บทที่ 10 10

“แต่คุณรามเป็นคนสั่งให้ป้าจัดห้องนี้ให้คุณนะคะ” ป้าศรีตอบตามสัตย์จริง เพียงแต่บอกไม่หมดว่าห้องถูกเปลี่ยนกะทันหัน หลังจากที่กระเป๋าของเธอมาถึงแล้ว และคนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ก็คงไม่พ้นคุณนิด ดังนั้นเธอจึงถูกย้ายให้มาอยู่ที่ห้องรับรองแขกห้องนี้ แทนห้องรับรองญาติที่อยู่ชั้นบน

“แน่ใจเหรอป้า”

“โธ่คุณแพร ป้าจะโกหกทำไมคะ ถ้าไม่เชื่อไปถามคุณรามเองก็ได้นะคะ”

เจ็บปวดเหลือเกินกับคำตอบที่ได้ยิน ทำไมเขาต้องทำกับเธอแบบนี้ด้วย ถึงเมียจะตายไปแล้วเขาก็ยังไม่เห็นเธอเป็นอย่างอื่นอีกเหรอ เธอยังมีค่าแค่เลขากับคนรู้จักของเขาแค่นั้นใช่ไหม

“ไม่เป็นไร ห้องนี้ก็กว้างขวางน่าอยู่ดี ที่ฉันถามเพราะฉันสงสัยเท่านั้น ป้าไปทำงานของป้าต่อเถอะ” เธอพยายามกลืนก้อนเนื้อที่จุกอยู่ตรงคอหอยลงท้อง แล้วกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่แสร้งทำขึ้นมา

……………….

เกือบ ๆ สามทุ่มแท็กซี่คันหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในรั้วบ้านพิทักษ์ทรัพย์ คนที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้รับแขกในห้องโถงรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปดู

ใจที่หนักอึ้งไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ผ่อนคลายลงทันทีที่เห็นหญิงสาวก้าวลงจากรถ แต่ความโมโหกลับเข้ามาแทนที่ เมื่อเธอเดินผ่านหน้าไปอย่างกับเขาเป็นแค่วิญญาณที่ไร้ตัวตน

“หนูนิด” เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงความไม่พอใจออกไปทางน้ำเสียง เธอหยุดเดินและหันกลับมามองหน้าด้วยสายตาเป็นคำถาม “ทำไมไม่รับโทรศัพท์”

“พี่รามโทรหานิดด้วยเหรอคะ นิดไม่รู้นี่ว่าเป็นเบอร์พี่ราม ถ้ารู้นิดก็จะรับอยู่หรอกค่ะ” ตอบแบบขอไปที

“แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ไปไหนมาทำไมถึงเพิ่งกลับ”

“อยากรู้ว่ากี่โมงก็ดูนาฬิกาสิคะ นิดขอตัวก่อนนะคะ วันนี้นิดเหนื่อยมาก” เชอะ! เธอไม่ตอบง่ายๆ หรอก ทีใครก็ทีมัน อยากทำให้เธอโมโหก็ต้องเจอแบบนี้แหละ

“ถ้าคิดจะอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ก็ควรให้ความเคารพกันบ้างนะหนูนิด” รามถึงกับฟิวส์ขาดเมื่อเจอน้องเมียที่เด็กกว่าถึงสิบหกปีตีรวนใส่ เขาชี้ที่ศีรษะตัวเอง “เห็นหัวพี่เขยคนนี้บ้างนะ”

“แล้วพี่รามเคยเห็นนิดเป็นน้องเมียบ้างไหมคะ เคยให้เกียรตินิดในฐานะน้องของพี่แก้ว น้าของลูกบ้างไหม”

“ถ้าพี่ไม่ให้เกียรตินิด วันนี้พี่ก็คงไม่ทำตามที่นิดบอกหรอก”

“เรื่องนั้นนิดไม่ได้ขอเพื่อตัวนิดเองซะหน่อย นิดขอเพื่อหลานของนิด ขอเพื่อพี่สาวของนิดที่เพิ่งฆ่าตัวตาย เพราะตรอมใจเรื่องผัวต่างหาก!” น้ำตาแห่งความเสียใจเริ่มไหลซึมดวงตา มองหน้าชายหนุ่มอย่างตัดพ้อและโกรธแค้น

“หนูนิด” รามตกใจกับน้ำตาที่นองหน้าของเธอ หนักยิ่งกว่านั้นก็คือแววตาที่บ่งบอกว่ากำลังเข้าใจผิดไปใหญ่โต “มันไม่ใช่อย่างที่หนูนิดคิดนะ พี่กับแพรไม่เคย”

“นิดยังไม่พร้อมที่จะฟัง” สิริญ่าพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่จะได้ยินคำแก้ตัวของเขาจนจบ แล้วคิดจะเดินหนี แต่ระหว่างที่หมุนตัวนั้นก็บังเอิญเห็นใครคนหนึ่งหลบเข้าที่ข้างตู้พอดี “สอดรู้สอดเห็นนักนะ!” แล้วหันกลับไปมองชายหนุ่มทางเบื้องหลังอย่างหาเรื่อง ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังมุมสลัวนั้น

รามหันไปมองด้วยความสงสัย แล้วก็ต้องรีบเดินตามเธอไปเมื่อเห็นพินแพรเดินออกมาจากที่ซ่อน

“แพรขอโทษค่ะ” พินแพรรีบกล่าวออกไปก่อนเมื่อรู้ว่าหลบไม่พ้นแล้ว “แพรไม่ได้ตั้งใจแอบฟังนะคะ แพรแค่เดินผ่านมาพอดี แล้วแพรก็กลัวพี่รามกับคุณนิดจะเห็น..”

“คุณแพรก็เลยรีบแอบฟังด้วยความตกใจใช่ไหมคะ” อย่าคิดว่าคนอย่างเธอจะเชื่อไอ้ท่าทางใสซื่อของหล่อน เพราะเธอจับได้แล้วคาหนังคาเขาว่าหล่อนโกหกเรื่องบ้าน

“แพรขอโทษนะคะ แต่แพรไม่ได้คิดจะแอบฟังอย่างที่คุณนิดคิดเลยนะคะ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ เพราะถ้าเป็นฉันฉันก็ทำแบบนี้เหมือนกัน เชิญคุยกันตามสบายนะคะ ฉันขอตัวก่อนเพราะเหนื่อยเหลือเกิน”

รามมองหญิงสาวรูปร่างโปร่งระหงที่เยื้องย่างจากไป แม้จะรู้สึกขัดใจอยู่บ้างที่ไม่ได้คำตอบจากเธอ แต่กลับได้การยียวนชวนหาเรื่องมาแทน

“คุณนิดเธอบอกหรือเปล่าคะว่าไปไหนมา”

เขาหันกลับมาสนใจหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้วยกันพร้อมกันส่ายหน้าแทนคำตอบ

“บางทีอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวก็ได้นะคะ เช่นไปหาเพื่อนหรืออาจจะไปหาแฟน”

“หนูนิดไม่น่าจะมีเพื่อนคนไทยนะ ยิ่งแฟนแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะที่พี่รู้มาหนูนิดเขามาตรฐานสูงมาก” เขาจำได้เพราะภรรยาเคยเล่าให้ฟัง

“ช่างเลือกก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลือกไม่ได้นี่คะ แล้วที่แพรพูดก็ไม่ได้หมายความถึงคนไทยอย่างเดียวนะคะ อย่าลืมนะคะว่าคุณนิดมาอยู่กับเราจะเป็นเดือนแล้ว แฟนของเธออาจจะคิดถึงก็เลยบินมาหาก็ได้”

“พี่คิดว่าไม่ใช่หรอก พี่เชื่อว่าหนูนิดจะไม่โกหกพี่ถ้าเธอออกไปหาแฟนจริง ๆ” รามตอบไปตามความรู้สึก เพราะแววตาของหญิงสาวไม่ใช่แววตาของคนที่มีความสุขกลับมา ดูเธอโกรธๆ ใส่เขาด้วยซ้ำ “ช่างเถอะ พี่ไม่อยากรู้แล้ว แพรไปพักผ่อนเถอะ พี่ก็จะพักผ่อนเหมือนกัน”

พินแพรอยากจะเอื้อมแขนไปโอบกอดร่างใหญ่สมบูรณ์แบบ ที่อยู่ภายใต้ชุดนอนเสื้อยืดกางเกงแพรเอาไว้ แล้วซบนอนด้วยทั้งคืนนัก แต่ถ้าทำแบบนั้นเธอคงถูกเขารังเกียจ หรือกลายเป็นคนไร้ค่าในสายตาคู่นั้นทันที

“ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่ราม” ที่ทำได้ก็คือโบกมือลาแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป