บทที่ 6 ตอนที่ 3 ท่านหญิงหยี่ซิน2

ทุกวันมีแต่ความเป็นอยู่ที่ดี มีชีวิตสุขสบาย สดใสและสวยงาม ไม่มีใครหรือเรื่องใดที่ทำให้นางต้องก้มหัวให้

แน่นอนว่าซือเร่อไม่มีทางบอกความจริง ว่าคนที่ช่วยชีวิตท่านอ๋องนั้น ที่แท้คือเฟิงลี่ ผู้เป็นน้องสาว

เพราะหากบอก เชื่อได้เลยว่าความรักและความเมตตาทั้งหลายย่อมถูกยักย้ายไปให้เฟิงลี่ หาใช่ซือเร่อผู้นี้ไม่

และนั่นคือแรงจูงใจอันแรงกล้าที่ทำให้ซือเร่อไม่อาจแม้แต่จะส่งข่าวคราวให้เฟิงลี่

ขืนส่งไปมีหวังถูกล่วงรู้ความลับน่ะสิ!

ส่วนน้องสาวผู้เก่งกาจของนางกับท่านตาหานไต้ย่อมอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้นางเป็นกังวล

ยิ่งน้องสาวของนางผู้นั้น เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว

ท่านหญิงหยี่ซินยิ่งเติบใหญ่ยิ่งงดงาม รูปโฉมเป็นเลิศ ดวงตากลมโตกระจ่างใส ดวงหน้าหยาดเยิ้มชวนหลงใหล ชายใดได้ยลล้วนเก็บไปเคลิ้มฝันถวิลหา

กิริยาวาจาหรือก็อ่อนโยนนุ่มนวล ทำตัวเหมาะสมไม่มีด่างพร้อยให้ต้องคอยแก้ต่าง

นั่นคือชื่อเสียงอันดีงามของซือเร่อที่ยามนี้ได้สลัดคราบเด็กหญิงบ้านป่าออกแล้วจนหมดสิ้น

คงเหลือเพียงท่านหญิงหยี่ซินที่เป็นสตรีชั้นสูงในห้องหอ กิริยาวาจาล้วนสำรวมอยู่ในกฎเกณฑ์

ซือเร่อมุมานะที่จะเป็นสตรีงามสง่าสูงส่ง จึงดูแคลนวิชาการต่อสู้การออกหมัดมวย

การฝึกยุทธ์ที่จำต้องทำท่าทางไม่ต่างจากชนเผ่าป่าเถื่อน การรำทวนไม้ การสร้างกับดัก การล่าเหยื่อ การทำอาวุธไล่ล่าสัตว์ป่าอันใดเหล่านั้นล้วนไม่มีอยู่ในสมอง

และด้วยอิทธิพลคับฟ้าของเจิ้งเทียนฉี ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยถึงตัวตนดั้งเดิมของนาง

นามซือเร่อยิ่งไม่มีใครรู้จัก มีเพียงท่านหญิงหยี่ซินเท่านั้น นั่นจึงทำให้เฟิงลี่ไม่มีทางตามหาพี่สาวนามซือเร่อเจอเสียที

วังฝูอ๋องของเจิ้งเทียนฉี

ภายในเรือนหรูหรา ประดับประดาด้วยเครื่องเรือนล้ำค่า ทุกสิ่งที่นำมาตกแต่งทั่วห้องล้วนงดงามสะดุดตา บ่งบอกถึงฐานะอันสูงศักดิ์แห่งเจ้าของ

ซือเร่อหรือท่านหญิงหยี่ซินจึงชอบมาก

สิ่งล้ำค่าที่เห็นในห้องหลักยังมีที่เก็บเอาไว้ในห้องปีกข้าง ยามที่ซือเร่ออายุสิบห้าปี ชินอ๋องเจิ้งเทียนฉีจัดงานวันเกิดให้นางอย่างอลังการยิ่งใหญ่ ของขวัญวันเกิดจึงถูกส่งมาไม่น้อย           ทั้งเครื่องประดับหลายหีบและอัญมณีหายากในกล่องหลายใบ มากเสียจนท่านอ๋องต้องสั่งทำห้องเพิ่มให้อีกหนึ่งห้องเพื่อเก็บสิ่งของมีค่าเหล่านั้นโดยเฉพาะ

ภายในห้องอาบน้ำ มีผ้าม่านหลายชั้น กลิ่นหอมโชยกรุ่น เสียงของซือเร่อดังมาจากถังอาบน้ำขนาดใหญ่ที่โรยกลีบดอกไม้ “จื่อซิ่ว ผ้าเช็ดหน้าของข้าควรเป็นสีขาวพิสุทธิ์ เหตุใดจึงลืม”

สาวใช้นามจื่อซิ่วถึงกับชะงักก่อนก้มหน้านอบน้อม “เรียนท่านหญิง ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เพิ่งสั่งซื้อเข้ามาคู่กับผ้าเช็ดผม เป็นผ้าเนื้อดี สีสันสดใส ท่านอ๋องทรงสั่งให้บ่าวเอามาเตรียมไว้ เผื่อท่านหญิงเรียกหาเจ้าค่ะ”

“อ้อ...” ซือเร่อเหยียดกายขาวเนียนเปลือยเปล่านั่งอิงกับขอบถังไม้ที่มีไอน้ำลอยกรุ่นออกมา ปล่อยให้สาวใช้คนหนึ่งขัดแผ่นหลัง อีกคนนวดมือ อีกคนนวดเท้า อีกคนนวดเส้นผมยาวยื่น อีกคนคอยเติมน้ำมันหอมเป็นระยะ จนกลิ่นหอมโชยฟุ้งไปทั่วห้อง

ตรงขอบถังไม้อีกฝั่งยังมีสาวใช้อีกคนคอยโปรยดอกไม้และคอยดูแลน้ำให้อุ่นพอเหมาะตลอดเวลา

ซือเร่อยามนี้มองดูคล้ายนางฟ้ากำลังอาบน้ำบนสวรรค์

ท่าทางของเด็กสาวดูเกียจคร้านแต่กลับงดงามอย่างยิ่ง ดวงหน้าคิ้วตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา

ยิ่งเติบใหญ่ยิ่งเป็นสะคราญโฉมเลิศล้ำ

นางพยักหน้าเบาๆ “ข้าลืมไปแล้วจริงๆ ว่าตนเองเพิ่งบอกท่านพ่อบุญธรรมไปว่าชอบสีชมพูแบบเดียวกับองค์หญิงเจิ้งอวี้ นางทรงโปรดสีชมพูมาก ผ้าเช็ดหน้าผ้าอาบน้ำล้วนเป็นสีชมพู และข้ายังชอบสีกุหลาบแบบเดียวกับองค์หญิงเจิ้งฮวา มาๆ เจ้ายกมาให้ข้าเลือกดูเถิด อาบน้ำครั้งหน้าข้าจะเลือกสีใด”

จื่อซิ่วน้อมรับ “เจ้าค่ะ”

สาวใช้รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปทางชั้นไม้ ยกผ้าทั้งพับลงมาวางบนโต๊ะเตี้ยข้างถังอาบน้ำ เพื่อให้ท่านหญิงหยี่ซินได้คัดเลือกอย่างอารมณ์ดี

ซือเร่อพลิกตัวอยู่ในอ่างน้ำ เอื้อมมือเรียวขาวออกมาเลือกผ้าอย่างใจเย็น

จังหวะนั้นสาวใช้อีกคนพลันสืบเท้าเข้ามาอย่างพินอบพิเทา หากแต่ดวงตากลับทอประกายวาววับอย่างซุกซน นางรีบกล่าวกับซือเร่อว่า

“เรียนท่านหญิง วันนี้มีองค์ชายรูปงามผู้หนึ่งเข้ามาพบท่านอ๋อง เท่าที่บ่าวแอบฟังได้ยินท่านอ๋องเสวนากับองค์ชายผู้นั้นอยู่หลายประโยค แต่มีประโยคหนึ่งนับว่าสำคัญที่สุดเจ้าค่ะ”

ซือเร่อหยุดมือจากผ้าบนโต๊ะเตี้ย สนใจสาวใช้นางนี้ทันที

“อะไรหรือ? เสี่ยวชุ่น”

เสี่ยวชุ่นรีบยอบกายข้างถังอาบน้ำ บอกอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านอ๋องทรงบอกว่าพระองค์หมายตาองค์ชายรูปงามผู้นี้ให้กับท่านหญิงเจ้าค่ะ ยามนี้คงกำลังคุยเรื่องพิธีหมั้นกันอยู่”

ซือเร่อได้ฟังพลันลุกขึ้นนั่งจนน้ำกระฉอก “อะไรนะ?”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป