บทที่ 5 อย่างนี้เขาเรียกว่าจูบ! 4
“อย่าเข้ามานะ”
น้ำฟ้าตะโกนลั่นพร้อมหยิบหมอนข้างมาเป็นอาวุธ
“เธอคิดว่าไอ้หมอนข้างแค่นี้จะทำอะไรฉันได้ อีกอย่างฉันไม่ได้พิศวาสเด็กอย่างเธอหรอก”
คำพูดของเซเลโน่และสายตาของเขาที่มองลงมาที่หน้าอกของเธอ ทำให้น้ำฟ้าก้มมองหน้าอกตัวเองพร้อมหน้าแดงระเรื่อ
“ฉันไม่ใช่เด็ก ฉันอายุยี่สิบสามปีแล้ว”
คำพูดของหญิงสาวทำให้เซเลโน่มองเรือนร่างของหญิงสาวอย่างสำรวจและใบหน้าหวานที่ดูเด็กกว่าอายุจริง เขาคิดว่าเธอน่าจะสิบเจ็ดสิบแปดเท่านั้น
จากสายตาลวนลามเหมือนจะถอดชุดของเธอ ทำให้น้ำฟ้าดึงผ้าห่มมาปิดตัวเองเอาไว้แล้วจ้องตากลับอย่างไม่พอใจ
“เธอต้องอยู่ในห้องนี้ตามคำสั่งฉัน อย่าคิดแม้จะหนีเพราะฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของเธอ”
เซเลโน่พูดทิ้งไว้ ก่อนจะเดินจากห้องไปปล่อยให้น้ำฟ้าอยู่เพียงลำพัง
หลังจากที่เซเลโน่ออกจากห้องไปแล้ว น้ำฟ้าจึงลุกลงจากเตียงแล้วมองตามหลังของชายหนุ่มอย่าง โล่งอก ก่อนจะหันซ้ายแลขวาสำรวจห้องนอนของเขาอย่างวิสาสะ
ห้องโทนสีน้ำเงินเข้มบ่งบอกนิสัยและความ มีเสน่ห์ของเจ้าของห้อง โต๊ะหัวเตียงมีโคมไฟสีทองและโทรศัพท์บ้านวางอยู่ ที่บ่งบอกว่าเจ้าของห้องจำเป็นต้องใช้
ตู้เสื้อผ้าถูกจัดไว้อีกมุมหนึ่งอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และโต๊ะเครื่องแป้งที่เซเลโน่ต้องใช้เป็นประจำ น้ำฟ้าเดินเข้ามาใกล้โต๊ะเครื่องแป้งและหยิบจับน้ำหอมยี่ห้อดังมาดู แล้วสัมผัสกลิ่นที่อ่อนโยนจนไม่คิดว่าคนตัวโตและดูโหดๆ อย่างเซเลโน่จะใช้กลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้
ก่อนจะวางลงเอาไว้ที่เดิม และเดินเข้าไปสำรวจในห้องน้ำก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นความมีรสนิยมของเจ้าของห้อง...
ทางด้านของเซเลโน่ ซึ่งขณะนี้กำลังรีบเคลียร์งานของบริษัท หลังจากมีเรื่องยุ่งวายเข้ามาหลายวัน แม้มีเรื่องมากมายเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน แต่เซเลโน่ก็ยังใช้สติและความเป็นผู้นำทำให้ผ่านพ้นเรื่องยุ่งๆ มาได้ แต่การที่เขาเป็นถึงหัวหน้าแก๊งมาเฟียเรื่องวุ่นวายเหล่านี้ก็คงไม่จบไม่สิ้น แต่เขาก็ยินดีจะทำเพื่อพี่น้องของเขาเอง
ก๊อก ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น ทำให้เซเลโน่เงยหน้าจากเอกสารขึ้นมาดูประตูห้องอย่างหงุดหงิดที่มีคนรบกวนเวลางาน ก่อนจะตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าปกติ
“เข้ามา”
เมื่อคนที่ยืนรออยู่ข้างนอกได้ยินคำเชิญ จึงรีบเข้ามาทันที แต่เมื่อเห็นเจ้านายมองมาอย่างไม่พอใจทำให้เดมโบหน้าเสียนิดๆ แต่ก็ยังคงตีหน้านิ่งมองเจ้านายตอบ แล้วยื่นเอกสารสำคัญที่เขาใช้เวลาหาข้อมูลของหญิงสาวชาวต่างชาติมาได้ภายในครึ่งชั่วโมง
“นี่เป็นข้อมูลที่ได้ของผู้หญิงคนนั้นครับ”
เซเลโน่รับซองเอกสารขึ้นมาดู ก่อนจะเปิดดูไปเรื่อยๆ และมาสะดุดกับรูปภาพหนึ่งที่เขารู้จักดี ‘เหมันต์ มุนินธร’ มาเฟียอันดับหนึ่งของเมืองไทย
“ออกไปได้แล้ว ตรงนี้ฉันจัดการเอง” เซเลโน่สั่งลูกน้องมือขวาโดยไม่เงยหน้าจากแฟ้มเอกสารข้อมูลของน้ำฟ้าหญิงสาวชาวไทยที่มีเงื่อนงำในการปรากฏตัวมาพบเขาในครั้งนี้
“นายครับ แล้วนายจะปล่อยเธอไปไหมครับ?”
เดมโบซึ่งไม่กลัวตายและถามคำถามที่ตัวเองสงสัย ทำให้เซเลโน่เงยหน้าขึ้นมาและสบตาลูกน้องที่มองเขาอย่างไม่สะทกสะท้านเช่นกัน ก่อนจะยิ้มเย็นชาออกมาแล้วมองเดมโบลูกน้องคนสนิทที่หลบสายตาด้วยความหวาดเกรง เพราะรู้ว่ารอยยิ้มนั้นมันน่ากลัวกว่าตอนทำหน้านิ่งเสียอีก
“แล้วนายคิดว่า คนอย่างฉันต้องทำยังไงละเดมโบ”
เซเลโน่ถามเสียงราบเรียบแต่แฝงความมีอำนาจในตัวจนทำให้เดมโบก้มศีรษะให้
“ขอโทษด้วยครับ ผมทราบแล้วว่านายจะทำยังไงต่อไป”
เดมโบตอบรับแล้วก้มศีรษะให้พร้อมถอยหลังจากห้องทำงานของเจ้านายไปอย่างเงียบๆ
หลังจากลูกน้องมือขวาออกจากห้องไปแล้ว ชายหนุ่มจึงหยิบประวัติของหญิงสาวร่างบางมาอ่านรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน สายตาคมดุจับจ้องไปที่รูปของเหมันต์อย่างพิจารณา เพราะตอนนี้แก๊งเดลล่าศัตรูอันดับหนึ่งของเขากำลังจะเข้าไปลงทุนที่เมืองไทย และกำลังติดต่อเจรจาธุรกิจอยู่อยู่กับเหมันต์ แล้วอย่างนี้จะให้เขาเชื่อใจหญิงสาวได้อย่างไรว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้บางครั้งจะดูใสซื่อก็เถอะ
มือหนาเก็บประวัติของหญิงสาวเอาไว้ในซองเช่นเดิม ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายสีชมพูของยี่ห้อดังมาดูพร้อมเปิดดูของข้างในกระเป๋าอย่างถือวิสาสะ
เขาสั่งให้ลูกน้องตามเอามาให้เพียงครึ่งชั่วโมงก็ได้ทุกอย่างตามที่เขาต้องการ บัตรประชาชนและวีซ่าของหญิงสาวยังอยู่ และเอกสารสำคัญหลายอย่างยังอยู่ครบ ก่อนจะเก็บลงลิ้นชักได้โต๊ะเมื่อคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่หญิงสาวเจ้าของร่างบางจะได้มัน แล้วหลับตาลงเมื่อใบหน้าสวยหวานที่ดูสดใสและทะเล้นมาปรากฏอยู่ในความคิด ก่อนจะสะบัดศีรษะไปมาอย่างหงุดหงิดใจ
“บ้าจริง!”
เซเลโน่สบถออกมาอย่างหงุดหงิดใจตัวเอง ที่เพียงไม่นานหญิงสาวร่างบางที่ดูใสซื่อและดื้อรั้นมาก่อกวนจิตใจเขา แล้วเผลอยกมือจับริมฝีปากตัวเองที่หญิงสาวกระโดดมาจูบ ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ เมื่อคิดว่าการจูบของเธอมันเหมือนการกัดปากเขามากกว่า แต่ความอบอุ่นและรู้สึกแปลกๆในหัวใจก็ตรึงใจจนยากจะลืมเลือน
“ยัยตัวเล็ก เธอกำลังทำให้ฉันเป็นบ้า”
เซเลโน่บ่นพึมพำคนเดียวอีกครั้งอย่างไม่ค่อยเข้าใจตัวเอง ก่อนจะสะบัดศีรษะไปมาอีกรอบพร้อมลงมือเคลียร์เอกสารงานที่ค้างไว้ให้เสร็จเร็วที่สุด...
