บทที่ 3 ดาริกา
3
ดาริกา…
ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการระบมไปทั้งร่าง ฉันเปิดเปลือกขึ้นมอง สิ่งที่เห็นในตอนแรกคือเพดานฝ้าขาว ๆ ฉันนอนนิ่งอยู่นาน พยายามประมวลลำดับเหตุการณ์ ว่าเพราะอะไร ถึงได้มานอนอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเลยแม้แต่น้อย
ฉันกวาดสายตามองไปมาก่อนจะไปสะดุดกับคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ เขาเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย เขาหลับตาพริ้ม ในขณะที่ฉันมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก เรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่ความฝัน
แต่คือความจริง….
ฉันรีบลุกจากเตียงสวมใส่เสื้อผ้าลวก ๆ รีบพาตัวเองออกจากห้องนั้น แต่ก่อนไปจากห้อง ก็ไม่วายหันกลับไปมอง ผู้ชายคนนั้นยังคงนอนอยู่ที่เตียง
ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ฉันเสียสิ่งที่หวงแหนที่สุดให้กับชายคนนั้นไปแล้ว ผู้ชายที่ฉันไม่รู้จักชื่อ ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ที่แน่ ๆ ฉันต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับที่สุด
ฉันก็ได้แต่หวังว่าเขาจะลืมเลือนฉันไป เหมือนที่ฉันจะพยายามทำใจให้ลืม
มันจะเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ ทุกอย่างจบแล้ว ฉันจะไม่ฟูมฟาย แต่จะปล่อยทุกอย่างผ่านพ้นไป มันก็แค่ความผิดพลาด ฉันจะไม่เอาความผิดพลาดนี้ มามีผลต่อการดำรงชีวิต ฉันต้องก้าวต่อไป และฝังกลบเรื่องแย่ ๆ เอาไว้ให้ลึกสุดใจ
“ไอ้เหี้ยไนท์” เสียงตะโกนโหวกเวกดังอยู่หน้าห้อง พร้อมกับทุบประตูรัว ๆ ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงต้องลุกขึ้นมาอย่างหงุดหงิด “ไอ้ไนท์”
“ไอ้พี่เหี้ยนี่” เขาสบถอย่างไม่สบอารมณ์ ลุกขึ้นไปเปิดประตู “มีอะไร?”
“มึงมาเที่ยวอังกฤษทั้งที กูก็ต้องมาหาสิวะ!”
“แค่นั้นใช่ไหม?” เขาพรูลมหายใจ สีหน้าเก็บความหงุดหงิดไว้ไม่มิด
“แหม่ พี่ชายมาหาก็ทำหน้าให้มันดีหน่อย แล้วนี่ห้องมึงทำไมถึง…” น้ำเหนือมองเข้าไปในห้อง เพียงแค่เห็นข้าวของกระจัดกระจาย เขาดูก็รู้แล้วว่าน้องใช้ตัวดีเอาสาวมากกในห้อง
“เฮ้อ มีอะไร ถึงถ่อมาถึงที่นี่”
“หลานคิดถึง ตอนแรกก็กะว่าจะไปเจอมึงที่เมืองไทย แต่พอรู้ว่ามึงมาอังกฤษ หลาน ๆ ก็รบเร้าให้กูพามาหาแกนี่แหละ”
“แค่นั้น!”
“เออ!”
“กูก็คิดถึงหลานเหมือนกัน”
“คิดถึงก็รีบออกไปหาสิ”
“อืม” น้ำไนท์พยักหน้า
“แต่ก่อนไปอย่าลืมแต่งตัวให้เรียบร้อย มึงนี่มันร่าน จะแต่งกับชาลิสาวันสองวันอยู่แล้ว ยังมั่วตีหรี่อยู่ได้”
“กูไม่ได้ตีหรี่สักหน่อย”
“สภาพห้องก็นึกว่าเจอสงครามโลก กูเชื่อมึงไม่ลงว่ะ รีบแต่งตัว หลานรออยู่”
“เออ” น้ำไนท์ปิดประตูอาบน้ำชำระร่างกาย เพียงไม่นานก็ออกไปหาหลานชายหลานสาวที่นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก
“อาไนท์” เด็กชายเด็กหญิงวัยห้าขวบวิ่งเข้ากอดชายหนุ่ม
“มาร์ตินกับมินตรา อาคิดถึงพวกหนูจังเลย” น้ำไนท์จุมพิตแก้มนุ่มของหลานทั้งสองคนล่ะฟอด
“คิดถึงก็ไม่มาหาเลย” เด็กหญิงหน้ามุ่ย แก้มกลม ๆ เหมือนซาลาเปายิ่งทำให้ชายหนุ่มเอ็นดู อยากจะดึงแก้มนุ่ม ๆ ให้หลุดติดมือ
“ใช่ คิดถึงก็ไม่มาหาเลย” มาร์ตินเอ่ยเสริม หลานชายหลานสาวมาอยู่ที่อังกฤษกับพ่อแม่ พี่ชายของเขามาบริหารงานของตระกูลดำรงค์พงษ์เมธาซึ่งเป็นตระกูลของภรรยา กลับไทยไม่บ่อยมาก ด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัว
“อาติดงานนิ่ครับ”
“เห็นงานสำคัญกว่าเราสองคนตลอด”
“อาเห็นหลานสองคนเสมอ แต่ที่อาไม่ค่อยมาก็เพราะงานที่ไทยก็สำคัญเหมือนกัน อาต้องทำงานหาเงินให้ได้เยอะ ๆ อาจะได้มาหาหลาน ๆ ไงครับ”
“อ๋อ”
“มาร์ตินมินตรา อย่ากวนอาไนท์สิคะ” เวนารีบเข้ามาห้ามปราม
“ค่ะคุณแม่”
“แม่ว่าเราเข้าครัวไปแกะขนมให้คุณอาดีกว่าเนาะ”
“ค่ะ”
“มาร์ตินด้วยนะ”
“ครับ” เด็กชายเดินตามมารดาเข้าไปในครัว น้ำไนท์เดินไปนั่งลงโซฟาข้าง ๆ พี่ชายแล้วถอนใจแรง ๆ
“เป็นเหี้ยไร ทำท่าทางเหมือนหนักใจ อีกไม่กี่วันก็แต่งงานแล้ว ทำหน้าทำตา ใช้ชีวิตให้มีความสุขสิวะ”
“เฮ้อ ช่างเถอะ หาเหล้าแดกกัน”
“ยังแดกไม่ได้ ลูกกูอยู่ จะทำอะไรไม่ดีก็อย่าให้เด็กเห็น”
“ตอนยังไม่มีลูกมีเมียไม่เห็นมึงสนเหี้ยอะไร”
“นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ความคิดกูเปลี่ยนไปแล้ว วันไหนมึงมีลูกมีเมีย ความรักจะทำให้มึงเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
“ไม่มีทางซะหรอก” น้ำไนท์แค่นหัวเราะแล้วเดินไปหยิบไวน์ราคาแพงมาวางที่โต๊ะ
“กูบอกว่าอย่าทำให้ลูกกูเห็น”
“กูไม่สน”
“ไอ้เลว!”
“พี่เหนือ เดี๋ยวเวพาลูกไปดูการ์ตูนห้องโน้นก็ได้ พี่จะได้มีเวลาคุยกับน้ำไนท์” เวนาเดินถือจานขนมมาวางบนโต๊ะ ผู้เป็นสามีรีบคว้าขวดไวน์ซ่อนเอาไว้ด้านหลัง ด้วยเกรงว่าเจ้าแฝดจอมป่วนจะสนใจเจ้าขวดนี้
“ไม่เอาค่ะคุณแม่ มินตราอยากอยู่กับอาไนท์”
“แต่การ์ตูนในห้องนั้นก็น่าดูนะ” เวนารีบเบี่ยงเบนความสนใจลูกสาว “เราไปดูก่อน ให้อาไนท์คุยกับพ่อเหนือก่อน หนูสองคนค่อยมาเล่นกับอาเหนือนะคะ”
“ได้ค่ะ” เด็กน้อยพยักหน้า “พี่มาร์ติน ไปดูการ์ตูนกัน”
“อืม” มาร์ตินพยักหน้าแล้วเดินตามน้องสาวไปอีกห้อง
“เอามาดื่มได้แล้ว”
“เออ!”
