บทที่ 7 ตอนที่ 7
“ได้ครับ”
“นายห้ามโกหกนะ”
“ครับ”
“นายอยากมีอะไรกับฉันมั้ย”
มินตราถามจริงจัง ไททันไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอคำถามฟ้าผ่าแบบนี้
“ถ้าคุณหนูถามอะไรแบบนี้... ถ้าพูดอะไรแบบนี้อีกผมจะไม่นอนด้วย”
“นายจะบอกว่าไม่ต้องการฉันยังงั้นหรือ?”
มินตรารู้สึกโกรธ ไททันทำให้คุณหนูสูญเสียความมั่นใจ เพราะว่าไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่ต้องการหล่อน
“ใช่... ผมไม่ต้องการคุณหนู”
ไททันรู้ว่าตัวเองกำลังโกหกอย่างแรง ปากไม่ตรงกับหัวใจของตัวเอง
“ปากแข็ง... แล้วนี่อะไร”
เร็วเท่าความคิด มินตราเอื้อมมือลงมาบีบเป้ากางเกง ขยำความแข็งแกร่ง ยืนยันหลักฐานของความต้องการที่ไม่อาจปกปิด
“อูย... คุณหนู”
ไททันไม่คิดว่าน้องชายจะโดนจู่โจม พยายามจะคว้ามือของคุณหนูออกมาจากสิ่งสงวน แต่สัมผัสปลุกเร้าของหล่อน... ก็ทำให้มือไม้ที่เคยแข็งแกร่งอ่อนแรงลงได้
“ใหญ่จัง”
มือเรียวซึ่งสั่นน้อยๆ ของคุณหนู ค่อยๆ ลูบไล้ท่อนเนื้อตรงกึ่งกลางกายของไททันที่เหยียดขยายขึ้นมาอวดความอลังการเต็มที่ แค่สัมผัสเบาๆ ผ่านเนื้อผ้าบางๆ ก็ทำให้ใบหน้าของคุณหนูเกิดอาการร้อนวูบวาบ แก้มแดงซ่าน ปั่นป่วนแปลกๆ ในช่องท้อง
“หยุดนะครับคุณหนู... อย่าทำแบบนี้”
ไททันร้องห้าม พยายามจะคว้ามือซุกซนของคุณหนูให้พ้นไปจากของรักของหวง ก่อนจะก้าวพรวดลงมาจากเตียง เดินออกมานอนหัวใจเต้นระทึกอยู่บนแคร่ไม้หน้าห้อง
ไททันออกมานอนถอนใจแรง ไม่คิดว่าคุณหนูจะกล้าทำอะไรเช่นนี้ เขารู้ว่าอันตรายนักที่จะอยู่กันสองต่อสอง จึงตัดสินใจเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้หล่อนนอนคนเดียว
มินตราตกอยู่ในอาการกระสับกระส่ายสะบัดร้อนสะบัดหนาวอยู่นานเป็นครู่ ยากนักที่จะข่มตาให้หลับลงได้ทั้งที่อารมณ์ยังพลุ่งพล่านเหมือนมีมวลคลื่นมหาศาลกำลังก่อตัวอยู่ใต้ทะเล
ที่นอกห้อง
หัวใจของไททันยังคงเต้นแรง สูดหายใจแรงลึกแล้วถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ พยายามข่มความปรารถนา คุณหนูจะรู้บ้างไหม... ว่าเขาต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน... ที่จะหักห้ามอารมณ์ไม่แตะต้องหล่อน
เช้าวันรุ่งขึ้น
“ไท... พาไปเที่ยวสวนลิ้นจี่หน่อยได้ไหม”
เสร็จจากอาหารเช้าอันแสนเรียบง่ายที่ป้าดวงช่วยทำให้ มินตราเดินออกมามองหาบอดี้การ์ดหนุ่มซึ่งตอนนั้นเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นคนสวนชั่วคราว ไททันกำลังพรวนดินต้นไม้ในแปลงผักหลังบ้าน หลังจากช่วยป้าดวงเก็บผักจนเต็มตะกร้า
“ได้ครับถ้าคุณหนูอยากไป”
ไททันวางมือจากงานที่ทำ จากนั้นก็เดินนำหน้าหญิงสาวเข้ามาในสวนลิ้นจี่ พาเดินลัดเลาะเข้ามาตามเส้นทางเล็กๆ จนถึงในสวน
“ว้าว... ลิ้นจี่ดกจังค่ะ... ฉันอยากกิน”
คุณหนูทำเสียงอ้อนเหมือนเด็กๆ
“ได้ครับ... เดี๋ยวผมเด็ดให้”
ไททันเดินเข้าไปใต้ต้นลิ้นจี่ ด้วยความสูงเกือบสองเมตรทำให้เขาโน้มกิ่งลิ้นจี่ลงมาเด็ดได้ไม่ยาก
“อยากกิน... ป้อนให้ด้วยนะ”
คุณหนูช่างอ้อน
“ครับ... แต่อันที่จริงคุณหนูโตแล้วนะครับ... กินเองก็ได้นี่นา”
บอดี้การ์ดแกะลิ้นจี่ บรรจงป้อนให้หญิงสาวด้วยมือของตัวเอง
“มือนายสะอาดหรือเปล่า ไปจับอะไรมาก่อนหน้าหรือเปล่าเนี่ย”
คุณหนูชะงักเล็กน้อย
“งั้นก็ไม่ต้องกิน”
ไททันทำท่าว่าจะชักมือกลับ แต่คนเรื่องมากรีบห้ามไว้
“กินก็ได้”
ลิ้นจี่ถูกป้อนใส่ปากสวย คุณหนูเคี้ยวอร่อย อมยิ้มอายๆ
“เอาอีกมั้ย… ”
ไททันจ้องมองริมฝีปากอิ่ม
“เอา... หวานจัง”
ไททันค่อยๆ แกะเปลือกลิ้นจี่แล้วบรรจงป้อนใส่ปากคุณหนูอีกหลายครั้ง
“ไท... ”
หล่อนเรียกชื่อเขา
“อยากไปดูสวนปาล์มด้านหลังได้ไหม... ”
แววตาอ้อน
“ได้ครับ”
สิ้นเสียงของบอดี้การ์ด ร่างเอิบอิ่มของคุณหนูก็ก้าวไปตามทางดินเล็กๆ สองข้างขนาบแน่นไปด้วยป่าหญ้าเขียวขจี ทอดยาวไปสู่สวนปาล์มเล็กๆ ที่ด้านหลัง
ขณะที่หญิงสาวกำลังเดินชมนกชมไม้เพลิดเพลินอยู่กับสายลมรวยรินที่พัดมาจากทิวเขา จู่ๆ ตุ๊กแกตัวหนึ่งก็โผล่ออกมาจากโพรงไม้ใกล้ๆ กับสวนปาล์ม เสียงร้องทักทายดังลั่นของมันทำเอาคุณหนูสะดุ้งสุดตัว
“กรี๊ด… ”
อารามตกใจทำให้หล่อนเสียหลัก
“คุณหนู”
ไททันปราดเข้ามา ตอนนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก มินตรามารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ร่างของหล่อนเซถลาลงมาสู่อ้อมกอดของไททันที่สอดแขนแข็งแรงเข้ามารองรับได้ทันท่วงที
“ไม่ต้องกลัวนะครับ”
มินตรากอดร่างกำยำเอาไว้แน่น ตัวสั่นราวกับลูกนกตกน้ำ
“กลัวตุ๊กแก”
ใบหน้าซีดเซียวละล่ำละลักบอกด้วยความตกใจ
“ไม่ต้องกลัวครับคุณหนู... โอ๋... ตุ๊กแกไม่ทำร้ายคนครับ”
เสียงปลอบทำให้หญิงสาวในอ้อมกอดเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าของบอดี้การ์ดหนุ่ม น่าแปลกที่ผู้ชายคนนี้ทำให้หล่อนรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“มันหลบเข้าโพรงไปแล้วครับ”
เสียงทุ้มปลอบนุ่มนวลชวนให้อบอุ่นใจ คุณหนูเลิกสนใจตุ๊กแก สายตาตื่นตะลึงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลาของไททันด้วยความลืมตัว
กลางดึกของคืนเดียวกันนั้น
“กรี๊ด… ”
จู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังลั่นออกมาจากห้องนอนของมินตรา ทำให้บอดี้การ์หนุ่มที่นอนอยู่หน้าห้องรีบผลักประตูเข้ามาโดยพลัน
“คุณหนู… ”
เขาเรียกหล่อน ร่างที่สั่นเทาราวกับลูกนกโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของไททันเอาไว้แน่น
“เป็นอะไรครับ”
สีหน้าของไททันโล่งใจ เมื่อเห็นว่าคุณหนูปลอดภัย “ตุ๊กแกค่ะ... มันมาอีกแล้ว เกาะอยู่ที่ขอบหน้าต่างโน่น”
หญิงสาวชี้ไปยังช่องหน้าต่างเล็กๆ ทั้งที่ยังหลับตาไม่กล้ามอง
