บทที่ 3 พลาดรักร้ายนายวิศวะ EP.2 ผู้หญิงที่แคร์มากที่สุด
มิริณหยิบแว่นตาที่แตกละเอียดมาปัดๆ ก่อนที่จะเก็บมันเข้ากระเป๋า และรีบเดินไปนั่งกับขวัญข้าวและบีนา จะให้ฉันมานั่งดูเขาแข่งบาสได้ยังไงกันในเมื่อไม่ใส่แว่นฉันก็เหมือนคนตาบอดดีๆนี่เอง ที่มองอะไรในระยะไกลก็เป็นภาพที่เบลอไปหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ฉันเองก็ตกใจมาก เช่นกัน อรัณ หนุ่มสุดฮอต คณะวิศวะปีสี่ หึ! เขาเป็นผู้ชายที่ปากร้ายที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอมา เขาต่างหากที่วิ่งออกนอกสนามมาชนฉันจนเลนส์แว่นตาฉันหล่นแตก แต่ไม่คิดจะขอโทษสักคำ และยังมาโทษคนอื่นอีก
ร่างบางเจ้าของใบหน้าหวานใสได้แต่นั่งกำมือแน่นด้วยความโกรธจัด ที่โดนหนุ่มรุ่นพี่นั้นโยนความผิดให้เธอ
ส่วนอีกด้านของฝั่งสนาม ใบหน้าอันหล่อเหล่าได้แต่ชักสีหน้าด้วยความหงุดหงิด
!! ปี๊ดๆ !! จากนั้นเสียงลูกหวีดของกรรมการก็ดังขึ้น
"หมดเวลาพัก ลงสนามได้แล้ว" ริวเอ่ยกับอรัณมาพร้อมกับยกนิ้วให้เพื่อน
"เมื่อกี้กูจะชู้ดลูกบาสเข้าอยู่แล้วเชียว เป็นเพราะยัยนั่นที่เดินไม่ระวัง ทำให้พวกกูต้องเสียเวลาเนี้ย" อรัณบ่นให้กับเจ้าของร่างบางมาอย่างหงุดหงิด ทำเขาทั้งสามหนุ่มถึงกับหันมองหน้ากัน พออรัณลงสนามไปแล้วนั้น
"แต่เมื่อกี้ไม่ใช่มันหรือวะที่ออกจากนอกสนาม แล้วไปชนผู้หญิงคนนั้น" ริกเอ่ยกับริวและเรียวตะมาด้วยสีหน้างง
และการแข่งขันในอีกสิบนาทีสุดท้ายเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด แห่งกันอย่างเมามันส์และสูสีเอามักมาก จนฝ่ายกองเชียร์นั้นหายใจกันไม่ทั่วท้อง เสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่ากองเชียร์ดังขึ้นมาแทบจะทุกนาทีที่อรัณ หมายเลขแปดกัปตันของทีมชู้ตลูกบาสเข้า
"อร้าย...พี่อรัณ ทำไมเขาดูหล่อดูเท่มากอะแก"ยัยขวัญข้าวที่ลากฉันมาเพราะสิ่งนี้สินะ สาวๆที่นั่งบนสแตนเชียร์ กรี๊ดกันดังลั่นทั้งสนาม แต่มีเพียงมิริณคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนอย่างอรัณ อย่างที่ใครๆหลายคนกำลังเชียร์อยู่
คู่แข่งขันบาสที่ดุเดือดแห่งปี ในที่สุดอรัณก็เป็นคนที่ชู้ตลูกบาสเข้าและทำคะแนนนำฝ่ายตรงข้ามไปอย่างหวุดหวิดเพียงสี่คะแนนเท่านั้น ทำเอาสาวๆ ทั้งกับกรี๊ดลั่นกับดีกรีความเก่งและความฮอตของอรัณ ในที่สุดทีมคณะวิศวะก็คว้าแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้ไปได้ เรียกได้ว่างานกีฬาสีประจำปีนี้ คณะที่คว้ารางวัลมากที่สุดก็ไม่พ้นคณะวิศวะอย่างเช่นทุกๆปีนั้นเอง
ด้านมิริณหลังจากจบการแข่งขันแล้วนั้นร่างบาง ก็เดินกลับคณะไปกับสองสาวเพื่อนซี้อย่างขวัญข้าว และบีนานั้นเอง
"พี่อรัณเนี้ยพี่เขาเก่งเนอะ เก่งซะทุกด้านจริงๆ ยิ่งเห็นหน้าพี่เขาใกล้ๆ นะแกคนอะไรผิวใสยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก ถ้าได้เป็นแฟนพี่เขานะชาตินี้ฉันจะไม่ลืมเลย" อ่า ยัยขวัญข้าวแกนี้ชอบละเมอกลางวันจริงๆ เลยนะ
"ฮอตระดับต้นๆ ของมหาลัยใครเขาจะมามองเด็กทุนอย่างพวกเรา แกไม่เห็นตอนที่เขาวิ่งมาชนยัยมิริณเหรอ หน้านี่บึ้งยิ่งกว่าอะไร ใช่ไหมแกๆ เห็นอย่างที่ฉันเห็นไหมมิริณ"
"ใช่แกพูดถูก เขายังเป็นฝ่ายมาโทษฉันอีกนะว่าฉันนะตั้งใจชนเขา บ้าจริงเลย และชนจนทำเอาแว่นฉันพังอีกเนี้ย"
"พี่เขาคงไม่ตั้งใจจะทำมันพังหรอกน๊า แกก็ลืมๆมันไปเถอะ" ยัยขวัญข้าวหันมาบอกกับฉัน ผู้เจอรัศมีของคนดังเข้าหน่อย ถึงกับบอกฉันให้อภัย มิริณได้แต่มองค้อนให้เพื่อนไปหนึ่งที
"ฉันคงไม่ตามไปเอาเรื่องเขาหรอกน๊า ขี้เกียจมีปัญหากับพวกคนดัง ระดับตัวท็อปของมหาลัยซะด้วยน่ะสิ"
"แล้วนี้แกจะกลับเลยไหมหรือไปไหนกันต่อ เรามีเรียนอีกทีห้าโมงเย็นเลยอะ นี้พึ่งจะบ่ายสามเอง" ยัยบีนาหันมาถามฉันและยัยขวัญข้าว
"ฉันรู้สึกปวดท้องประจำเดือนอะแกๆ ปวดแบบหน่วงๆเลยคิดว่าจะไปนอนพักที่ห้องพยาบาล" ฉันหันไปบอกกับเพื่อน
"งั้นแยกกันตรงนี้เลยก็ได้ ฉันกะจะไปดูของขวัญวันเกิดให้กับพี่ชายฉันน่ะ" ยัยบีนาหันมาบอกกับพวกฉัน
"งั้นฉันไปกับบีนาดีกว่า แล้วเจอกันนะแก" ยัยขวัญข้าวบอกฉันจบนางก็เดินไปกับยัยบีนา
แยกจากเพื่อนก่อนที่ฉันจะไปห้องพยาบาล็ไม่ลืมแวะห้องน้ำ เพื่อที่จะใสคอนแทคเลนส์ ยังโชคดีหน่อยที่มิวาบอกให้ฉันเอาติดใส่กระเป๋ามาด้วย ไม่งั้นฉันต้องใช้ชีวิตเรียนในช่วงค่ำแย่มากแน่ๆ เมื่อใส่ในตาฉันครบทั้งสองข้าง เช็คความเรียบร้อย จากนั้นร่างบางของมิริณก็เดินไปยังห้องพยาบาลของมหาวิทยาลัยทันที
พอเดินเข้ามาฉันก็บอกอาการกับพี่พยาบาลจากนั้นฉันก็รับยาแก้ปวดประจำเดือนมาทาน
"พี่พยาบาลคะ หนูขอนอนพักที่นี่ก่อนได้ไหมคะ ยังรู้สึกปวดหน่วงๆ อยู่นะคะ" เสียงหวานเอ่ยกับเจ้าหน้าที่ประจำห้องพักพยาบาลไป
"ได้ค่ะนักศึกษาพักจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น ค่อยไปก็ได้คะที่นี่ปิดช่วงสองทุ่มนะคะ"
"ขอบคุณค่ะ" หลังจากเอ่ยจบจากนั้นฉันก็ทำหน้าที่นอนพักทันทีและก็ไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ เพราะฉันมีเรียนต่อในช่วงเย็น ที่อาจารย์นัดชดเชยชั่วโมงเรียนที่อาจารย์หายไป
ห้อง R วิศวะ
อีกด้านของอรัณ ทั้งสามหนุ่มอย่างเรียวตะ ริก ริว กำลังร่วมฉลองชัยชนะในครั้งนี้ ให้กับอรัณ ที่คว้าแชมป์บาสได้สำเร็จ แต่เจ้าของถ้วยรางวัลกับหน้าตึงคิ้วขมวดทำเขาทั้งสามหนุ่มนั้นถึงกับสงสัย ที่อรัณนั้นไม่ยอมมาร่วมนั่งวง แต่กับไปนั่งกดสมาร์ตโฟนด้วยใบหน้าเคร่งเครียดที่โซฟาตัวยาวภายในห้อง
"ไอ้เชี่ยรัณ มึงแม่ง เป็นห่าไรวะ กูเห็นแม่งนั่งหน้าตึง ตั้งแต่ออกมาจากสนามและ" ริวที่สังเกตสีหน้าของเพื่อนได้แต่เอ่ยขึ้นมาด้วยความสงสัย
"ไอ้ริว แม่งมึงยังไม่รู้ใจเพื่อนรักมึงเลยเหรอวะ" เรียวตะที่นั่งจิบเบียร์กระป๋อง ได้แต่เสมองหน้าริวและอรัณที่อยู่อีกฝั่ง
"คือไร มึงพูดให้กูเก็ททีดิ"
"แพท ที่ไอ้อรัณมันเป็นแบบนี้เพราะแพทไม่ได้ไปให้กำลังใจมัน...ใช่ไหม กูเดามึงถูกไหมไอ้อรัณ" อรัณที่โดนเรียวตะถามจี้จุดมาเช่นนั้น ใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับนิ่งแต่ก็ไม่ได้สนใจเพื่อน ในมือยังคงพิมพ์ไลน์หาคนที่เรียวตะกำลังเอ่ยถึง
"มึงเล่นเงียบใส่กู แสดงว่ากูพูดถูก" เรียวตะยังคงพูดต่อ อรัณได้แต่สบตากับเพื่อนจากนั้นร่างสูงก็ลุกขึ้น
"พวกมึงดื่มกันไปเลยนะ กูไปหาแพทก่อน คืนนี้เจอกันที่ร้านเดะกูตามไป " อรัณเอ่ยจบจากนั้นก็เดินออกจากห้องไปทันที ทั้งสามหนุ่มถึงกับงงงวยไปตามๆ กัน
อรัณ แพทคือใครนะเหรอ แพทคือเพื่อนสาวคนสนิท ที่เขาไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อน ผู้หญิงที่เขาอยากจะใช้ชีวิตและแต่งงานกับเธอ แพทเรียนอยู่คณะนิเทศ เรารู้จักและสนิทกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง สถานะไม่ใช่แฟนแต่ผูกพันมากเกินกว่าเพื่อนแต่ไม่ถึงขั้นเมีย เพราะแพทเธอไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย อะไรที่ได้มายากๆ มันยิ่งทำให้ผมโคตรอยากได้ เขาแคร์เธอมากกว่าใคร แพทเธอเป็นเพื่อนรักของนีน่าและนีน่าก็เป็นคู่หมั้นกับอคิณซึ่งพี่ชายของเขานั้นเอง อรัณแพทและนีน่า พวกเราสนิทกันมาก
ไม่นานนักร่างสูงของ อรัณก็เดินเข้ามาถายในห้องพยาบาลตามที่แพทบอกพอมาถึงก็เจอกับเจ้าของใบหน้าสวยที่นั่งรอเข้าอยู่บนเตียงที่มีผ้าม่านนั้นปิดเอาไว้เพียงแค่ครึ่งหนึ่ง
"รัณคะ แพทต้องขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปเชียร์รัณ แพทปวดหัวมากจึงต้องมานอนพักที่นี่" แพทเอ่ยกับอรัณมาเสียงหวาน
"ไม่เป็นไรเราไม่ได้โกรธไรแพทเลย แล้วนี้เป็นไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง" อรัณถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
"แพทดีขึ้นแล้วๆ ที่รัณบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับเรา มีอะไรหรือเปล่า เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญด้วย คุยตรงนี้ได้ไหม" อรัณมีสีหน้าหนักใจเล็กน้อย
"ได้สิ คุยตรงนี้ก็ได้"
อ่านกันให้สนุกนะคะ ฝากเอ็นดูกดไลท์ และคอมเม้นต์พี่อรัณกันด้วยนะคะ
