บทที่ 17 ชายผู้ไร้หัวใจ
สายตรงยังเลขาท่านประธาน มาลัยกดรับสาย “สวัสดีค่ะ”
“คุณมาลัยคะ รองประทานบริษัทไอดีลอนต้องการติดต่อกับท่านประธานค่ะ”
“รอครู่หนึ่ง”
มาลัยลุกจากเก้าอี้เปิดห้องประธาน คาเอลเงยหน้าจากกองเอกสาร
“มีอะไรครับ”
“รองประธานไอดีลอนขอเรียนสายท่านประธานค่ะ”
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก “โอนสายเข้ามาเลย”
คาเอลยกหูโทรศัพท์ทันทีที่สายโอนเข้ามาหา อยากรู้นักพวกมันจะทำยังไง
“เธอมีอะไร!”
แค่เสียงตอบกลับมาแพรววรินแทบอยากวางสายแล้ว ทั้งห้วน สั้น แถมยังไม่มีหางเสียงอีก
“ฉันพิมพ์วลี อยากขอพบคุณสักหน่อยน่ะค่ะ”เธอบอกความต้องการ พยายามเก็บกลั้นความรู้สึกภายในเอาไว้
“พบทำไม เธอไม่ละอายเวลาเห็นหน้าฉันเลยเหรอ!”
“นี่ฉันพูดกับคุณดีๆ นะคะ ทำไมคุณไม่รักษามารยามบ้างล่ะ!”เธอย้อนถามเสียงขุ่น
“อย่างเธอไม่จำเป็นต้องมีมารยาทด้วยหรอกพิมพ์วลี”
ช่างเถอะ ในเมื่อมันลำบากนักเธอควรหาทางแก้ทางอื่นดีกว่า ดูเหมือนคาเอลไม่ยินยอมแน่ แต่ละคำพูดแสดงถึงความรู้สึกต่อพี่สาวอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ คงเกลียดกันมากเลยทีเดียว
“เอาเป็นว่าคุณจะให้พบหรือเปล่า ถ้าไม่ ฉันจะได้วางสายตอนนี้เลย”หญิงสาวตัดบท ไม่ว่าจะตอบรับหรือไม่คงทำได้แค่นี้เท่านั้น
เสียงพิมพ์วลีสร้างความแค้นให้โหมกระหน่ำ ตนเองกระทำผิดต่อน้องสาวมีหน้ามาขอพบ คิดอ่านทำอะไรโง่เง่าสิ้นดี ในเมื่ออยากเจอหน้ากันจัดให้ก็ได้ แล้วผู้หญิงอย่างพิมพ์วลีจะต้องเจ็บปวดจนต้องร้องขอการให้อภัยจากเขา
“ถ้าอยากพบให้มาที่บ้านหลังตรงข้ามกับบ้านเธอ คฤหาสน์เนตรสวรรค์ น่าจะรู้ใช่ไหม”
บ้านตรงข้ามงั้นเหรอ สมัยก่อนเคยเป็นของเพื่อนคุณพ่อ แต่ดูเหมือนเขาย้ายออกไปกันเมื่อปีก่อน แล้วบอกขายบัดนี้กลายเป็นของคาเคลคิดแล้วน่าเสียดาย
“ทำไมต้องเป็นที่นั้นด้วย เป็นร้านอาหารไม่ได้หรือคะ”เธอพยายามสุภาพที่สุด
“ฉันไม่เสียเวลาไปที่ไหนทั้งนั้น ถ้าไม่มาก็จบ ไม่ประนีประนอม”ชายหนุ่มตัดบท
“เข้าใจแล้ว เย็นนี้ฉันจะไปพบคุณ”
แพรววรินวางสายแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เหมือนตนเองกำลังเข้าถ้ำเสือ หากไม่โดนขย้ำก็คงดี หลังเสร็จธุระกับเขาแล้ว คงต้องติดต่อหาพี่สาวเพื่อถามสาเหตุของความเกลียดชังที่คาเอลมีต่อเจ้าของชื่อพิมพ์วลีเสียที
เสียงกดกริ่งหน้าประตูดังขึ้น คาเอลมองผู้มาเยือนผ่านกล้องวงจรปิดหน้าคฤหาสน์ เห็นใบหน้าหวานใสเลยกดเปิดประตูเชิญแขกที่อยากชำระแค้นเข้ามา เพียงก้าวเข้ามาแพรววรินกวาดตามองบรรยากาศรอบๆ สาวเท้าอย่างเชื่องช้าสู่ตัวบ้านหลังใหญ่ ถึงโถงกลางห้องเธอหยุดเท้าเห็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำยืนรออยู่
“เชิญขึ้นชั้นบนได้เลยครับ คุณคาเอลอยู่ที่ห้องทำงาน”อัลเดรบอก
“ห้องทำงานเหรอคะ?”เธอถามย้ำไม่ค่อยแน่ใจ
“ครับ อยู่ในห้องทำงาน”
คนถูกเชิ้อเชิญเริ่มลังเล ยิ่งอยู่ในห้องกันสองต่อสองอันตรายมีมากขึ้นทางหนีลดน้อยลง เม้มริมฝีปากชั่งใจ ในเมื่อมาแล้วไม่อยากกลับไปมือเปล่า บางทีคาเอลอาจใจดีกว่าที่คิดก็เป็นได้ รวบรวมความกล้าสาวเท้าตามชายรูปร่างสูงกำยำ
อังเดรหยุดยืนหน้าห้องแล้วเคาะประตูสองครั้งแล้วเปิดออก หันมาพยักหน้ากับแขก แพรววรินก้าวเข้าด้านในประตูจึงปิดลง ห้องขนาดใหญ่ชั้นหนังสือและตู้เก็บแฟ้มเอกสารถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ตรงกลางห้องวางโต๊ะไม้ขนาดใหญ่พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับทำงานพร้อมสรรพ
เธอเห็นเขานั่งทำงานอยู่ตรงนั้น แขกสาวยืนประหม่าไม่กล้าเดินเข้าหา เมื่อมองอีกครั้งคาเอลวางมือจากเอกสารเงยหน้าขึ้นมอง แววตาเยือกเย็นจนทำให้คนถูกมองหนาวขึ้นมา
“มาแล้วเหรอ”เสียงทุ้มเยือกเย็นเอ่ยถาม แล้วลุกจากเก้าอี้ทำงาน “โซฟาว่างเชิญนั่ง!”ปลายเสียงแข็ง
เธอนั่งตรงข้ามกับเจ้าของห้อง เห็นสีหน้าปกติไม่มีแววขุ่นเคืองเหมือนเมื่อพบหน้าครั้งอื่น
“ฉันขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันนะคะ”
“ว่ามาเลย”
“ฉันอยากรู้ว่าคุณต้องการอะไร ถึงได้แย่งลูกค้าจากไอดีลอนตลอด ทั้งที่ลูกค้าบางท่านไม่ใช่รายใหญ่อย่างที่คุณต้องการด้วยซ้ำ!”แพรววรินถามเสียงเครียดสบตาอีกฝ่ายไม่ลดละ
คาเอลเอนกายพิงพนักโซฟา แววตาเปลี่ยนไป
“เธอไม่รู้จริงเหรอพิมพ์วลี ว่าฉันทำทำไม”
“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น จะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณทำเพราะอะไร!”
เธอเครียดรู้สึกราวกับจมน้ำ อึดอัดทรมานกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นอยู่ ต้องแบกรักอะไรหลายอย่างซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ตนปรารถนาเลยสักนิด
“เธอความจำเสื่อมหรือไง ถึงจำไม่ได้ เมื่อก่อนเธอยังสำเหนียกตัวเองอยู่เลย ตอนนี้แสร้งตีหน้าไร้เดียงสาเพื่ออะไร ผู้หญิงอย่างเธอมันไร้ยางอาย อย่ามาทำเนียนไม่รู้เรื่องรู้ราว เพราะต่อให้ทำอะไรฉันก็ไม่มีวันจบเรื่องนี้แน่นอน!”คาเอลปล่อยถ้อยคำหยาบคายออกมาเป็นชุด เมื่อเห็นศัตรูไม่ได้สำนึกตีหน้าเซ่อต่อหน้าเขาอยู่ได้
ร่างบางลุกพรวดแววตาวาวโรจน์ มันเรื่องบ้าอะไรกัน ไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว ผู้ชายคนนี้ต้องการล้มบริษัทงั้นเหรอ แล้วจะทำอะไรอีก ต้องให้มีคนตายหรือไงถึงจะสาแก่ใจ ต่อให้พี่สาวทำให้แค้นเคืองแค่ไหนแต่นี้มันมากเกินไปชัดๆ
“คุณมันบ้า ฉันทำอะไรให้นักหนาถึงกับต้องทำขนาดนี้ คุณมีหัวใจบ้างหรือเปล่า ถ้าไอดีลอนล้มผู้คนมากมายต้องตกงาน คุณไม่สงสารพวกเขาบ้างหรือไง!”
“ทำไมฉันต้องสงสาร เวลาฉันเจ็บใครมาสงสารฉันบ้างพิมพ์วลี อย่ามาทำโลกสวย คนอย่างเธอไม่เคยเห็นแก่หน้าใคร เพราะความเห็นแก่ตัวมันล้นออกมาจนเด่นชัดเลยล่ะ”
“คุณพูดจาหยาบคายดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะ!”เธอตวาดลั่นสีหน้าไม่พอใจ หากคาเอลพูดจาเช่นนี้ เธอยอมไม่ได้หรอกมันทุเรศจริงๆ ไม่ให้เกียรติกันเลยสักนิด
“มันน้อยด้วยซ้ำ ผู้หญิงแบบเธอมันเปรียบได้กับ... ผู้หญิงข้างถนนนั่นแหละ”คาเอลยิ้มเหยียด และนี่คือฟางเส้นสุดท้าย เธอไม่อาจอดทนได้อีก
