บทที่ 12 เส้นทางแห่งความมืด

ใบหน้าคมโน้มชิดใบหู “ถ้าเธอคิดว่าฆ่าน้องฉันได้ก็เอาสิ แต่ผลตอบแทนที่เธอได้รับมันจะทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็น ฉันจะฆ่าพ่อเธอ แม่เธอ ญาติเธอ และผู้คนรอบกายที่เธอขอความช่วยเหลือได้ ยึดบริษัทไม่ให้เธอเหลืออะไรสักอย่าง เธอจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอ้างว้างในโลกใบนี้ กลายเป็นขอทานข้างถนนหรือไม่ก็โสเภณีชั้นต่ำ ซึ่งมันเหมาะกันเธอดีใช่ไหมล่ะพิมพ์วลี!”

คนถูกขู่สบตามองเห็นไฟแค้นลุกโชน  ร่างกายเธอสั่นเทาความกลัวแผ่ซ่าน เขาเอาจริงแน่ น้ำตาคนกลัวเริ่มเอ่อคลอไหลรินออกมา คาเอลปล่อยศัตรูเป็นอิสระ พิมพ์วลีเข่าอ่อนทรุดกายลงนั่งกับพื้นสะอื้นไห้

“จากวันนี้เป็นต้นไป เธอจะได้พบเจอกับนรกของจริงพิมพ์วลี!”เขาทิ้งท้ายแล้วสาวเท้าเดินนำ บอดี้การ์ดปล่อยฟาเบียนเป็นอิสระ

ชายหนุ่มรีบเข้าประคองภรรยาให้ลุก พามานั่งเก้าอี้ในสวนแล้วโอบกอดเพื่อปลอบ

“เป็นยังไงบ้างคุณพิมพ์”

“ฉันอยู่ไม่ได้แล้ว ผู้ชายคนนั้นบอกว่าจะแก้แค้นฉัน คุณได้ยินใช่ไหมฟาเบียน เขาบอกฉันจะได้เจอกับนรกของจริง!”พิมพ์วลีบอกเสียงสั่น

“ผมบอกแล้วไม่ให้คุณไปยุ่ง”

“ฉันควรทำยังไงดี”เธอถามสามีเสียงสั่นเครือ คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว อยากหนีเสียให้พ้นๆ ไม่อยากโดนผู้ชายอย่างคาเอลแก้แค้น เขาน่ากลัวเกินไป แม้ใบหน้าคมเข้มจะมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม แต่ทว่าสำหรับเธอแล้วคาเอลคงเกลียดชังเข้ากระดูกดำ

คิดสิเธอควรทำยังไงดี จะแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายลงได้ หรือต้องหนีให้คาเอลหายแค้นเสียก่อน เธอยังไม่อยากตาย ชายคนนั้นต้องฆ่าเธอกับสามีแน่ เสียงโทรศัพท์หญิงสาวดังขึ้น เจ้าของเครื่องมองดูเบอร์

“ยัยแพรว!”

“ใครเหรอพิมพ์”

“น้องสาวฉัน สักครู่นะคุณฟาเบียน”

“ว่าไงแพรว”เธอกดรับแล้วกรอกเสียงตามสาย

“พี่พิมพ์ แม่แย่แล้ว แม่โดนรถชน!”

“อะไรนะ!”

“แม่โดนรถชนเมื่อวาน ตอนนี้อยู่ห้องไอซียูอยู่เลย แพรวไม่มีเงินค่าผ่าตัดพี่ช่วยหน่อยได้ไหม”คนเป็นน้องสะอื้นไห้

“ได้ อยู่โรงพยาบาลไหนพี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย!”

เธอกดวางสายจากน้องสาวแล้วหันมองสามี แพรววรินเป็นน้องสาวฝาแฝด คิดอะไรบางอย่างออกแผนการที่จะสามารถหนีจากคาเอลได้ การใช้แพรววรินเป็นตัวแทนคือหนทางรอดเพียงทางเดียว

“ไปกันเถอะคุณฟาเบียน”

“ไปไหนครับ”

“ไปนครปฐม แม่ฉันถูกรถชน!”

“อะไรนะครับ”ฟาเบียนงุนงง สีหน้าไม่สู้ดี

“แม่ฉันโดนรถชนน่ะค่ะ”

“ครับ”

รถเคลื่อนออกจากบริเวณงาน ราวสองชั่วโมงถึงที่หมายร่างเพรียวเปิดประตูลงจากรถ แพรววรินลุกยืนทันทีที่เห็นพี่สาว ฟาเบียนนิ่งอึ้งเมื่อพบหน้ากับหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนภรรยาเขา

“แม่เป็นไงบ้างแพรว”

“หมอบอกต้องผ่าตัดด่วนค่ะพี่พิมพ์!”หญิงสาวบอก

“ค่าผ่าตัดเท่าไหร่เหรอ”

“ห้าแสนค่ะ แต่แพรวไม่มีเงินขนานนั้น แพรวติดต่อพ่อแล้วแต่ปิดเครื่องเลยโทรหาพี่นี่แหละ”

“ไม่เป็นไรแพรว เดี๋ยวพี่ออกให้บอกให้หมอผ่าตัดได้เลย!”

“ค่ะ”

ไม่กี่นาทีถัดมารถเข็นผู้ป่วยเข้าสู่ห้องผ่าตัด สองพี่น้องมองแม่ด้วยความสงสาร เห็นผ้าพันแผลมีเลือดซึม ร่างไม่ได้สติถูกนำเข้าสู้ห้องผ่าตัดสองสาวยืนรอด้านนอกสีหน้ากังวล ฟาเบียนโอบไหล่ภรรยาไว้เพื่อปลอบ

ชายหนุ่มชำเลืองมองสาวสวยใบหน้าละม้ายคล้ายภรรยาไม่ผิดเพี้ยน เพียงแต่การแต่งกายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ใครจะคิดว่าพิมพ์จะมีน้องสาวฝาแฝดด้วย ราวสามชั่วโมงแพทย์ออกมาจากห้องผ่าตัด แพรววรินรีบรุดเดินเข้าหาสีหน้ากังวล

“คุณหมอคะ แม่ของดิฉันเป็นยังไงบ้าง”เธอถามเสียงแผ่ว

“ปลอดภัยแล้วครับ แต่ยังต้องรักษาตัวอีกพักใหญ่”

“จริงเหรอคะ!”เท่านี้เธอก็โล่งใจแล้ว

“ครับ ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว”

“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”

“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”แพทย์บอกแล้วเลี่ยงออกมาจากบริเวณนั้น

พิมพ์วลีสาวเท้ายืนเคียงข้างน้องสาวแล้วจับไหล่ แพรววรินมองพี่อย่างซาบซึ้ง ปกติเธอกับพี่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันมากนักแต่วันนี้พี่พิมพ์ดีเหลือเกิน

“ขอบคุณมากนะพี่พิมพ์”

“จะมาขอบคุณพี่ทำไมแพรว ทำอย่างกับแม่ไม่ใช่แม่ของพี่”

“ค่ะ”

คนเป็นพี่เม้มริมฝีปาก จับข้อมือน้องสาว

“พี่มีเรื่องอยากคุยด้วย ไปคุยกันที่โรงอาหารหน่อยนะ ยังไงหมอก็ยังไม่ให้เราเข้าเยี่ยมตอนนี้หรอก”

“ได้สิพี่พิมพ์”แพรววรินตอบรับแม้รู้สึกงุนงง

สามคนนั่งร่วมโต๊ะในโรงอาหาร พิมพ์วลีอีกอักไม่กล้าเอ่ยเห็นสายตาสามีมองมาเหมือนมีคำถามมากมาย เธอตัดสินใจแล้วไม่อยากอยู่เผชิญหน้ากับคาเอลอีก

“แพรว พี่อยากให้แพรวไปทำงานแทนพี่ที่บริษัท”

“อะไรนะพิมพ์!”ฟาเบียนถามกลับทันที

“คุณฟาเบียนอย่าเพิ่งขัดสิคะ”

ฟาเบียนขบกรามแน่น นี่ภรรยาจะทิ้งเขาหนีเอาตัวรอดคนเดียวงั้นเหรอ

“ทำไมล่ะคะพี่พิมพ์ แพรวไม่เข้าใจ แพรวไม่อยากทำงานบริษัทพ่อ พี่พิมพ์ก็รู้”

“ถือว่าพี่ขอร้องก็แล้วกันแพรว พี่เหนื่อยมากตอนนี้ พี่ไม่อยากทำงานแล้ว”

“อะไรกันคะพี่พิมพ์ พี่ทำงานมาตั้งนานมาบอกแพรวว่าเหนื่อย แพรวไม่เข้าใจเลยค่ะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป