บทที่ 6 6
“พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ไม่มีอะไรให้คิดมากหรอกจ้ะ” เพราะอายุที่ห่างกับพี่ชายคนโตถึงสิบสามปี ทำให้เขาไม่รู้จักกับพินแพรมาก่อนเหมือนพี่ชาย แต่ก็เคยได้ยินเรื่องของพวกเขาจากมารดาว่าบ้านเคยอยู่ติดกันก่อนที่ครอบครัวของเธอจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด
“แต่นิดรู้สึกว่าเธอจะทำเกินหน้าที่ของเลขานะคะ พี่แก้วเพิ่งจากไปแท้ๆ น่าจะเกรงใจกันบ้าง กลับช้าจังเลยนะคะพี่ราม” เธอเปลี่ยนไปทักทายคนที่เพิ่งกลับมาถึง
“ขอโทษที วันนี้รถติดมากเลย”
“ทานข้าวกันเถอะค่ะ นิดหิวแล้ว แล้วป้าศรีรู้หรือยังคะว่าเราจะมีแขกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ถ้ายังนิดจะได้สั่งให้ป้าศรีจัดเพิ่มอีกที่”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนิด แพรแค่แวะมาเคลียร์งานที่ค้างกับพี่รามเท่านั้น.. เดี๋ยวแพรไปรอที่ห้องทำงานนะคะพี่ราม”
“อย่าทำแบบนั้นเลยค่ะคุณแพร มาทานด้วยกันก่อนแล้วค่อยทำงานดีกว่า”
“จริงด้วยแพร กินข้าวก่อนดีกว่านะ”
“ก็ได้ค่ะพี่ราม” พินแพรตอบอย่างเกรงใจ วางกระเป๋าเอกสารแล้วเดินตามพวกเขาเข้าไปที่ห้องรับประทานอาหาร
สิริญ่านั่งลงตรงที่นั่งด้านขวามือของราม ส่วนราชนั้นเลือกที่นั่งข้างๆ เธอ ที่นั่งด้ายซ้ายมือของรามจึงกลายเป็นที่นั่งของพินแพร
เมื่อทุกคนเริ่มลงมือรับประทานอาหาร ต้มจืดเยื่อไผ่ที่ถูกตักแบ่งโดยพินแพรก็ถูกวางลงข้างจานข้าวของราม
“แพรกินเลย เดี๋ยวพี่จัดการของพี่เอง” รามบอกกับหญิงสาวด้วยท่าทางเป็นกันเอง
“ค่ะ” เธอรับปากแต่ก็ตักเนื้อปลาทอดกรอบราดพริกใส่จานให้เขาอีก “ปลาราดพริกนี้อร่อยมากเลยค่ะพี่ราม”
เคร้ง! เสียงช้อนกระทบกับจาน เรียกร้องสายตาของคนสามคนให้หันไปมองเกือบจะพร้อมเพรียงกัน
“ขอโทษค่ะ นิดทำช้อนหลุดมือ”
ราชหันไปสนใจอาหารต่อ แต่ในใจของเขากลับรู้สึกไม่ดีตามหญิงสาวด้านข้างไปด้วย เขาเพิ่งเริ่มมาทำงานได้แค่ไม่กี่เดือน เคยได้ยินคนในบริษัทเอาพี่ชายกับเลขาคนนี้ไปนินทาลับหลังอยู่บ้าง และก็เคยเกริ่นๆ เตือนเรื่องนี้กับพี่ชายไปแล้ว พี่ชายของเขาก็ปฏิเสธเสียงแข็งมาตลอด แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาเห็นกับตาแบบนี้.. ขนาดเขาเป็นน้องชายแท้ๆ เขายังคิดเลยเถิด ไม่แปลกใจเลยที่คนอื่นจะเอาไปนินทากันสนุกปาก
รามเองก็ถึงกับออกอาการอึดอัด เมื่อเจอสายตาที่ไม่พอใจของน้องเมีย จึงกลบเกลื่อนด้วยการตักปลาราดพริกให้หญิงสาว
“หนูนิดลองทานบ้างสิ”
“ขอบคุณค่ะ แต่นิดไม่ชอบทานของ ‘คาวๆ’ หรอกค่ะพี่ราม” เธอจงใจเน้นคำว่าคาว แล้วเขี่ยเนื้อปลาในจานใส่ถ้วยสำหรับทิ้งก้างอย่างไม่ใยดี
“ถ้าอย่างนั้นลองทานผัดผักนี่สิหนูนิด พี่ว่าอร่อยดีนะ” ราชตักผัดผักน้ำมันหอยใส่จานหญิงสาว เพื่อช่วยคลี่คลายความอึดอัดให้พี่ชาย
“ขอบคุณค่ะพี่ราช..” แล้วตักอาหารใส่ปาก “ผักหวานอร่อยดีค่ะ นิดชอบแบบนี้”
“แสดงว่าหนูนิดชอบทานผักมากกว่าเนื้อสัตว์”
“ค่ะพี่ราช คุณพ่อบอกว่าถ้าอยากมีหุ่นสวย สุขภาพดี ต้องทานผักผลไม้ให้มาก ๆ ทานเนื้อกับข้าวให้น้อย ๆ ค่ะ”
“แบบนี้นี่เองถึงได้หุ่นดีอย่างกับนางแบบ”
“ขอบคุณที่ชมค่ะ พี่รามคะ”
รามชะงักช้อนข้าวที่กำลังจะใส่ปากแล้วมองหน้าเธอ “ครับ”
“ถ้าพี่รามไม่ว่าอะไร รายการอาหารทุกมื้อในบ้านนี้นิดขอเป็นคนจัดการได้ไหมคะ”
“ได้สิ แต่มีเนื้อไว้ให้พี่ทานบ้างนะ” เขาพูดจริงจัง
“นิดเป็นแค่คนอาศัย คงไม่กล้าตัดรายการโปรดของเจ้าบ้านออกไปหรอกค่ะ นิดแค่อยากให้ป้าศรีทำอาหารประเภทเนื้อสัตว์ให้น้อยจานลงบ้างก็เท่านั้น”
“พี่ก็ไม่ได้ชอบทานอาหารที่เน้นแต่เนื้อสัตว์อย่างเดียวหรอก พี่ชอบประเภทที่มีทั้งเนื้อทั้งผักรวมกันมากกว่า”
“รู้แบบนี้ก็ดีค่ะ นิดจะได้จัดการง่ายขึ้น”
“ถ้าพี่จะมาฝากท้องด้วยบ่อย ๆ ได้ไหมหนูนิด” เห็นหญิงสาวอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างราชก็เลยพูดหยอกล้อเธอ
“พี่ราชมาทุกวันเลยก็ได้ ที่นี่ยินดีต้อนรับอยู่แล้วเพราะพี่ราชเป็นน้องชายพี่ราม ไม่ได้เป็นส่วนเกินของเราซะหน่อย”
“พี่ขอคิดดูก่อนนะ ชิมผัดเปรี้ยวหวานนี่บ้างสิ แม่บ้านที่นี่รสมือดีจริง ๆ ” ราชรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะฟังออกว่าหญิงสาวกำลังพูดประชดใส่ใคร
พินแพรพยายามอย่างยิ่งในการปั้นหน้า ไม่ให้แสดงความรู้สึกโกรธหญิงสาว ที่เป็นน้องเมียของบุรุษที่ตนรักและเคารพมากที่สุด
หลังจากอาหารเย็นผ่านไป รามและพินแพรก็เอางานไปทำต่อที่ห้องทำงาน ส่วนสิริญ่าและราชก็พากันขึ้นไปที่ห้องนอนของหลานชายตัวน้อย
“พี่ต้องขอโทษแทนหนูนิดด้วยนะแพร เธอยังเด็กและเธอก็รักพี่สาวมาก คงไม่รู้ว่าเราสนิทกันมากจนก้าวข้ามคำว่าชู้สาวแบบที่หลายๆ คนคิดไปแล้ว” รามเอ่ยขึ้นเมื่อถึงห้องทำงาน
มือเล็กที่กำลังเรียบเรียงเอกสารเข้าที่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มขยับต่อ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ราม แพรเข้าใจความรู้สึกของเธอค่ะ” เธอตอบโดยไม่ละสายตาไปจากงาน “ว่าแต่คุณนิดจะกลับออสเตรเลียเมื่อไหร่เหรอคะ” และถามต่อเหมือนถามเรื่อยเปื่อย แต่จริง ๆ แล้วอยากจะรู้คำตอบมากที่สุด
“ไม่มีกำหนด แต่ก็คงอีกนาน เพราะหนูนิดเขาอยากจะอยู่เลี้ยงน้องกายไปก่อน”
คำตอบที่ได้รับสร้างความไม่พอใจให้หญิงสาวยิ่งนัก แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือการพยักหน้าน้อย ๆ และแสร้งทำเป็นเห็นด้วย
“ก็ดีนะคะ แต่สาวๆ สวยๆ แบบคุณนิดจะทนอยู่กับเด็กเล็กได้นานแค่ไหนก็ไม่ทราบนะคะ”
“ก็แล้วแต่เขา พี่ไม่ว่าอะไรหรอก หนูนิดเขาตั้งใจมาเรียนต่อโทที่นี่ก็เพื่อจะได้มีเวลาอยู่ดูแลหลานไปด้วย”
