บทที่ 4 4

ภายในรถเก๋งคันหรู สิริญ่าเหลือบมองพี่เขยของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า เรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจทำให้เธออยากจะเอ่ยปากถามออกไป แต่เพราะมีคนขับรถนั่งอยู่ด้วยเธอจึงปิดปากเงียบ

“หนูนิดมีอะไรจะถามพี่ก็ถามมาได้เลยนะ” รามไม่ได้หันไปมองน้องเมียแต่เอ่ยปากถามเธอ เพราะรู้ตัวว่าถูกมองด้วยความสงสัยมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว

สิริญ่าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยที่ถูกถาม แต่ในเมื่อเขาเปิดโอกาสให้แบบนี้จะรอช้าอยู่ทำไม “นิดอยากรู้ว่าทำไมพี่แก้ว... ถึงทิ้งพี่รามกับน้องกายไปแบบนี้คะ”

รามมองหญิงสาวที่ถามตนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แววตาเหนื่อยล้าและไร้ชีวิตชีวาของเขาประสานกับอีกฝ่ายท่ามกลางความมืดสลัว

“พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมแก้วถึงจากพี่ไปแบบนี้”

“พี่แก้วจับได้ว่าพี่รามมีผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่าคะ”

“พี่ไม่เคยมีใครนอกจากแก้ว”

“จริงเหรอคะ”

น้ำเสียงที่ฟังดูคล้ายจะเย้ยหยันของเธอทำให้เขาข้องใจจนต้องขยับท่านั่งให้มั่นคงขึ้น และจ้องตาเธอไม่กะพริบ

“แก้วเล่าอะไรให้หนูนิดฟังเหรอ”

“ถ้าพี่แก้วเล่าให้นิดฟังก็ดีสิคะ นิดจะได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วนิดนี่แหละจะตามไปเล่นงานหล่อนแทนพี่แก้วเอง”แล้วน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา

“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดของแก้วทั้งนั้น พี่ไม่เคยมีใครจริง ๆ นะหนูนิด พี่รักแก้วคนเดียวเท่านั้น แล้วเราสองคนก็คุยกันรู้เรื่องแล้ว แต่พี่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น” เขาคุยกับเธอเรื่องพินแพรจบไปแล้วตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องมากกว่าหนึ่งอาทิตย์ หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นมากจนเขาตายใจ แต่แล้วทำไมเธอถึง... เขาหลับตาลงด้วยความรู้สึกสับสนระคนเจ็บปวด

“แล้วมันเรื่องอะไรกันแน่คะ พี่รามเล่ามาให้หมดสิ”

“หนูนิด มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของพี่นะ พี่ไม่จำเป็นต้องเล่าให้ใครฟัง หนูนิดแค่รู้ว่าพี่ไม่ได้นอกใจแก้วเท่านั้นก็พอแล้ว” ถ้าเขาเล่าให้เธอฟัง เรื่องมันก็คงไม่จบ เพราะผู้หญิงที่ทำให้เขากับเมียรักทะเลาะกันนั้นอยู่ใกล้ตัวเหลือเกิน ให้ทุกอย่างจบลงแค่นี้ถือว่าดีกับทุกฝ่ายแล้ว

“นิดจะบอกกับตำรวจเท่าที่นิดรู้ พี่รามควรจะรู้เอาไว้”

“เรื่องนั้นพี่ไม่มีปัญหา นิดอยากพูดอะไรก็เชิญ แค่อย่าโกหกตำรวจก็พอ”

“ถ้าพี่รามพูดแบบนี้แสดงว่าพี่รามยังไม่รู้จักนิดดีพอ” เธอเชิดหน้าใส่เขา มองด้วยสายตาเอาเรื่อง “นิดไม่ใช่ผู้หญิงตอแหลหรือชอบเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดีหรอกนะคะใจรู้สึกยังไงใบหน้าก็แสดงออกแบบนั้น ปากว่าตาขยิบไม่ใช่นิสัยของนิดรู้เอาไว้ด้วย”

“พี่รู้ และก็รู้ด้วยว่าตอนนี้หนูนิดกำลังโมโหพี่มากแค่ไหน”

“รู้ก็ดีแล้วค่ะ เพราะพี่รามจะต้องเห็นแบบนี้ไปอีกนานแน่ ๆ”

“ไม่เป็นไรหรอก แค่อาทิตย์สองอาทิตย์พี่ทนได้อยู่แล้ว เพราะถ้าพี่เป็นหนูนิดพี่ก็คงจะโกรธมากเหมือนกันกับเรื่องที่เกิดขึ้น” รามกล่าวอย่างใจกว้าง รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจเหลือเกิน

“อย่าฝันหวานไปหน่อยเลยค่ะ” แล้วค่อย ๆ คลี่ยิ้มยียวนทั้งคราบน้ำตา “นิดรู้ว่านิดไม่มีสิทธิ์พรากน้องกายไปจากพี่ราม ดังนั้นนิดจะปักหลักอยู่บ้านพี่รามจนกว่าน้องกายจะบรรลุนิติภาวะในฐานะคุณน้า” นอกจากนี้แล้วยังจะปักหลักพิทักษ์พี่เขย จากอีพวกรอคอยความหวังด้วย เธอคิดต่อในใจไม่ให้เขาได้ยิน “นิดคงต้องขออาศัยใบบุญพี่รามอย่างน้อยก็สักยี่สิบปีนะคะ ไม่ใช่แค่อาทิตย์สองอาทิตย์อย่างที่เข้าใจ”

“เอาไว้ค่อยคุยกันอีกทีหลังเสร็จงานก็แล้วกันนะหนูนิด” เขาอยากจะพูดมากกว่านี้ แต่เธอกำลังโกรธ พูดไปก็มีแต่ปะทะคารมกันเปล่าๆ

“ก็ดีเหมือนกันค่ะ” เธอยอมตัดบทแล้วสะบัดหน้าไปมองนอกรถอีกด้านหนึ่ง ที่ไม่มีเขาขวางลูกตา

......................

งานศพผ่านไปอย่างราบรื่นท่ามกลางความโศกเศร้าของหลาย ๆ คน หนึ่งอาทิตย์ต่อมาหลังจากงานศพ ทางตำรวจก็เรียกตัวสามีของผู้ตาย และทุกคนในบ้านไปสอบปากคำเพิ่มเติม

รามยอมให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี เมื่อเสร็จเรื่องแล้วก็เดินทางเข้าบริษัททันทีเพื่อสะสางงานที่คั่งค้างให้จบ

แต่ขณะที่ชายหนุ่มกำลังยุ่งอยู่กับงาน สิริญ่ากลับกำลังมีความสุขอยู่กับหลานชายตัวน้อยวัยสามเดือน เธอโอบอุ้มหลานชายเดินไปรอบ ๆ บ้าน หอมแล้วหอมเล่าเพื่อถ่ายทอดความรักและความอบอุ่นให้แทนพี่สาวที่จากไป ถึงแม้ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มนั้นจะระทมทุกข์เพราะคิดถึงพี่สาวเพียงใด เธอก็จะไม่แสดงออกมาให้หลานได้เห็นเด็ดขาด หลานของเธอจะต้องเป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส ยิ้มง่าย หัวเราะง่าย และจะไม่มีแม่เลี้ยงมาแทนที่แม่แท้ ๆ เด็ดขาด

ถ้ามี เธอนี่แหละจะขัดขวางให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะกับเลขาสาวแก่ที่ชื่อพินแพรคนนั้น

“น้านิดจะปกป้องหนูสุดชีวิต ไม่ว่าใครหน้าไหนก็มาแทนที่แม่แก้วของหนูไม่ได้” กระซิบบอกข้างหูหลานชาย ก่อนจะหอมแก้มนุ่ม ๆ นั้นด้วยความรักสุดหัวใจ

“คุณนิดคะ ได้เวลานอนของคุณหนูแล้วค่ะ”

“น้ำฝนไปไหนคะ ทำไมพี่อรต้องลงมารับน้องเอง” เธอถามถึงผู้ช่วยของอรสาที่เป็นลูกสาวของแม่บ้านใหญ่ อรสาเคยเป็นพยาบาลเด็กวิชาชีพ ก่อนจะลาออกมาช่วยดูแลสิรินดาตั้งแต่เริ่มตั้งท้องตามคำขอของราม

“วันนี้วันเสาร์ค่ะ น้ำฝนเขาจะทำงานถึงบ่ายสองโมงแล้วก็ได้หยุดทุกวันอาทิตย์ คุณนิดจะได้เจอเขาอีกทีพรุ่งนี้ดึกๆ หรือวันจันทร์เช้าเลยค่ะ”

“แบบนี้พี่อรก็ต้องเหนื่อยคนเดียวเลยสิคะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป