาล... ทั้งๆ ที่เป็น นักบวชหญิง ของจ้าวแห่งแสง ศัตรูตัวฉกาจของอีกฝ่าย

ข้าสลัดความรู้สึกซ่าบซ่าบ้าๆ นี่ไปจากปลายนิ้วไม่ได้เลย... มนุษย์คนนั้นสวมใส่อะไรอยู่กันนะ? ข้าไม่ได้แพ้อะไรเลยยกเว้นเงิน แต่พวกเราส่วนใหญ่แพ้... บางทีเขาอาจจะสวมแหวนเงินหรืออะไรสักอย่าง? แต่ก็ไม่สมเหตุสมผลนี่ ข้าไม่ได้แตะมือเขาสักหน่อย

‘โน-อา!’ คงจะเป็น ‘โนอาห์’ สินะ ตัวนุ่มนิ่มเหลือเกิน... ทำไมหัวหน้าถึงส่งคู่หูที่เปราะบางขนาดนี้มาให้ข้า... นี่มันจะต้อง เครียด ชิบหายแน่ๆ

ข้าจะปล่อยให้ อะไร เกิดขึ้นกับเขาไม่ได้เด็ดขาด

ข้าไม่รู้ว่าทำไม แต่ข้ารู้ว่าข้าจะถูกบังคับให้ทำสิ่งนี้ไม่ว่าข้าจะต้องการหรือไม่... ให้ตายสิพับผ่า ข้าก้าวออกจากฝักบัว แล้วใช้กรงเล็บเล็มตอหนวด ซึ่งเป็นสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้

----โนอาห์----

ประตูปิดกระแทกดังปัง และผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอ้โง่ที่ยืนอยู่ในถังขยะ... ทั้งงุนงงและตื่นตัว

“โธ่เว้ย เจโรลด์!” หัวหน้าตะโกนลั่น

“ไอ้สัส!” เขาตะโกนมาจากข้างนอก...

ความรู้สึกซู่ซ่าแล่นจากมือหยาบกร้านของเขา...ตรงไปยังไอ้จ้อนของผมเลย ผม... เขาแม่งโคตรฮอต

เจโรลด์ตัวล่ำบึ้กซะจนผมคิดว่าเขาจะทำเสื้อตัวเองขาดเป็นริ้วๆ... เอาจริงๆ นะ แขนของเขาน่าจะใหญ่พอๆ กับรอบเอวของผมเลย... หรือถ้าไม่... ก็คงใกล้เคียงมาก

ผมของเขายุ่งนิดๆ เป็นสีน้ำตาลเข้มปานกลาง เช่นเดียวกับดวงตา... เขาดูเหมือนรูปปั้นจริงๆ ที่เห็นได้ในพิพิธภัณฑ์ พ่นลมหายใจฟืดฟาด เสียงเหมือนกระทิงกำลังโมโห... เท่าที่ผมเห็นไม่มีรอยแผลเป็นหรือตำหนิเลยสักนิด แม้ว่าเขาจะดูอายุราวๆ สามสิบ ซึ่งก็น่าจะแก่กว่าผม แต่ไม่เป็นไรหรอก... ผู้ชายแบบนี้ต้องมีประสบการณ์โชกโชน แต่เขาน่าจะมีคู่ครองแล้วล่ะ

ผมนึกภาพเขาเป็นโสดไม่ออกเลย

“ผมว่าเขาไม่ชอบขี้หน้าผมนะ” ผมพูดอย่างประชดประชัน แต่สายตาก็ยังจับจ้องบั้นท้ายของเขาผ่านหน้าต่างบานใหญ่ด้านหน้า...

‘เจโรลด์’ คนนี้อันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่คนอย่างผมน่าจะกลัวคนแบบนั้นสิ

ไม่ใช่มานั่งน้ำเดินแบบนี้... ทำไมกูต้องแพ้ทางพวกสายโหดด้วยวะเนี่ย?!

เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยจริงๆ... และผมก็แอบอยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าได้ขี่—

“ขอโทษด้วย” ผู้การพูดอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย

ไม่เหมือนพ่อหัวร้อนสุดเซ็กซี่คนนั้น เขาลุกขึ้นมาจับข้อมือผมแทนการจับมือ มันแปลกๆ แต่ผมรู้จากจอห์นนี่ว่าเขาเป็นยูนิคอร์น นี่คงเป็นธรรมเนียมของพวกเขาล่ะมั้ง

“อีกครั้งนะ... ขอโทษด้วย” ผู้การกล่าว “พวกมิโนทอร์ขึ้นชื่อเรื่องหัวร้อนอยู่แล้ว แต่เขาน่ะเป็นถึงราชันย์ของพวกมัน”

“โอ้โห เขาเป็นเชื้อพระวงศ์เหรอครับ” ผมถาม มิน่าล่ะเขาถึงได้ดูหล่อเข้มแบบดิบๆ... ผมรู้เลยว่าตอนนี้เขามีภรรยาหรือใครสักคนแล้ว... ให้ตายสิ ทำไมคนดีๆ ถึงมีเจ้าของไปหมดแล้วนะ

“ใช่แล้ว” ผู้การตอบ เขาแก้วผลึกเรืองแสงยาวประมาณสองฟุตงอกออกมาจากศีรษะ... มันสวยงามและเป็นเกลียว

“มันช่วยคลายเครียดน่ะ” เขาชี้ไปที่เขาของตัวเอง

“เข้าใจได้เลยครับ” ผมพยักหน้า

“จอห์นนี่พูดถูก... คุณผ่านเกณฑ์แน่นอนอยู่แล้ว และขอบคุณที่ให้โอกาสผม ผมรู้ว่าผมส่งจดหมายไปหาครอบครัวคุณตั้งแต่ตอนที่น้องชายคุณยังเพิ่งเริ่มดื่มนม แต่ทุกคำที่เขียนไปคือความจริง... พ่อของคุณรู้... ผมได้รับอนุญาตให้ปล่อยเขาไป เพราะเขาแบกผมด้วยตัวเองเป็นระยะทาง 30 ไมล์ ผมทำไม่ได้... ไม่สิ ผมไม่มีวันลบความจำเพื่อนทหารร่วมรบได้ลง” เขาพูดอย่างหนักแน่น

“พ่อเคยเล่าเสมอว่าคุณกับหน่วยของคุณถูกซุ่มโจมตี... แต่ไม่เคยเล่ารายละเอียดเลย”

เขาดึงปกเสื้อลงให้ผมดูรอยแผลเป็นเหนือเส้นเลือดใหญ่ที่คอ... มันเป็นรอยหยักราวกับถูกฉีกกระชาก...

“คุณ... ถูกทำร้ายเหรอครับ” ผมถาม เขาหยิบยื่นลูกอมเปปเปอร์มินต์ให้ผมเม็ดหนึ่ง ส่วนตัวเองก็อมไปเม็ดหนึ่ง

“เลือด กระดูก และเขาของยูนิคอร์นมีฤทธิ์เสพติดยิ่งกว่าฝิ่นใดๆ... เมื่อได้ลิ้มลองอย่างผิดกฎหมาย จะมีเพียงแค่ 4% เท่านั้นที่หยุดได้... พวกมนุษย์หมาป่าซุ่มโจมตีเรา พวกมันยอมตายเพื่อให้ได้ลิ้มรสมัน... สองตัวเสพเกินขนาดจนตาย และเขาของผมก็เสียบเข้าหัวใจตัวที่สาม แต่ตอนนั้นผมบาดเจ็บสาหัสเกินกว่าจะทำอะไรเพื่อรักษาตัวเองได้... ผมสาบานต่อเลือดในวันนั้นว่าจะต้องตอบแทนฮานซ์ให้ได้”

“แสดงว่าพ่อทูนหัวของผมเป็นยูนิคอร์นสินะ” ผมพูดเหมือนเป็นการสรุปมากกว่าถาม แล้วเขาก็หัวเราะเบาๆ

“ใช่ แถมยังเป็นยูนิคอร์นที่เซ็กซี่ซะด้วย ตัดสินจากกลิ่นหื่นที่โชยมาจากตัวคุณน่ะ” เขาพูดเหมือนพยายามจะเล่นมุกประหลาดๆ...?

“อะไรนะครับ... ว่าไงนะ

“ชิฟเตอร์เก่งๆ คนไหนก็ดมกลิ่นอารมณ์ออกทั้งนั้น... ผมนึกว่าในห้องทำงานผมจะเหม็นอับไปด้วยกลิ่นความกลัวซะอีก แหยะ”

“ก็เขามัวแต่มองก้นเจโรลด์อยู่น่ะสิ” ใครคนหนึ่งพูดลอยๆ แล้วทุกคนก็ระเบิดหัวเราะออกมา

“เขาโสดนะ” เอเควสตอสกระซิบพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ “ใช่ พวกนั้นได้ยินผม” เขาพูดเสียงเบาลงอีก “อันนี้ก็ด้วย”

“เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ ผมคงต้องขอตัวไปนิวยอร์กซิตี้ล่ะ ไม่ก็ฝรั่งเศส... รัสเซีย จีน ไม่ก็ ดวงจันทร์!” ผมแผดเสียงแล้วพวกเขาก็ชอบใจกันใหญ่

บางคนถึงกับตบเข่าฉาดเพราะผมทำให้พวกเขาหัวเราะหนักมาก และผมก็รู้สึกตัวหดเหลือคืบเดียวกับการล้อเลียนทั้งหมดนี่ อย่างน้อยที่นี่ก็เป็นที่ที่สนุก... ผมนึกว่าจะต้องมาอยู่ท่ามกลางเจ้าหน้าที่เจ้าระเบียบซะอีก

“โอ๊ย ผมชอบหมอนี่ว่ะ” ชายคนที่แซวผมคนเดิมพูดขึ้น

“หุบปากไปเลยรอรี่!” ผู้การตะคอก “เอาล่ะ ผมจะอธิบายเรื่องเอกสารและสิ่งที่คุณต้องทำนะ นี่มันวันศุกร์ คุณมีเวลาช่วงสุดสัปดาห์ทำความรู้จักกับคู่หูของคุณ บางทีอาจจะปล่อยให้เขาอารมณ์เย็นลงก่อนในวันนี้ แล้ววันเสาร์ผมจะเข้ามาที่ออฟฟิศ เอารถไปแล้วดูเขาทำงาน ถ้าคุณไม่ชอบ ผมจะส่งคุณกลับบ้านแต่จะยังจ่ายเงินให้เป็นค่าชดเชย”

เราจับมือตกลงกันตามนั้น

“ผมให้สัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด... แต่ผมค่อนข้างจะเป็นตัวป่วนในทุกงานที่เคยทำมาเลย ยกเว้นที่โรงเลื่อย... ผมเชื่อมเหล็กกับใช้ปืนยิงตะปูเก่งครับ” ผมยอมรับ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป