บทที่ 6 บทที่2.คืนฝนพรำ!! 4
“Who are you?”
ถามออกไปแล้วชายหนุ่มก็ไม่มั่นใจสักนิดว่าเธอจะฟังออก หล่อนทำหน้างง ก่อนจะตะคอกกลับมา
“I now have to ask who you are?”
แวซ็องแสร้งส่ายหน้าไปมา เมื่อเห็นว่าหล่อนกำลังลังเล ชายหนุ่มกวาดสายตามองรอบๆ ตัวอีกครั้ง ก่อนจะเบี่ยงปลายเท้าลงมาจากแคร่ มีลูกสมุนหน้าขน คืบคลานเข้ามาประจบ เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของมัน ก่อนจะยิ้มกว้างๆ เมื่อปลายลิ้นสีสดแลบออกมาไล้เลียที่หลังมือ
เมวิกากลอกตามองบนฝ้าเหนือหัว หมดกันไอ้หมาขี้ประจบ! ไม่รู้ว่าเป็นคนดี หรือคนร้ายๆ แค่เห็นเขาดีด้วยหน่อย มันเริ่มออกลวดลายออเซาะเสียแล้ว
“Can you speak Thai” ภาษาอังกฤษของเธอไม่ค่อยแข็งแรง พอที่จะสื่อสารได้มากไปกว่านี้ ถ้าแค่คำศัพท์ง่ายๆ ที่ใช้กันเป็นประจำก็ไม่แปลก แต่หากล้วงลึกกว่านี้เธอก็ต้องอึ้งไปเหมือนกัน “I'm not an expert and does not want to use sign language to communicate”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ เขาเป็นอัจฉริยะที่สามารถพูดได้หลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย แม้จะยังไม่ถึงขั้นชำนาญแต่ก็น่าจะพอถูไถไปได้
หญิงสาวเป่าปาก เธอลดด้ามไม้กวาดลง เมื่อสำรวจชายหนุ่มแล้ว เขาไม่น่าจะเป็นอันตราย
“คุณเป็นใคร แล้วนั่นของคุณใช่ไหม?”
คำถามของเมวิกายังเหมือนเดิม เธอต้องการรู้ว่าชายแปลกหน้า ตรงหน้าเธอคือใคร? เขาดูดี!! ยอมรับก็ได้เขาหล่อเวอร์เลยแหละ!! คิ้วเข้มๆ จมูกโด่งๆ ตาสีฟ้าใส หากใครเผลอมองไม่หลงก็ไม่ใช่คนแล้ว!!
ชายหนุ่มคิดทบทวน ไม่รู้ว่าหล่อนไว้ใจได้แค่ไหน แต่คะเนแล้ว ผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามแน่ เธอดูเป็นคนธรรมดาสามัญ และที่สำคัญ พอได้มองใกล้ๆ หล่อนหน้าตาดีไม่ใช่เล่น เขาได้กลิ่นสาวบริสุทธิ์โชยมาเข้าจมูก...มันน่าสนุกไม่ใช่เหรอ? หากจะใช้ช่วงเวลาที่ซ่อนตัว อยู่กับหล่อน...
แวซ็องมองตามมือของหล่อน เสื้อผ้าของเขาที่พาดไว้บนราวแทนชุดที่กำลังสวมอยู่บนร่างกาย
ใบหน้าคมคายพยักหน้ารับหงึกงัก...ยิ้มมุมปากแต่กลับทำให้เขาดูเป็นมิตรขึ้นกว่าเดิม
“เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?”
หญิงสาวทัก พลางเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ เวลาของเธอเหลือน้อยเต็มที เมื่อใกล้ถึงเวลาต้องออกไปทำงาน
“ฉันโดนปล้น!”
เขาไม่ได้โกหก เขาโดนใครบางคนชิงทรัพย์จริงๆ แม้จะได้ไปแค่ไม่กี่สตางค์
กระเป๋าใส่สตางค์ยังอยู่ แถมบัตรเครดิตอีกหลายใบที่สามารถรูดเงินสดออกมาใช้ได้ แต่...หากเขาทำเช่นนั้น ดิดิเย่ร์ มันต้องตามกลิ่นเจอแน่ เขายังอยากอยู่สงบๆ ให้สมกับเป็นช่วงพักร้อน ยังไม่อยากปวดหัวเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก ทางที่ดีคือต้องหาเงินใช้ทางอื่น ทางที่ไม่มีใครรู้จุดว่าเขาแอบซ่อนอยู่ที่ใด
เขาคงต้องหาที่ซ่อนปืน ยังไม่อยากให้หล่อนแตกตื่น...
“พระเจ้า!!”
หญิงสาวยกมือทาบอก เธอรู้สึกเวทนา เขาเป็นต่างชาติที่เคราะห์ร้าย...และหากคนในประเทศไร้น้ำใจ เขาคงขยาดจนไม่กล้าย้อนกลับมาท่องเที่ยวที่นี่อีก ด้วยเลือดอันเข้มข้นของคนไทยสายอนุรักษ์ เธอผ่อนลมหายใจยาวๆ เมื่อคิดจะช่วยเหลือคนแปลกหน้าเท่าที่ตัวเองทำได้
“ฉันช่วยอะไรคุณได้มั่งคะ?”
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาเดินเข้าไปหาหล่อน พร้อมกับแอบสูดกลิ่นหอมๆ ของหล่อนไปด้วย
“ผมไม่มีอะไรเหลือเลย” แวซ็องล้วงกระเป๋าใส่สตางค์ของตัวเองเปิดออกและแหกให้หล่อนดูช่องกระเป๋าที่ว่างเปล่า ไม่มีเงินเหลือติดอยู่ในนั้นและพยายามบังๆ ไว้ไม่ให้อีกฝ่ายมองเห็นบัตรเครดิตเป็นตับของเขาที่เรียงแน่นเต็มทุกช่อง เขาไม่ได้โกหก เขาไม่มีเงินสดในตัว มีแต่เงินในบัญชีธนาคาร... “ช่วยผมหน่อยได้ไหม?” ตอนที่ขยับเดิน เสียงนาฬิกาขยับเสียดสีกับกางเกงดังก็อกๆ แก็กๆ แวซ็องเลยเกิดไอเดีย หากเอานาฬิกาหยุดเดินนี่ไปขาย ไม่มีใครตามกลิ่นเขาเจอแน่
“สภาพฉัน ช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอกค่ะ แต่ไม่ต้องห่วง... ฉันจะพยายามหาทางช่วยเอง”
เพื่อสร้างมิตรภาพ และแสดงน้ำใจให้คนต่างชาติเห็น ถึงเธอไม่สามารถช่วยเขาได้ แต่เมวิกาก็จะหาทางช่วย
“ฉันมีไอ้นี่ ฝากเอาไปขายให้หน่อยได้ไหม?” ชายหนุ่มพยายามสื่อสารให้หล่อนเข้าใจมากที่สุด
เมวิกามองนาฬิกาสีทองยี่ห้อดัง สลับกับมองหน้าเขา นาฬิการุ่นนี้ส่วนมากจะราคาแพง...ผู้ชายตรงหน้าเธอนี่ไม่ธรรมดาเสียแล้ว...
