บทที่ 8 คนแรกของกันและกัน

“ฉันจะดูแลมันอย่างดี ฉันสัญญา”

ดวงตาสวยหรี่มอง จับจ้องให้ลึกเข้าไปข้างใน

“แล้วถ้าคุณดูแลมันไม่ดีล่ะคะ”

“เธอจะเป็นอิสระทันที”

หัวใจของอาราดาชุ่มฉ่ำขึ้นอย่างทันท่วงที แม้มิรู้ว่าคำสัญญานั้นจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ตอนนี้ เธอกับเขา อายุแค่ยี่สิบสองปีเท่านั้น ถือว่ายังเด็กกันอยู่มาก ยังอ่อนด้อยประสบการณ์ในหลายเรื่อง ดังนั้น ถ้าจะปักใจเชื่อในตอนนี้นั้นคงเป็นไปไม่ได้แน่

แต่ถ้าชีวิตของเธอเป็นของเขา เธอจะมีความสุขตลอดไปใช่หรือไม่

“อาราดา” พูดพลางก็จูบลงบนมุมปากสวยอิ่มของหญิงสาว แล้วไล่วนไปจนถ้วนทั่วทั้งใบหน้า ฝ่ามือของชายหนุ่มลูบไล้แผ่นหลังละเอียดเนียนแบบบางไปอย่างสะเปะสะปะ ก่อนจะดันเข้าหาตัวจนแน่น แล้วกดกายส่วนหน้าของตนเองเข้าหาเธอจนเธอรู้สึกได้ถึงการจู่โจมกรายๆ

”ก่อนฉันจะไปถึง 5 ปี ฉันขอเซ็นสัญญากับเธอก่อนนะ เพื่อจองเอาไว้ก่อน จองเอาไว้ ห้ามใครมาแตะต้อง เพราะเธอมีเจ้าของชีวิตแล้ว”

หญิงสาวตัวสั่นงันงกเหมือนลูกนกเปียกน้ำ เธอหวาดกลัวไม่น้อยกับการรุกรานเร่งเร้าของชายหนุ่มเจ้าของกายแสนบึกบึนอย่างวิศรุต

“หมายความว่า...”

“เป็นของฉันเถอะนะ นะไอ อย่าให้ฉันต้องไปอย่างมีห่วงเลย”เขาทั้งอ้อนวอน ทั้งออดอ้อน จนเธอใจสั่นไปหมด”ฉันอุตส่าห์ลงทุนจูบเธอมาตั้งนานแล้วนะ แล้วรู้ไหม กว่าจะย่องลงมาถึงห้องเธอได้ ฉันต้องใช้ความกล้ามากแค่ไหน อย่าใจร้ายกับฉันเลยนะ”

เธอแอบถอนหายใจด้วยความหนักหน่วง ความต้องการของเขามันมากเกินกว่าที่เธอจะให้ได้จริงๆ

“เอาไว้ให้คุณเล็กกลับมาจากเมืองนอกก่อนนะคะ”

“ไม่” เขาขึ้นเสียงทันที ดวงตาดุดันมองเธอด้วยความขัดใจ “เธอสวย เข้าใจไหม เธอสวยมาก ฉันไม่ไว้ใจหรอก ถ้าใครมายุ่งกับเธอ ฉันจะทำไง”

“คุณเล็ก” เธอเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนใจ “ไอไม่มีทางไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นหรอก”

เขาขยับใบหน้าเข้าใกล้ แล้วส่งเสียงกระซิบใกล้หู “ฉันไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาก่อน เธอไม่อยากเป็นผู้หญิงคนแรกของฉันเหรอ เราจะเป็นคนแรกของกันและกันนะ เธอไม่เข้าใจเหรอไอ เธอไม่อยากเปิดซิงฉันเหรอ”

“คุณเล็กน่ะ พูดจาน่าเกลียดจริงๆเลย” หญิงสาวรู้สึกอายจนหน้าแดงไปหมด

“ตามใจ เพราะฉันไม่เก็บเอาไว้เพื่อเอาไว้ให้เธอแน่” เขาพูดเสียงเขียว กำลังจะหันหลัง หญิงสาวยื่นมือไปจับที่เสื้อของเขาเอาไว้ ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม หันกลับมาหาเธออีกครั้ง

วิศรุตรวบร่างบางเอาไว้จนแน่น อาราดาสอดมือกอดเกี่ยวเอวชายหนุ่มเอาไว้ จากนั้นก็เบียดกอดจนร่างติดกันเหมือนตังเม สองร่างพันเกี่ยวกันจนแยกกันไม่ออก จนรู้สึกได้ถึงความร้อนลุ่มที่แผดเผาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

เธอพยายามดันกายใส่เขาและเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล เธอไม่รู้หรอกว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้เขามีความสุขมากขึ้นไหม แต่สำหรับเธอแล้ว มันมีค่ามากเกินกว่าจะเรียกว่าอารมณ์ใคร่ เพราะเธอรู้สึกถึงความรักล้นใจที่เกิดขึ้นเหมือนระเบิดปรมาณู

เธอสุขใจเหลือเกินที่ได้อยู่ในอ้อมกอดอันกว้างขวาง แข็งแรง อบอุ่น ยิ่งไปกว่านั้น คือการปกป้องจากใครสักคนจริงๆ

ชายหนุ่มจูบริมฝีปากที่เผยอน้อยๆของเธออย่างโหยหา สอดแทรกลิ้นอุ่นเข้าควานหาลิ้นนุ่มของเธออย่างซุกซน โรมรันฟัดกันอย่างถึงพริกถึงขิง เหมือนเป็นอาหารที่แสนโปรดปรานที่ค้นหามาชั่วชีวิต

หญิงสาวรู้สึกถึงความอบอุ่นอ่อนโยนที่เขาบรรจงมอบให้ผ่านการจูบที่แสนสะพรึงใจ หากเมื่อฝ่ามือของเขาเลื่อนผ่านเรือนร่างของเอลงไปจับบีบตรงแก้มก้นกลมแน่น เจ้าหล่อนกลับชะงัก ตกใจจนหน้างัน ทว่า หากเมื่อถูกลูบคลำจนเริ่มชาชิน เธอก็ยอมยืนนิ่งให้เขาได้กระทำตามใจชอบ อย่างรู้สึกใคร่รู้เฉกเช่นกัน

ชายหนุ่มบรรเลงริมฝีปากคลึงเค้นใบหน้าอิ่มสวยไม่ยอมหยุด ราวกับมันเป็นอาหารวิเศษที่ดื่มกินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ เขาจูบสูบวิญญาณของหญิงสาวจนอ่อนระทวยไปทั้งร่าง จนแทบจะควบคุมการทรงตัวไว้ไม่ไหว กระนั้นแล้ว เขาเองก็รู้สึกร้อนดังไฟเผาไม่ต่างกับเธอ

ร่างกายในยามนี้มันไม่ใช่ตัวของตัวเองอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขาโดนอสูรร้ายเข้าสิงสู่และบงการให้กระทำตามสันชาติญาณ เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการปลดปล่อยความร้ายกาจที่แสนคึกคะนอง เพื่อปลดปล่อยอารมณ์อันร้อนแรงไปสู่ความอ่อนโยนที่แสนมหัศจรรย์

ชายหนุ่มกอดหญิงสาวเอาไว้แน่น จูบขยี้ริมฝีปากของเธอด้วยความรุนแรงแต่แฝงเร้นความอ่อนหวานนุ่มนวล แล้วพาร่างสวยลงนอนบนฟูกนุ่มกลิ่นหอมละมุน ดวงตาสวยของอาราดาตื่นตระหนกเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มได้จัดการดึงกางเกงของตนเองออกไปจากร่างกายเสียแล้ว

“คุณเล็กคะ เราสองคนแน่ใจหรือคะ ว่าพร้อมจะทำเรื่องแบบนั้น”

แต่ดูเหมือนเขาจะหูหนวกไปเสียแล้ว เพราะขาดคำนั้น เขาก็กระโจนลงขยี้เรือนร่างของเธอราวกับเธอเป็นหมอนข้างเสียอย่างนั้น เขาทำราวกับตนเองเป็นหมาป่าที่กำลังคุ้ยแคะซากลูกแกะที่น่าสงสารให้ไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป