บทที่ 2 บ่วงรักท่านประธาน บทที่ 2
“โรสเขาเป็นเลขาของฉันเอง ฉันนัดเธอมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่บริษัทตอนนี้ถูกเทคโอเวอร์แล้ว มีคณะกรรมการไม่กี่คนที่รับรู้ ฉันเองยังไม่อยากเข้าไปเจอใครตอนนี้เลยนัดเลขาของฉันออกมาคุยเป็นการส่วนตัว”
อภิวัฒน์พูดพลางยกแก้วน้ำขึ้นจิบโดยไม่ทันได้สนใจว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างเพื่อนของเขาและเลขาส่วนตัว มัทนายังนั่งนิ่งขณะที่รังสิมันต์ก็จ้องหน้าเธอโดยไม่ยอมละสายตาไปทางไหน ชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับอภิวัฒน์จ้องใบหน้าสวยหวานของผคู้หญิงที่นั่งตรงข้าม ห้าปีที่ผ่านมามัทนาไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมแม้แต่น้อย แต่เธอดูสวยขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเธอไม่ใช่นักศึกษาสาวน้อยปีหนึ่งดังที่เขาเคยรู้จัก ตอนนี้เธอเป็นเลขาของเพื่อนสนิท แต่ท่าทีสำรวม เรียบร้อยและอ่อนหวานนั้นไม่เคยเปลี่ยน สักครู่อภิวัฒน์ก็เอ่ยขึ้นกลบความเงียบในวงสนทนา
“เมฆ...ฉันกำลังคุยกับโรสว่าถึงสถานะของบริษัทจะเปลี่ยนไปเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน แต่อยากจะยืนยันกับเธอว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของบริษัทหรือพนักงาน และที่ฉันอยากจะให้นายช่วยรับเลขาของฉันไว้ ให้เธออยู่ในตำแหน่งเดิมเพราะโรสมีภาระต้องรับผิดชอบ เธอมีลูกเล็กหนึ่งคนที่ต้องเลี้ยงดู”
คำอธิบายของอภิวัฒน์ทำให้คนฟังตาวาวขึ้นมา ประกายตาของเขาเจิดจ้าเมื่อได้ยินคำนั้น ลูก...รังสิมันต์หันไปถามเลขาของเพื่อนเขาว่า
“คุณโรสมีลูกแล้ว ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ?”
“ผู้ชายค่ะ”
“ชื่ออะไรหรือครับ?”
“ชื่อริวค่ะ”
“ชื่อน่ารักมาก แกอายุกี่ขวบแล้วครับ”
“สี่ขวบค่ะ...เอ้อ...แล้วไม่ทราบว่าลูกของคุณรังสิมันต์อายุกี่ขวบแล้วล่ะคะ”
“คุณโรส...เมฆเพื่อนผมมันยังไม่แต่งงานครับ”
อภิวัฒน์แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงรื่นเริง เขาตบบ่าคนข้าง ๆ เบา ๆ แล้วเอ่ยว่า
“เมฆมันบ้างาน นี่เรียนจบมาตั้งหลายปีแล้วยังไม่ยอมแต่งงาน โสดจนคนที่บ้านพาลคิดว่าเพื่อนผมคงไม่ชอบผู้หญิงเสียแล้ว แต่คุณโรสไม่ต้องกลัวนะครับว่าทำงานกับเมฆจะอึดอัด เพื่อนผมคนนี้จริงจังก็จริงแต่เป็นคนซื่อตรงและเมตตากับลูกน้องเสมอ ผมคิดว่าถ้าคุณทำงานกับเขาคงไม่เป็นปัญหา”
“ไม่เป็นปัญหาหรอก ฉันตอบตกลงว่ารับเธอมาเป็นเลขาของฉันเลยก็แล้วกัน”
รังสิมันต์พูดเสียงหนักแน่น มัทนายกมือไหว้เขาแล้วเอ่ยว่า
“ขอบคุณในความกรุณาของคุณรังสิมันต์นะคะที่จะรับดิฉันไว้เป็นเลขาของคุณ แต่ว่า...ดิฉันคงไม่สามารถทำงานนี้ต่อไปได้อีกแล้วล่ะค่ะ”
“อ้าว...โรส...ดะ...เดี๋ยวก่อน”
อภิวัฒน์ร้องขึ้นเมื่อเห็นเลขาของเขาวางเอกสารบนโต๊ะแล้วคว้ากระเป๋าสะพายลุกขึ้นท่ามกลางสายตาแสดงความประหลาดใจและตกใจของทั้งอภิวัฒน์และรังสิมันต์
©©©©©©©©
บทที่ 2
ความรักครั้งใหม่
“ดิฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าคุณรังสิมันต์จะรับเลขาคนใหม่ เพราะดิฉันคงไม่มีความเหมาะสมพอจะทำงานนี้ให้คุณได้หรอกค่ะ”
“โรส...ดะ...เดี๋ยวก่อน...อ้าว...ไปซะงั้น”
อภิวัฒน์ร้องเรียกเลขาของเขาไม่ทันเพราะมัทนาเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว เขาถึงกับหน้าเจื่อนพลางหันมาทางรังสิมันต์ซึ่งตกอยู่ในอาการทั้งอึ้งทั้งตกใจไม่แพ้กันแต่ชายหนุ่มกลับยังแสดงสีหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น อภิวัฒน์ถอนใจยาวและเอนหลังพิงเก้าอี้
“เฮ้...เมฆ...นี่ฉันทำอะไรผิดไปรึเปล่าเนี่ย ดูซี...โรสเขาคงไม่พอใจแน่ ๆ ที่จู่ ๆ ฉันเจ้ากี้เจ้าการเปลี่ยนเจ้านายใหม่ให้เธอ”
“คงไม่หรอก อย่าคิดมากเลยวัฒน์”
“แต่ฉันไม่สบายใจเลยนะ บริษัทมีปัญหา แต่ฉันก็อยากช่วยเหลือเธอจริง ๆ นะ...นายไม่รู้อะไรหรอกเมฆ โรสเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนั้นทิ้งเธอไปตั้งแต่เธอยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ”
อภิวัฒน์บ่นออกมาโดยไม่รู้เลยว่าคำพูดนั้นแทงใจดำเพื่อนสนิทของเขามากแค่ไหน ความรู้สึกของรังสิมันต์เกิดแรงกระตุกหลายครั้งนับตั้งแต่เห็นหน้ามัทนาเป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาไม่ได้พบเธอมานานกว่าห้าปี นับตั้งแต่เขาเรียนจบและไปอยู่ต่างประเทศกระทั่งกลับมาสานกิจการของครอบครัวซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนขนาดยักษ์ระดับประเทศ รังสิมันต์รั้งตำแหน่งซีอีโอของบริษัทที่ทำกำไรต่อปีมหาศาลทว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความสุขเลย แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานตั้งแต่อายุยังไม่แตะสามสิบแต่ประธานใหญ่แห่งอาร์ซีเอ็ม อินเวสเม้นท์กลับรู้สึกว่าชีวิตของเขาขาดสิ่งสำคัญในชีวิต เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่เคยมีใครรู้เบื้องหลังและความเป็นมา สักครู่รังสิมันต์จึงเอ่ยขึ้น
“นายไม่ต้องคิดมากหรอกวัฒน์ ถ้าเลขาของนายเธอไม่เต็มใจทำงานกับฉันก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยที่สุดวันนี้ฉันก็ได้เจอเธอแล้ว และรู้ว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันต้องขอโทษนายด้วยเมฆ บางทีฉันอาจจะโทรไปคุยกับโรสอีกครั้งเผื่อว่าเธอจะเปลี่ยนใจ”
“แค่นี้ฉันก็ขอขอบใจนายมาก ๆ...ถ้านายไม่ขายกิจการฉันก็คงยังไม่ได้พบกับ...คนที่ฉันอยากพบ”
“เหรอ...เออ...ก็ดีนะ”
อภิวัฒน์เกาหัวแกรก ๆ และทำหน้าเหมือนเข้าใจทั้งีท่เขาไม่ค่อยเข้าใจความหมายนั้น ทั้งสองนั่งคุยกันสักครู่ก่อนแยกย้ายกลับ รังสิมันต์ตรงไปยังรถของเขาที่มีคนขับรีบวิ่งไปเปิดประตูรอเจ้านายก่อนถามว่า
“คุณเมฆจะกลับเลยไหมครับ”
“ยังก่อน...ฉันจะไปไออุ่นเนอร์สเซอรี่”
“ครับ?...ไออุ่นเอนร์สเซอรี่หรือครับ...ครับๆ”
คนขับพยักหน้ารับก่อนรีบขึ้นรถแล้วบึ่งออกจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว
