บทที่ 1 ไร้ทางเลือก

@ALN กรุป

บริษัทนำเข้าส่งออกรถยนต์

อลันนั่งมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองด้วยความกระอักกระอ่วนใจ มันแผดเรียกเข้าอยู่หลายครั้งและเขาทำได้เพียงปล่อยให้ต้นทางวางสายไปเอง

ก๊อก! ก๊อก!

คราวนี้เป็นประตูห้องทำงานบานใหญ่ถูกเคาะและเปิดเข้ามาโดยยังไม่ได้ขออนุญาตสักแอะ ปรากฏตัวภาคินเลขาส่วนตัวของเขาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"ท่านครับ สายจากคุณมาชาวีร์ครับ" บอกพร้อมยื่นโทรศัพท์ส่วนตัวให้เจ้านาย

"บอกเธอว่าฉันยุ่งอยู่" อลันทำปากขมุบขมิบแต่เสียงน้องสาวร่วมสาบานดังผ่านสายมาเสียก่อน

(วันนี้ถ้าพี่ไม่ยอมคุย วีร์จะสั่งคนให้ระเบิดบริษัทพี่ตอนนี้เลย)

ก๊อก! ก๊อก!

"ท่านครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ คนของคุณมาชาวีร์มาล้อมบริษัทของเราเอาไว้หมดแล้วครับ"

พนักงานรักษาความปลอดภัยวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมรายงาน ทำเอาอลันถึงกับต้องยกนิ้วขึ้นนวดขมับ โบกมือไล่ลูกน้องคนนั้นให้ออกไปก่อน

"ไม่เอาน่าวีร์ เรื่องนี้พี่ขอเวลาอีกหน่อยได้มั้ย ไว้เดี๋ยวพี่จะติดต่อกลับไปนะ"

(ไม่! พี่รู้ใช่มั้ยว่านอกจากวีร์จะระเบิดโรงงานนั้นทิ้งตามมูลค่าหุ้นของวีร์แล้ว ฮาเร็มของพี่วีร์ก็ไม่ละเว้น ทั้งเกาะจะใช้ระเบิดสักกี่ลูกเชียว)

เรื่องนี้อลันก็รู้ดีว่าเลี่ยงต่อไปไม่ได้แล้ว เมื่อสัญญาที่ภรรยาเคยให้ไว้กับมาชาวีร์และกำหนดการชดใช้เงินห้าร้อยล้านบาทมาถึง แต่ยังไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นไปจ่ายคืน แถมมาชาวีร์ยังไม่รับคืนแบบผ่อนอีก

"ก็ได้ สัปดาห์หน้าแต่งก็แต่ง พี่ยกเมญ่าให้เป็นลูกสะใภ้วีร์"

อลันไร้ทางเลือกแถมลูกสาวตัวดียังหนีออกจากบ้านอีก

(ค่ะ งั้นอีกสามวันเจอกันนะ หวังว่าพี่จะต้อนรับวีร์อย่างสมศักดิ์ศรี)

มาชาวีร์วางสายไปแล้วกลายเป็นอลันที่วางนิ้วจากขมับไม่ลง เขารีบกดโทรศัพท์โทรออกหาลูกสาวตัวดีแต่..

'เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ใครขณะนี้'

"บ้าเอ๊ย" อลันสบถอย่างหัวเสีย "ไอ้คนที่ไปตามตัวเมญ่ามันตามไปถึงไหนแล้ววะ"

"ตอนนี้คุณเมญ่าอยู่ที่ภูเก็ตครับ"

"แล้วทำไมไม่รีบบอก ยืนนิ่งอยู่ได้" อลันเกือบจะโยนโทรศัพท์ในมือทิ้งระบายความโกรธแต่ภาคินรีบห้ามไว้

"อย่าโยนนะครับท่าน นั่นมันโทรศัพท์ของผม"

ภาคินยกมือห้ามแล้วคว้าโทรศัพท์ของตัวเองจากมือเจ้านายเก็บลงกระเป๋ากางเกง

"จองตัวเครื่องบินให้ฉัน ฉันจะไปตามเมญ่ากลับมาเอง"

"ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอกครับ เพราะยังไงคุณน้ำรินเธอก็เอาอยู่"

"น้ำรินไปถึงที่นั่นแล้วงั้นเหรอ"

"ครับ คุณน้ำรินกำชับว่าเพื่อป้องกันไม่ให้คุณหนูหนีเตลิดไป เธอจะขอคุยเรื่องนี้กับคุณหนูเอง ผมแนะนำว่านายไม่ควรตามไปครับ"

"เฮ้อ~ มีเรื่องไหนมั้ยที่ฉันไม่รบกวนน้ำริน เมื่อไหร่เมญ่าจะได้เรื่องครึ่งน้ำรินสักที ฉันล่ะเหนื่อยใจจริง ๆ"

"คุณน้ำรินเธอเป็นคนกตัญญูต่อคุณนะครับ ที่สำคัญเป็นกัลยาณมิตรที่ดีของคุณหนูอีก"

"นั่นน่ะสิ...ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอฟังข่าวดีจากน้ำรินอยู่ที่นี่ แต่ถ้าเอาตัวเมญ่ากลับมาไม่ได้จริง ๆ ฉันก็คงต้องใช้ไม้แข็ง ไม่อย่างนั้นทุกอย่างย่อยยับแน่ ฉันรู้ว่ามาชาวีร์เอาจริง"

อลันทอดถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน ภายในใจครุ่นคิดจนอ่อนใจกับลูกสาวคนเดียวที่อายุ25ปีแล้วแต่ไม่เป็นโล้เป็นพาย งานการทำบ้างไม่ทำบ้างเอาแต่เที่ยวเตร่เป็นหลัก

ในขณะที่คนช่วยดูแลกิจการหลายหมื่นล้านกลับเป็นเพียงเด็กกำพร้า ซึ่งเขาเก็บมาเลี้ยงอย่างน้ำริน ส่วนลูกแท้ ๆ มีอยู่อย่างเดียวคือสร้างเรื่องให้ปวดหัวไปวัน ๆ

@ เกาะส่วนตัว

บ้านพักตากอากาศริมทะเลบนพื้นที่เกาะส่วนตัวแบบลับ ๆ ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสถานที่จัดปาร์ตี้ของเมริญา ไฮโซสาวสวยลูกนักธุรกิจชื่อดังซึ่งมีนิสัยรักความสันโดษ อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป เช่นครั้งนี้เธอจัดปาร์ตี้ถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนได้โดยไม่ต้องถูกพ่อบ่นเพราะปิดเครื่องหนี แถมยังได้ดื่มด่ำรสรักกับชายหนุ่มที่เธอโปรดปรานแบบบุฟเฟ่ต์อีกไม่อั้น

ปึก! ปึก! ปึก!

"อ๊ะ!อ๊ะ!"

เสียงลามกของเนื้อกระทบเนื้อดังก้องห้องพักหรูท่ามกลางแสงไฟกะพริบหลากสี ร่างอรชรวางฝ่ามือลงบนหน้าท้องแน่นหนั่นยกสะโพกขยับโยกกายบางขึ้นลงอยู่กลางกายชาย กดกลีบดอกอวบอูมโอบกลืนแท่งหรรษามิดโคนย้ำ ๆ ตอกกระชับเข้าออกตามอำเภอใจนับครั้งไม่ถ้วน

"ซี้ด~ให้ตายเถอะเบบี๋ ผมไม่คิดว่าคุณจะร้อนแรงถึงเช้าขนาดนี้"

"ก็ตรงนั้นของคุณมัน...อ๊า~"

ใบหน้าสวยเชิดมองเพดานเผยอริมฝีปากอวบอิ่มเปล่งเสียงครางหวานไม่หยุดหย่อน แสดงออกถึงความเสียวกระสันที่แล่นปราดไปทั่วร่าง

เมริญาโปรดปรานที่สุดเวลาที่ได้เป็นผู้ควบคุมความสุข ตอนนี้เธอยกให้มาคัสเป็นเพียงของเล่นมีชีวิตชิ้นโปรดที่ถูกเรียกมาใช้ระบายอารมณ์ทางเพศของเธอเท่านั้น และเขาก็ทำให้เธอผ่อนคลายได้ไม่รู้เบื่อ

"คุณทำเอาผมแทบคลั่งอีกแล้วนะ...เมญ่า ซี้ด~"

มาคัสกัดกรามแน่นยกฝ่ามือขึ้นเคล้นคลึงเต้าเต่งขนาดห้าร้อยซีซีที่โดดเด้งอยู่ตรงหน้า เมริญาในยามนี้กำลังทำให้ช่วงล่างของเขาบวมเป่งผลุบเข้าผลุบออกในช่องทางรักฉ่ำแฉะของเธอ จนเกือบจะแตะขอบสวรรค์อยู่รอมร่อ

"บอกมาซิ ฉันเด็ดกว่ายัยชิลีใช่มั้ย"

ร่างเล็กผ่อนแรงลงแล้วส่ายล่อนสะโพกกลมกลึงอยู่บนแท่งร้อน ปล่อยให้ชายหนุ่มรอเวลาปลดปล่อยอีกนิดตามประสาสาวชอบแกล้ง จริงอยู่ว่าเธอไม่ควรถามถึงแฟนตัวจริงของเขาในตอนนี้ แต่มันสะใจทุกครั้งที่คนเป็นที่หนึ่งในใจมาคัสยังเป็นเธอ

"ซี้ด...อย่าหยุดสิครับคนดี โยกต่อแรง ๆ นะเบบี๋"

"ตอบมาก่อนสิ ใครเด็ดกว่า" ดวงตาเฉี่ยวหลุบมองคนใต้ร่างอย่างเย้ายวน เรียกความหื่นกระหายจากชายหนุ่มจนต้องรีบพล่ามตอบเอาใจ

"แน่นอน คำตอบก็ต้องเป็นคุณอยู่แล้ว ที่สุดที่หนึ่งของผม"

พรึ่บ!

"ว้าย~"

ชายหนุ่มอดใจรอไม่ไหวอีกต่อไปจัดการสลับร่างอรชรให้นอนราบไปกับเตียงหนานุ่ม แยกเรียวขาสวยทั้งสองข้างออกจากกันกว้างพาดเอาไว้บนข้อพับแขน กระแทกแก่นกายที่โอบล้อมด้วยเส้นเลือดเข้าใส่ร่องรักอ่อนนุ่มอย่างดุเดือด กำราบคนใต้ร่างให้ตกอยู่ใต้ไฟราคะที่เขาสุมมันลงบนกายเธอ

ปึก! ปึก! ปึก!

"อ๊ะ!อ๊ะ! มาคัส"

"ผมรักเสียงหวานของคุณนะบี๋.. "

เมริญาดิ้นพล่าน มือเล็กตวัดหาที่ยึด ความใหญ่โตถึงใจของมาคัสทำเอาความเสียวแล่นปราดไปทั้งร่าง ปากอวบครวญครางไม่เป็นศัพท์สอดประสานกับสะโพกมนก็เด้งสวนแก่นกายขนาดใหญ่ ที่สะบัดเข้าใส่กลางกายสาวอย่างดุเดือด

"อ๊า~"

"อ๊ะ....มาคัส อื้อ...สะ เสียว"

เอวสอบกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้าใส่ร่องรักเนียนนุ่มอย่างดิบเถื่อน พลันนิ้วสากที่บดขยี้อยู่บนติ่งเกสรแดงก่ำก็เพิ่มความเสียวซ่านจนเมริญาต้องเกร็งท้องน้อยเอาไว้ ดวงตาสุขสกาวเหลือกมองเพดานปากอ้าค้างเปล่งเสียงครางกระเส่าเร้าอารมณ์ไม่หยุด เธออยู่ตรงนี้มีความสุขจนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง สมแล้วที่ตัดสินใจหนีความวุ่นวายมาถึงที่นี่ มันช่างคุ้มค่าจริง ๆ

"อ๊ะ! อ๊ะ! ระ...แรงอีก"

หญิงสาวออกปากเร่งเมื่อใกล้แตะขอบสวรรค์ กระทั่งส่วนบอบบางกระตุกตอดถี่ ๆ จุดอ่อนนุ่มที่ถูกเสียดสีไปมาปลดปล่อยความฉ่ำแฉะออกมา พร้อม ๆ กันกับมาคัสที่ถึงปลายฝันตามเธอมาติด ๆ กระบอกสูบยักษ์ฉีดพ่นน้ำรักพุ่งเข้าใส่เครื่องป้องกันจนหมดทุกหยาดหยด

"อา...คุณนี่เอามันที่สุดเลยเบบี๋"

ร่างหนาโน้มลงคลอเคลียซอกคอขาวเนียน สูดดมกายสาวพลางขบเม้มลงทิ้งร่องรอยแห่งความสุขทั่วลำคอเรียวระหง

"คุณก็คือของเล่นลำดับที่หนึ่งของฉันเช่นกัน"

"หึ" มาคัสยกยิ้มมุมปากแล้วดึงร่างเล็กเข้ามากอดก่าย โดยที่ส่วนนั้นยังเชื่อมติดกันอยู่ "อะไรกัน ให้ผมได้แค่นั้นเองเหรอ"

"เหอะ ถอยออกไปได้แล้ว ฉันเกลียดเม็ดเหงื่อเหนอะหนะนี่ที่สุด"

"ถอยทำไมมาต่อกันอีกสักยกดีกว่า ผมยังไม่ได้เอาคุณจากข้างหลังเลยนะ"

"ฉันบอกให้ถอยออกไป"น้ำเสียงหงุดหงิดขึ้นเมื่อคนเป็นของเล่นไม่เชื่อฟังเธอ ทั้ง ๆ ที่ตกลงกันแล้วว่าเธอเท่านั้นที่เป็นฝ่ายคุมเกมทั้งหมด

"แต่ผมอยากต่ออีกสักยก"

สะโพกสอบดึงแก่นกายออกจากช่องทางรักหรรษา รูดถุงยางที่เต็มไปด้วยน้ำรักออกแล้วโยนทิ้งจนพ้นทางอย่างรวดเร็ว ทว่าก่อนที่เขาจะดันแก่นกายเข้ากลางกายเธอเพื่อเริ่มบทรักครั้งใหม่ ปลายกระบอกปืนสั้นเอชเคสัญชาติเยอรมันก็จ่ออยู่ที่หน้าผากของชายหนุ่มเสียแล้ว

แกร๊ก!

"ปัง!"

ริมฝีปากอวบอิ่มเปล่งเสียงพร้อมแสยะยิ้ม ส่วนมาคัสนั้นก็ค่อย ๆ ยกมือขึ้นเหนือศีรษะอย่างยอมแพ้แต่ไม่สบอารมณ์นัก การกระทำของเธอย้ำเตือนว่าเขามันแค่ของเล่นคลายเหงา ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมาต่อรองได้

"ออกไป! ก่อนงานที่คุณขอไว้จะถูกยกเลิกทั้งหมด"

เมริญาพยักหน้าไปทางประตูแล้วออกคำสั่ง สายตาเย้ายวนเมื่อตอนอยู่บนแก่นกายของมาคัสเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวแทนเมื่อถูกขัดใจ เมริญาในยามนี้ไม่ควรมีใครเข้าต่อกรกับเธอ

"โอเคได้ ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลย"

มาคัสบอกอย่างหัวเสีย เมริญาก็เป็นแบบนี้ ทุกครั้งหลังสุขสมเธอชอบทำเหมือนเขาเป็นเพียงหมูหมา และรู้ดีว่าเธอไม่ทำแค่ขู่จึงเลือกที่จะไม่เสี่ยง ยังไงทั้งเขาและเธอก็ยังมีธุรกิจที่ต้องทำร่วมงานกันอยู่

ทว่ายังเดินไม่พ้นขอบเตียง จู่ ๆ เสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ก็ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว พร้อม ๆ กับน้ำที่พ่นออกมาจากระบบกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติ จนภายในห้องพักเปียกปอนไปหมด เสียงโหวกเหวกของหนุ่ม ๆ ดังจ้าละหวั่นมาจากข้างนอก

กรี๊งงงงงงง!!

ซ่าาาาาา

"เฮ้ย! อะไรวะเนี่ย ไฟไหม้ได้ยังไง" มาคัสโวยวายรีบจับกางเกงขึ้นมาสวมใส่ แล้ววิ่งหน้าตั้งออกไปจากห้อง

"เฮ้อ เธอน่าจะทำให้เร็วกว่านี้นะ ฉันจะได้ไม่ต้องเอาปืนออกมาเล่น"

มีเพียงเมริญาเท่านั้นที่ไหวไหล่ด้วยท่าทางสบาย ๆ เธอหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมใส่แล้วเดินออกจากห้องที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำจากระบบอัตโนมัติ เพราะเกมซ่อนแอบได้จบลงแล้ว

บทถัดไป