บทที่ 7 ยัยตัวแสบ

ด้านสองสาวพากันมาที่บาร์ลับแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมหรูระดับห้าดาว เพราะจินเจินไปสืบจากคนสนิทของผู้ชายที่เธอแอบชอบว่า เขาชอบไปดื่มที่ไหน

“พี่สาว ฉันไปหาหมอแดนนะ” จินเจินเดินมากระซิบข้างหูของจีน่า

“ไปสิ”

เมื่อได้รับอนุญาตจินเจินก็เดินถือแก้วเหล้าในมือตรงไปหาผู้ชายที่เธอชอบทันที วันนี้เธอจะทำให้เขาสนใจเธอให้ได้

ส่วนจีน่าก็ยังคงนั่งดื่มปล่อยอารมณ์อยู่ที่เคาน์เตอร์ชงเหล้า วันนี้เธอไม่มีอารมณ์ลุกออกไปเต้น แค่อยากจะดื่มให้หายเหนื่อยจากงานไฟลนก้นที่หัวหน้ามอบหมายให้เธอ เพราะตลอดหนึ่งเดือนที่รีบทำโปรเจกต์นี้ เธอไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย

“จีน่า”

ไม่ต้องหันไปก็รู้ว่าใครเรียกชื่อเธอ เป็นคนที่เธอแสนจะรังเกียจ และไม่อยากเจอหน้าเขาอีก เลิกกันก็นานแล้ว เธอก็ยังต้องวนเวียนเจอผู้ชายสารเลวอยู่เรื่อย ๆ คืนนี้ก็เช่นกัน

จีน่าไม่ได้หันไปมอง และไม่สนใจผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังแม้แต่น้อย เธอยังมีท่าทีปกติ นั่งจิบเหล้าทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นอากาศ

ปืนไม่ลดความพยายาม เขาเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ เธอ “สบายดีไหม?”

มือเล็กกระชับแก้วเหล้าในมือแน่น ก่อนจะกระแทกแก้วลงเคาน์เตอร์จนเกิดเสียงดัง พร้อมกับถอนหายใจออกมาตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน “ฉันสบายดีมาตลอด แต่รู้สึกกำลังจะซวยเพราะเจอนาย” แม้แต่ตอนนี้เธอก็ไม่ได้หันไปมองหน้าของอีกฝ่าย

“ปืนยังพูดคำเดิมนะ ปืนไม่เคยลืมจีน่าได้เลย”

พอได้ยินคำพูดแสนจะน้ำเน่าที่ออกมาจากปากผู้ชายสารเลว จีน่าก็เค้นหัวเราะออกมา “ฉันเด็ดขนาดนี้ ลืมไม่ได้ก็คงไม่แปลกอะไร แต่ฉันลืมนายไปนานแล้วนะ เพราะเจออะไรที่มันเร้าใจกว่า ก็ไม่จำเป็นต้องจำขยะที่ทิ้งไปแล้ว จริงไหม?” สายตาถากถางทอดมองชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“ที่รักขา...” เสียงแหลมของผู้หญิงผมสั้นดังมาแต่ไกล ก่อนที่จะเดินมากอดแขนของปืนไว้แน่น หญิงสาวที่มาใหม่ทอดสายตามองมาที่จีน่าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์ “เธอมาอ่อยผู้ชายของฉันเหรอ?”

ได้ยินคำถามไร้สมองของอีกฝ่ายก็อดหัวเราะหยันไม่ได้ “เธอว่าไงนะ?”

“แบม...เธอเป็นเพื่อนพี่น่ะ อย่างอแง” ปืนหันไปเอ่ยกับหญิงสาวที่กอดแขนเขาอยู่

‘เพื่อน’ ยิ่งได้ยินก็ยิ่งอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ จีน่ามองไปที่ผู้หญิงหน้าพลาสติก และผู้ชายสารเลวสลับกัน ก่อนจะยกแก้วเหล้ากระดกจนหมดแก้ว แล้วลุกขึ้นก้าวเท้าไปใกล้คนทั้งคู่อีกก้าว ยกมือเชิดคางของปืนให้มองมาที่เธอ ยิ้มเอ่ย “เพื่อนรัก” ก่อนจะโน้มไปกระซิบข้างหูของอีกฝ่าย “สันดานยังเหมือนเดิมเลยนะ เหี้ยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย”

“แกทำอะไรของแก จะฉกผู้ชายของฉันเหรอ?” คู่ขาของปืนกระชากแขนของจีน่าจนตัวเซ ตั้งท่าจะฟาดมือมาตบจีน่า ทว่าจีน่ากลับคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ทัน ก่อนจะใช้ความไวบิดแขนของอีกฝ่ายให้ตัวหมุนไปอีกด้านแล้วดันร่างของคนที่จะตบเธอไปติดกำแพงที่อยู่ด้านข้าง

“โอ๊ย!!! ฉันเจ็บนะ อีบ้า”

จีน่ากระชับแขนคู่ขาของปืนแน่น พร้อมกับกดใบหน้าของอีกฝ่ายแนบชิดผนัง “เธอมั่นใจเหรอว่าจะตบฉัน”

“อีบ้า...ปล่อยฉันนะ”

“เอ้า!! ก็รู้นิ่ว่าฉันบ้า ยังจะมายุ่งกับฉันอีก”

“จีน่า ปล่อยแบมเถอะ อย่ามีเรื่องกันเลย” ปืนเอ่ยห้ามแต่ไม่กล้าบุ่มบ่าม เพราะรู้จักนิสัยของแฟนเก่าดี

“นายมีสิทธิ์พูดเหรอ...” จีน่าตวัดสายตาเยือกเย็นไปหาปืน

“ปืนขา....แบมเจ็บ ช่วยแบมด้วย โอ้ย!!”

จีน่าออกแรงกดดันตัวของอีกฝ่ายจนไม่กล้าโวยวายอีก ก่อนจะโน้มไปกระซิบ “เธอรู้ไหม...เมื่อกี้ปืนขาของเธอพูดกับฉันว่าอะไร เขาบอกว่าเขาลืมฉันไม่ลง ผู้ชายที่เธอหลงหัวปักหัวปำน่ะ ลืมคนเก่าอย่างฉันไม่ลง เธอต้องพิจารณาตัวเองแล้วละ ว่าเด็ดพอหรือเปล่า เลิกโง่ได้แล้วสาวน้อย ผู้ชายเด็ดกว่า เร้าใจกว่ายังมีอีกเยอะ กินข้าวบ้าง อย่ากินแต่หญ้าที่มันยื่นให้” พูดจบก็ผละมือออกจากร่างของอีกฝ่าย

คนที่เพิ่งหลุดจากเงื้อมมือของจีน่า หายใจหอบถี่ด้วยความโกรธ อยากจะด่า ก็ด่าไม่ออก ได้แต่กำมือสองข้างกรี๊ดระบายออกมาเท่านั้น

จีน่ายกยิ้มปรายตาไปมองปืนด้วยแววตาเย้ยหยันดูถูก ก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกไปจากบาร์

“ตั้งใจจะนั่งดื่มปล่อยอารมณ์เงียบๆ กับมีสัมภเวสี สองตัวมาก่อกวนเสียได้ น่าเบื่อ” เธอพึมพำเดินโซเซไปรอลิฟต์ ระหว่างอยู่ในลิฟต์ เหมือนฤทธิ์แอลกอฮอล์จะตีขึ้นมาเป็นระลอก ตอนนี้ตาทั้งสองข้างของเธอพร่ามัว มึนจนมองไม่เห็นว่าขณะนี้ลิฟต์ลงมาถึงชั้นที่เท่าไรแล้ว รู้แค่ว่าตอนนี้ลิฟต์หยุดนิ่งอยู่ที่ชั้นใดชั้นหนึ่งแล้วมีคนเดินเข้ามาในลิฟต์ รูปร่างคล้ายจะเป็นผู้ชาย ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดไปอีกครั้ง

จีน่าพยายามหาที่ยึดเกาะเพราะรู้สึกคล้ายกำลังจะยืนไม่อยู่ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยกับคนที่เพิ่งเข้ามาในลิฟต์เมื่อครู่ “คุณคะ...ตอนนี้อยู่ชั้นไหนแล้ว?”

“...” ไม่มีคำตอบอะไรทั้งสิ้น เธอได้ยินแต่เสียงหายใจหอบถี่ของอีกฝ่าย คิดอยู่ในใจว่า ‘หรือเขาจะเมาเหมือนกัน’ เธอพยายามเพ่งมองคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเธอ แต่ด้วยอาการมึนเมาทำให้เธอมองอะไรไม่ชัด จึงเห็นแค่ท่ายืนรางๆ ของเขาเท่านั้น

“คุณคะ?”

“...”

จีน่ารู้สึกสิ้นหวัง และไม่พอใจคนที่ยืนอยู่หน้าเธออย่างมาก ‘นี่เขาไม่ได้ยิน หรือหยิ่งจนไม่เห็นหัวใครกันแน่’ เธอตำหนิอีกฝ่ายอยู่ในใจ พยายามจะสะบัดหน้า ปรับสายตาที่พร่ามัว จีน่ารู้สึกวาบหวิวไปทั้งตัว ใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวอย่างบอกไม่ถูก ‘นี่มันไม่เหมือนอาการคนเมาเหล้าเลย ทำไมฉันรู้สึกร้อนไปทั้งตัวแบบนี้นะ’ เธอพยายามจะดึงสติตัวเอง ทว่ารู้สึกเหมือนลิฟต์จะหยุดนิ่งลงอีกครั้ง สายตาที่พร่ามัวของเธอมอบเห็นรางๆ ว่าคนที่อยู่ในลิฟต์กำลังจะเดินออกไปจากลิฟต์ เธอจึงตัดสินใจคว้าแขนของเขาไว้กระชับไว้แน่น

“ปล่อย!! อย่ามายุ่งกับผม”

“ฉันไม่ปล่อย”

“คุณเมาก็กลับบ้านไปซะ!!” ชายหนุ่มตั้งใจสะบัดแขนหวังจะให้มือของหญิงสาวหลุด ทว่าเธอออกแรงจับไว้แน่นทำให้ ร่างของจีน่าโถมเข้าไปหาอีกฝ่ายจนทั้งคู่ถลาออกจากประตูลิฟต์ไปนอนกองกับพื้น โดยร่างเล็กคร่อมอยู่บนร่างใหญ่ของชายหนุ่ม ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันจนได้ยินเสียงหายใจหอบถี่ของกันและกันชัดเจน

จีน่าได้กลิ่นน้ำหอมแบรนด์หรูบนตัวของชายหนุ่มก็เผลอกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่ เธอรู้สึกต้องการปลดปล่อยกับใครสักคนทั้ง ๆ ที่มองหน้าของอีกฝ่ายไม่ชัดด้วยซ้ำ “ไปต่อกลับฉันไหมสุดหล่อ?”

ชายหนุ่มที่เนื้อตัวแดง เหมือนแพ้อะไรสักอย่างจ้องมองใบหน้าของคนที่คร่อมร่างเขาอยู่ตอนนี้นิ่ง พยายามปรับลมหายใจ และข่มอารมณ์ที่ยากจะข่ม “คุณออกจากตัวผม แล้วไปให้ห่างผมซะ” น้ำเสียงคล้ายออกคำสั่งดังลอดจากไรฟัน ภูริชพยายามข่มอารมณ์เนื่องจากเขากำลังสู้กับอาการแพ้แอลกอฮอล์ และฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ที่มีคนจงใจผสมในไวน์ให้เขาดื่ม เขาหอบหายใจมากขึ้น พยายามผละร่างของหญิงสาวออกจากตัว

“โอ๊ย!!” แต่หญิงสาวที่คร่อมร่างเขาอยู่เสียหลักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พอเธอตั้งหลักได้ก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีกดแขนของเขาไว้เหนือศีรษะ ทั้ง ๆ ที่ตาเธอพร่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์จนไม่เห็นหน้าตาของอีกฝ่าย เธอพยายามสะบัดหน้า ปรับโฟกัสสายตา เพ่งมองรูปทรงหน้า สันกราม คล้ายชายหนุ่มตรงหน้าเธอจะหล่อไม่ใช่น้อย เธอเพิ่งเคยเจอคนไม่สนใจเธอแบบนี้ ยิ่งเข้าดิ้นเธอยิ่งอยากเอาชนะ “น่าสนใจจัง...คุณเป็นคนแรกที่ทำท่าทีแบบนี้กับฉันเลยนะสุดหล่อ ไปต่อกับฉันไหม?” เธอโน้มใบหน้าไปกระซิบพร้อมกับขบที่ใบหูของอีกฝ่ายเบาๆ

ภูริชหอบหายใจ พยายามเรียกสติตัวเองที่กำลังจะเตลิดไปไกล เพราะท่าทียั่วยวนของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า “ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าคุณยังไม่ออกจากตัวผม ผมจะไม่ทะ....”

ไม่ทันได้พูดจบประโยค ริมฝีปากบางของหญิงสาว ก็เข้ามาประกบกับริมฝีปากหนาของเขาเสียแล้ว ความอดกลั้นทั้งหมดของภูริชที่เขาสร้างมา ถูกพังทลายลงจนหมดสิ้นด้วยรสจูบอันเร่าร้อนของหญิงสาว

ชายหนุ่มผละริมฝีปากออก หอบหายใจเอ่ยถามเสียงแหบพร่า “คุณแน่ใจว่าจะไม่เสียใจทีหลัง”

จีน่าหอบหายใจไม่แพ้กัน ยกมือลูบไล้สันกรามของอีกฝ่าย “ฉันถูกใจคุณเข้าแล้วสิ อะไรที่ฉันเลือก ฉันไม่เสียใจ”

ภูริชยกยิ้มก่อนจะยกร่างของคนตัวเล็กลอยจากพื้น “งั้นก็ไปทำเรื่องของเราให้จบเถอะ”

“อื้ม~~” ไม่รู้ว่าตอนนี้จีน่ามึนเมาไปกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ หรือรสจูบอันแสนเร่าร้อนของชายหนุ่มกันแน่ แต่ตอนนี้เธอแทบจะไม่มีสติหลงเหลืออยู่แล้ว เธอยอมให้เขาอุ้มลอยจากพื้นเดินเข้าห้องพักชั้นวีไอพีของโรงแรมไปแต่โดยดีเพราะเธอไม่คิดจะต่อต้านแต่แรก อะไรๆ จึงดูเป็นใจไปเสียหมด โตมาจนป่านนี้ ผ่านอะไรมาก็เยอะ ถ้าเธอรู้สึกไม่สบายตัว เกิดความต้องการขึ้นมาตอนเมาก็ควรจะได้ปลดปล่อยกับใครสักคนไม่ใช่เหรอ ถึงจะเมาเทสของเธอก็คงไม่ได้แย่ ถึงตาจะพร่ามัว แต่ด้วยสัมผัส ที่เธอสัมผัสตั้งแต่ใบหน้า ลูบไล้ไปตามคิ้วหนา สันจมูก ไล่ลงมาที่สันกรามคมชัดของเขา ก็พอจะจินตนาการได้ว่าคืนนี้เธอไม่ขาดทุนแน่นอน ไหนจะกลิ่นน้ำหอมแบรนด์หรูติดอันดับนั่นอีก

ร่างสูงโน้มตัวลงวางร่างเล็กไว้บนเตียงอย่างเบามือ ก่อนจะโถมเข้ามาประกบจูบริมฝีปากบางอีกครั้ง มือหนาเริ่มซุกซนลูบไล้ไปตามส่วนเว้า ส่วนโค้งของร่างเล็ก เสียงครางแผ่วเบาลอยมาแตะโสตประสาทของภูริชเป็นระลอก ยิ่งทำให้ไฟสวาทในอกเขาลุกโซนมากขึ้น ต่อให้เธอเปลี่ยนใจต่อต้านเขาตอนนี้ ก็ไม่สามารถห้ามความกระหายในกายของเขาได้อีกแล้ว

“คุณคิดเสียใจตอนนี้ไม่ทันแล้วรู้ใช่ไหม?” น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาว ก่อนริมฝีปากหนาจะประทับจูบลงที่ใบหูของเธอ

“อื้ม~~ ฉันไม่เสียใจ แต่ถ้าคุณทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังในตัวคุณ ฉันจะเสียใจ” ทันทีที่เอ่ยจบก็ไม่รอช้า เธอพลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างของชายหนุ่มไว้ เป็นฝ่ายรุกเปิดศึกอันเร่าร้อนก่อน

เวลา 8.00 น.

แสงแดดรอดผ่านม่านของหน้าต่างมากระทบกับใบหน้าคม หัวคิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ก่อนที่ร่างกายของชายหนุ่มจะค่อยๆ ขยับ ดวงตาคู่สวยลืมขึ้นกะพริบปรับแสงช้า ๆ เมื่อตื่นเต็มตา ภูริชก็พลิกตัวกลับมาอีกด้าน ทว่าด้านข้างของเขาไม่มีใครอยู่แล้ว เขาจึงมองสำรวจรอบ ๆ บริเวณห้อง ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ ดูเหมือนชายหนุ่มจะรู้ตัวแล้วว่าหญิงสาวที่อยู่กับเขาเมื่อคืนหายไปเสียแล้ว จึงอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดที่โต๊ะหัวเตียง เขาไม่รู้ว่าควรทำหน้ายังไงเมื่อเห็นแบงก์พันจำนวนห้าใบวางอยู่

“ยัยตัวแสบ...คุณคิดว่าผมมีค่าเท่ากับเงินห้าพันนี่หรือไง?”

ด้านจีน่าเธอรู้สึกตัวตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ตื่นมาก็ปวดเมื่อยไปทั้งตัว แต่ที่ต้องตกใจก็คือ ผู้ชายร่างกำยำที่นอนหันหลังอยู่ข้าง ๆ เธอ พอได้สติก็รีบชิงหนีออกมาจากโรงแรมตอนที่พ่อหนุ่มคนนั้นกำลังหลับ จนถึงตอนนี้เธอก็จำหน้าของเขาไม่ได้ว่าหน้าตาของพ่อหนุ่มที่เธอเล่นจ้ำจี้กับเขาทั้งคืนหน้าตาเป็นยังไง ตอนนี้หญิงสาวยืนมองร่างเปลือยของตัวเองในกระจกบานใหญ่ที่อยู่ในห้องน้ำ ร่องรอยการทำศึกอย่างเร่าร้อนยังทิ้งอยู่บนร่างกายของเธอหลายจุด พอนึกถึงแผ่นหลังแสนเซ็กซี่ของชายหนุ่มที่เธออยู่ด้วยเมื่อคืน ก็อดเผลอที่จะกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ ภาพกิจกรรมที่เธอกับเขาร่วมกันทำอย่างดุเดือดเมื่อคืนผุดมาให้นึกถึงไม่เป็นฉากเป็นตอน แต่ก็พอจะทำให้หญิงสาวเสียวท้องน้อยอย่างบอกไม่ถูก เธอพยายามสลัดภาพที่ไม่ปะติดปะต่อในหัวทิ้งอยู่หลายครั้ง แต่กลับทำไม่ได้ ดูเหมือนที่เธอเคยพูดกับแฟนเก่าจะเป็นความจริงขึ้นมาบ้างแล้วว่า ‘เจออะไรที่เร่าร้อนกว่า ก็จะทำให้ลืมคนเก่าได้เอง’

ระหว่างนอนแช่น้ำอุ่นเธอก็ยังนึกเสียดายที่เห็นหน้าเขาไม่ชัด “ก่อนออกมาน่าจะแอบย่องไปดูหน้าเสียหน่อย แต่ถือว่าฉันก็ไม่ขาดทุนแล้วแหละ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป