บทที่ 6 6
มุกมารินจำต้องทำตามความต้องการของผู้จัดการห้องอาหารไม่ใช่เพราะจำนวนเงินล่อตาแต่เกรงว่าถ้าเธอปฏิเสธ เนส จะพลอยตกที่นั่งลำบากไปด้วย ก็แค่ตามชายรางสูงใหญ่สองคนไปยังห้องพักแบบสวีทบนชั้นที่ยี่สิบ ก็แค่ร้องเพลงให้แขกฟังแล้วรีบกลับบ้าน หญิงสาวครุ่นคิดไปตลอดทางว่าทำยังไงถึงจะรีบปลีกตัวจาก แขก ซึ่งคงเป็นเศรษฐีแก่และไม่มีสตินอกจากบัญชาคนอื่นด้วยเงิน
“เชิญเข้าไปด้านในเลยครับ”
บอดี้การ์ดหนุ่มเปิดประตูให้ร่างเล็กบอบบางก้าวเข้าไปภายในห้องพักแบบสวีทซึ่งตั้งแต่ทำงานอยู่ในโรงแรมห้าดาวแห่งนี้ก็ยังไม่เคยสัมผัสความหรูหราและการตกแต่งดึงดูดสายตาของห้องพักสำหรับแขกพิเศษเลยสักครั้ง
มันเป็นห้องพักที่ใหญ่โตมากจนมุกมารินตะลึงไปชั่วขณะ ห้องอาหารและบาร์ของโรงแรมที่จัดว่าหรูหรามากสำหรับหญิงสาวดูจืดไปถนัดตาเมื่อเทียบกับห้องนี้
ร่างอรชรในชุดราตรีสั้นบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วที่ทำให้นักร้องสาวตัวสูงมากกว่าปกติก้าวมาหยุดอยู่ตรงกลางห้องและเห็นเพียงเก้าอี้รับแขกแต่ไม่เห็นเงาของคนที่สั่งให้เธอมา
“สวัสดี คุณมุกมาริน”
เสียงทุ้มลึกที่ดังกังวานทำให้หญิงสาวหันกลับไปทางประตูที่เธอก้าวผ่านเข้ามาเมื่อครู่
“คุณ...” มุกมารินอ้าปากค้าง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ในชุดทักซิโด้ยืนอยู่ที่นั่น ผู้ชายซึ่งตัวโตกว่าเธอมากและใบหน้าคมคายยังติดอยู่ในความทรงจำตั้งแต่คืนนั้น คืนที่เธอถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยโดยไม่ได้ตั้งใจ
“อืม...เราเคยเจอกันมาครั้งหนึ่งแล้ว...ใช่มั้ย”
รอยยิ้มเหยียดจุดขึ้นบนมุมปากของคนพูด บ้าที่สุด! ทำไมเธอต้องพบกับ เขา คนกักขฬะที่มองเธอด้วยสายตาหยามหมิ่น ร่างสูงใหญ่สืบเท้าเข้ามาหยุดตรงหน้าหญิงสาว
“เราอาจเคยพบกัน แต่คุณคงยังไม่รู้จักผมซีนะ ผม...คิลเลียน แม็คไพรด์ และแม็คไพรด์กรุ๊ปก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของฟิฟท์ อะเวนิว แกรนด์ โฮเต็ล”
หุ้นส่วนใหญ่...หญิงสาวคิดในใจ ถึงว่าเนสจึงไม่กล้าขัดใจเขา มุกมารินรู้สึกว่าเขาเป็นคนตัวโตและทำให้เธอหายใจขัดอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ใช่แค่เรือนกายกำยำภายใต้ชุดอย่างสุภาพบุรุษ แต่ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาบาดใจซึ่งแม้เธอจะรู้ว่าเขาร้ายกาจแค่ไหนก็ทำให้เธอประหม่าอยู่ดี
“ค่ะ...เราเคยเจอกัน”
มุกมารินแข็งใจตอบและพยายามไม่สบนัยน์ตาสีน้ำเงินประกายกล้าที่กำลังหลอมละลายทุกอย่างในตัวเธอ
คิลเลียน แม็คไพรด์
หากเธอรู้จักเขาตั้งแต่คืนนั้นก็จะยอมให้ผู้จัดการไล่ออกเสียให้รู้แล้วรู้รอด ทว่าก็สายไปแล้ว
“ผมคิดไว้แล้วว่าคุณต้องมา” เสียงสูดลมหายใจของเขาทำเอาอีกฝ่ายยิ่งประหม่า “ถ้าใครปฏิเสธเช็คใบนั้นถ้าไม่เรียกว่าบ้าก็คงจะโง่เต็มที!”
คำพูดนั้นทำเอาร่างเล็กสะดุ้ง ผู้ชายคนนี้นอกจากความหล่อแล้วช่างไม่มีดีอะไรเลย กักขฬะก็เท่านั้นซ้ำยังหยาบคายจนเธออยากกลั้นใจตายไปต่อหน้า นี่เธอคิดถูกหรือผิดกันแน่ที่รับปากเนสเพราะความสงสาร
“ไหนคุณบอกผู้จัดการของฉันไม่ใช่หรือคะ ว่าอยากฟังฉันร้องเพลง”
มุกมารินกล่าวขึ้นขณะพยายามรักษาน้ำเสียงให้เป็นปกติ เธอต้องอดทนเพื่อให้งานลุล่วงเวลาอันน่าลำบากใจนี้ไปให้ได้
“โอเค๊...ใช่” ชายหนุ่มไหวไหล่และเดินผ่านเธอไปนั่งเอกเขนกบนเก้าอี้รับแขก มุกมารินมองตามขณะเชิดไหล่และใบหน้าขึ้น...เธอต้องอดทน
“ผู้จัดการของคุณบอกว่าที่นี่มีนักร้องเสียงนางฟ้า ผมก็แค่อยากรู้ว่าจริงอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า”
คิลเลียนกล่าว นัยน์ตาสีน้ำเงินดุจห้วงทะเลลึกจับจ้องไปยังร่างเล็กบอบบางซึ่งไม่ยอมต่อคำกับเขาอีก เธออยู่ในท่าเตรียมพร้อมก่อนจะปลดปล่อยพลังเสียงกลบทับความเงียบในห้องพักอันโอ่อ่า
น้ำเสียงหวานกังวานไหวประดุจสายพิณในสรวงสวรรค์สะกดความรู้สึกของคนฟังจนนิ่งงันไปชั่วครู่ เป็นช่วงเวลานานพอที่นายทหารเรือหนุ่มจะสำนึกถึงบางอย่างสะเทือนสะท้านภายใต้ท่าทีอันกร้าวแข็ง
คิลเลียนสงบลงราวจำนนต่อเสียงหวานรื่นหู ทั้งรู้สึกราวกับตัวเองเป็นใบไม้ทิ้งตัวไปตามทำนองเฉกสายน้ำไหลในขุนเขา
ใช่แต่เสียงนั้นจะสะดุดใจ ความงดงามหมดจดและท่าทีอันละเมียดละไมของนักร้องสาวราวกับมันได้แทรกซึมลงไปถึงก้นบึ้งของเขาด้วยกระนั้น
คิลเลียนแทบไม่รู้สึกว่าบทเพลง Butterfly จบลงตอนไหน สติของเขาถูกกระชากกลับมาก็เมื่อผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าวางกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ลงบนโต๊ะ
“คุณคิลเลียน แม็คไพรด์ คะ...ฉันร้องเพลงให้คุณฟังจบแล้วค่ะ งานของฉันเสร็จสิ้นแล้ว และฉันก็ขอคืนเช็คใบนี้ให้กับคุณ คุณพูดถูกแล้วล่ะค่ะ เพราะฉันไม่ใช่คนฉลาด ฉันถึงไม่ขอรับเช็คใบนี้ไว้ ขอบคุณมากนะคะ...ฉันกลับได้หรือยังคะ?”
“ยังกลับไม่ได้...ผมไม่อนุญาตให้คุณกลับ!”
คิลเลียนคำรามลั่นพร้อมผุดลุกขึ้นยืน ชายหนุ่มขบกรามเข้าหากันแน่นด้วยความแค้นเคียด นาวาอากาศเอกหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง เขาถือว่านี่คือการตอบโต้จากนักร้องสาวที่กล้าอวดดีและจองหองเป็นที่สุด
“คิดว่าตัวเองเก่งซักแค่ไหนกัน” ชายหนุ่มว่าพลางหยิบเช็คขึ้นมากุมไว้และเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าร่างเล็กที่ยืนตัวแข็ง
“แค่เงินเดือนนักร้องกระจอกไม่มีวันได้มากถึงขนาดนี้ แต่ท่าทางอย่างคุณสงสัยร้องเพลงอย่างเดียวคงไม่พอ หึ...หรือว่าชินกับการเรียกค่าตัวจากพวกเศรษฐีเวลาไปเสนอตัวให้พอร้องเพลงจบ!”
ฉาด!
ใบหน้าคมคายสะบัดไปตามฝ่ามือเล็กที่ฟาดใส่เต็มแรง คิลเลียนหันกลับมายังหญิงสาวที่ยืนกำหมัดแน่น
