บทที่ 3 อย่างนี้เขาเรียกว่าจูบ! 2

“ทำไมฉันต้องตอบคำถามคุณด้วย”

น้ำฟ้าถามอย่างท้าทาย เพราะไม่คิดว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำอะไรอย่างที่พูดจริง ๆ แต่ต้องสะดุ้งอย่างตกใจ เมื่อใบหน้าคมสันก้มลงมาสูดหอมแก้มเนียน ก่อนจะขยับมาที่ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ

“โอเค ฉันยอมแล้ว ฉันจะตอบคำถามคุณทีละข้อ”

น้ำฟ้าหันหน้าหนีพร้อมพูดขึ้นอย่างยอมแพ้ เซเลโน่เงยหน้าจากแก้มเนียนอย่างเสียดายนิดๆ และจ้องไปดวงตากลมโตของหญิงสาวอย่างจับผิดคำพูดของเธอ

“แต่ว่าคุณปล่อยฉันก่อนได้ไหม อยู่ท่านี้ฉันตอบคุณไม่ถนัด” น้ำฟ้าต่อรอง เมื่อเห็นว่าเธอจะเสียเปรียบชายหนุ่มมากเกินไป เซเลโน่หรี่ตามองอย่างชั่งใจก่อนจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระจากอ้อมแขน

น้ำฟ้าถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่ชายหนุ่มตรงหน้ายังมีเหตุผลอยู่บ้าง ก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิมอย่างไม่มีทางเลือก

“คุณอยากรู้อะไร”

น้ำฟ้าถามออกมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เซเลโน่ยืนมองสักพัก ก่อนจะมานั่งฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว เพราะรู้ว่าหญิงสาวร่างบางตรงหน้าไม่มีทางจะหนีเขาไปได้ ที่บ้านเขาแต่ละจุดมีลูกน้องอยู่ดูแลอย่างไม่น่าเป็นห่วง

“เธอเป็นใคร?”

คำถามเดิมออกจากปากของชายหนุ่มตรงหน้า ทำให้น้ำฟ้าถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังและเป็นทางการให้ชายหนุ่มตรงหน้ารับรู้

“ฉันน้ำฟ้า เทวะประดิษฐ์ ฉันมาที่นี่เพราะต้องการมาเที่ยวที่อิตาลีเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง แต่ถ้าคุณไม่เชื่อฉันก็ไม่มีอะไรจะอธิบายอีกต่อไป”

“เธอเป็นคนไทยอย่างนั้นเหรอ?”

เซเลโน่เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง หัวใจกระตุกอย่างแรงเมื่อรู้ว่าเธอมาจากเมืองไทย แต่ใบหน้าที่ถูกฝึกมาตั้งแต่เด็กยังคงนิ่งเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกกับคำพูดของเธอ

“ใช่ ฉันเป็นคนไทย”

น้ำฟ้ากอดอกเชิดหน้าอย่างมั่นใจ และย้ำสัญชาติตัวเองอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้โกหก

“แล้วไหนล่ะ บัตรและวีซ่าของเธอที่บอกว่าเธอเป็นคนไทย” เซเลโน่เอ่ยถามออกมาเหมือนไม่เชื่อในคำพูดของเธอ

น้ำฟ้าหน้าเสียเมื่อนึกไปถึงบัตรประชาชนและวีซ่าที่ถูกขโมยไป อีกทั้งตอนนี้เธอก็เหมือนคนเถื่อนที่ลักลอบหนีเข้าประเทศไปแล้ว

“เอ่อ... บัตรและวีซ่าฉันโดนขโมยไป”

น้ำฟ้าบอกความจริงด้วยความหวาดเกรง กลัวว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะไม่เชื่อคำพูดของเธอ พร้อมจ้องมองเซเลโน่อย่างขอร้องให้เชื่อคำพูดของเธอสักนิด

“เหตุผลของเธอฟังไม่ขึ้นหรอกสาวน้อย”

เซเลโน่ตอบน้ำฟ้าอย่างใจเย็นอย่างที่ไม่เคยมาก่อน แววตาคมดุจับจ้องหญิงสาวตรงหน้าไม่วางสายตา ก่อนจะหรี่ตามองหญิงสาวร่างบางที่หน้าบูดบึ้งอย่างไม่พอใจคำพูดของเขา

“ฉันไม่ใช่เด็ก และฉันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหกคุณ” น้ำฟ้าเริ่มโวยวายขึ้นเมื่อเธอพูดดีแล้วแต่ไม่ยอมเชื่อจนเธอเริ่มหงุดหงิด และยังมาสบประมาทว่าเธอเป็นเด็กทั้งๆอีกไม่กี่เดือนเธอก็จะยี่สิบสี่ปีเต็มแล้ว

“เธอจะบอกฉันว่า ที่เธอยอมลงทุนเอาตัวเองเข้ามาหาฉันโดยไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงอย่างนั้นน่ะเหรอ?”

เซเลโน่ถามด้วยน้ำเสียงเหมือนเยาะเย้ยหญิงสาวตรงหน้ามากกว่าต้องการคำตอบจริงๆ เพราะเขาไม่มีทางเชื่อว่าจะมีใครเข้ามาหาเขาโดยมีเจตนาดีเลยสักคน อาจเป็นเพราะชีวิตเขาแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลาทำให้เขาไม่เคยเชื่อใจใคร

“ฉันบอกคุณไปคุณก็ไม่เชื่อ คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร ทำไมคนอย่างคุณหนูน้ำฟ้าอย่างฉัน ต้องวิ่งเข้ามาหาคุณด้วย ที่ฉันทำไปเพราะต้องการหนีไอ้พวกอันธพาลกลุ่มนั้นต่างหากเล่า”

น้ำฟ้าลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาใกล้เซเลโน่ พร้อมชี้นิ้วมาที่ตัวเองก่อนจะจิ่มนิ้วไปที่อกของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างมีโมโห

เพราะคุณหนูอย่างเธอไม่จำเป็นต้องวิ่งแจ้นไปหาใคร

!

เซเลโน่จับนิ้วมือเรียวเล็กเอาไว้ในมือและกระชากหญิงสาวมานั่งลงบนตัก ก่อนจะหยิบปืนขนาด 38 มม. มาจี้ที่เอวบางเอาอย่างโมโห เพราะไม่เคยมีใครมาแสดงกิริยาแบบนี้กับเขามาก่อน

น้ำฟ้าสะดุ้งตกใจแล้วปิดปากเงียบทันทีเมื่อรับรู้วัตถุบางอย่างที่เธอแน่ใจว่าเป็นปืนจี้อยู่ที่เอว และนั่งนิ่งเหมือนหุ่นรูปปั้นเมื่อคิดว่าปากเธอจะทำให้เธอพบกับความตาย

“ฮึ... ฉันไม่ชอบให้ใครมาขึ้นเสียงกับฉัน ถ้าเธอยอมพูดกับฉันดีๆ โดยไม่ขึ้นเสียงฉันจะเอาปืนออก แต่ถ้ายังโวยวายอยู่...”

เซเลโน่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มแต่ฟังดูเหยือกเย็นพร้อมขยับปืนมาที่ศีรษะของน้ำฟ้าแทน

“โอเค ฉันจะไม่ขึ้นเสียง ฉันจะพูดดีๆ” น้ำฟ้าตอบกลับอย่างรวดเร็วเมื่อรับรู้ว่ามัจจุราชใกล้มาเยือนทุกที

“ดี

!

เซเลโน่ตอบรับก่อนจะเก็บปืนไว้ที่เดิมและอุ้มหญิงสาวลงจากตักให้มานั่งข้าง ๆ เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้วน้ำฟ้าจึงหันหน้ามามองชายหนุ่มข้างกายพร้อมทำหน้าอ้อนๆ อย่างขอร้อง

“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าคุณจับฉันมาทำไม ฉันมาที่อิตาลีเพราะต้องการมาเที่ยวเท่านั้นและที่มิลานก็มีคนบอกฉันว่ามีมหาวิหารดูโอโนที่สวยที่สุดในโลก ฉันก็เลยอยากเห็นกับตา แต่ฉันไม่คิดว่าที่มิลานจะน่ากลัวขนาดนี้  ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มาเหยียบที่มิลานหรอก”

น้ำฟ้าบอกเหตุผลของตัวเองให้เซเลโน่ฟัง พร้อมเกาะแขนอย่างอ้อนๆ เพื่อหวังว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะใจดียอมปล่อยเธอไปเพราะความเข้าใจผิด

เซเลโน่หรี่ตามมองหญิงสาวร่างบางตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ใบหน้าหวานละมุนนัยน์ตากลมโตมองอย่างอ้อน ๆ เหมือนลูกแมว อีกทั้งปากอวบอิ่มสีชมพูเอ่ยปากขอร้องดูน่าเห็นใจ แต่พยัคฆ์ร้ายอย่างเขาถูกฝึกมาให้ไม่มีหัวใจ

“ฉันคงทำตามที่เธอขอร้องไม่ได้ จนกว่าฉันจะได้ข้อสรุปว่าเธอไม่ได้ถูกใครส่งมา”

เซเลโน่บอกหญิงสาวร่างบางที่ปล่อยมือออกจากแขนเขาอย่างหมดแรง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป