บทที่ 19 ชายผู้ไรัหัวใจ

ยามอ้าปากค้างเมื่อเห็นใบหน้าคุณหนูของบ้านอย่างเด่นชัด รีบเปิดประตูทันที อัลเดรขับเคลื่อนรถจอดเทียบหน้าบ้าน สาวใช้วัยกลางคนรีบรุดมาต้อนรับตามหน้าที่

“สวัสดีค่ะ มาพบใครคะ”แม่บ้านยกมือไหว้แล้วเอ่ยถาม

“พอดีผมมาส่งคนน่ะครับ”

“มาส่งคนเหรอคะ?”

“ใช่ครับ”

ร่างบางถูกช้อนอุ้มแม่บ้านอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เห็นคุณหนูสลบไม่ได้สติ

“คุณแพรว เป็นอะไรไปคะ!”

ชายหนุ่มชะงักครู่หนึ่ง เมื่อได้ยินคำเรียกชื่อเปลี่ยนไป แต่คงไม่มีอะไร คนไทยอาจจะใช้มากกว่าชื่อเดียวก็เป็นได้

“เป็นลมครับ พอดีผมเจอเธอโดยบังเอิญน่ะครับ กำลังถูกคนร้ายคิดข่มขืน”ชายหนุ่มแสร้งโกหก

“โอ้ย! ตายแล้วแบบนี้คุณท่านคงโกรธมาก”เห็นสภาพคุณหนูแล้วแม่บ้านเริ่มตระหนก คุณพิพัฒน์รักบุตรสาวมากหากรู้ใครเป็นคนทำคงเอาเรื่องพวกมันอย่างถึงที่สุด

“อย่าเพิ่งตกใจดีกว่านะครับ ผมอยากพาเธอไปที่ห้องก่อน”

“ได้ค่ะๆ”

ชายหนุ่มสาวเท้าขึ้นสู่ชั้นสอง ห้องนอนปีกขวามองเห็นสระน้ำ ร่างบางถูกวางไว้บนเตียงนอนสี่เสา คาเอลลอบมองเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเสียดาย เรือนร่างน่ามองใบหน้างดงามจนแทบไม่อยากผละห่าง แต่จำต้องเก็บกลั้นความต้องการ ควรคิดว่าพิมพ์วลีนั้นน่าขยะแขยงเพียงใด

“ขอบคุณมากนะคะคุณ...”แม่บ้านเว้นช่วง และเหมือนหายอาการตกใจจึงมองเห็นใบหน้าหนุ่มแปลกหน้าอย่างเด่นชัด

“ผมคาเอลครับ”

เป็นครั้งแรกจวบจนอายุสี่สิบ เพิ่งเคยเจอฝรั่งหน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ ทั้งรูปร่างหน้าตา และส่วนสูงเหมาะเจาะเหลือเกิน คิดว่าเป็นนักแสดงฮอลลีวูดเสียอีก

ร่างสูงก้าวลงมาสู้ชั้นล่าง สาวใช้วัยแรกรุ่นเริ่มกรูกันเข้ามายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มองแขกผู้มาเยือนอย่างเปิดเผย คาเอลกวาดสายตามองรอบบ้าน สักวันเขาต้องครอบครองมันให้ได้ พวกมันต้องไร้ที่อยู่ คาเองเดินมาถึงรถแม่บ้านวัยกลางคนก้าวตามมาเพื่อส่งแขก

“ขอบคุณมากนะคะคุณคาเอล เป็นพระคุณมากจริงๆ ค่ะ ถ้าคุณไม่พบคุณหนูเสียก่อนคงเกิดเรื่องแย่ๆ แน่”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจช่วย”

“ค่ะ”

“ว่าแต่... คนในบ้านหายไปไหนหมดครับ”เขาสื่อความหายถึงไอ้ฟาเบียน และพ่อของพิมพ์วลีความจริงเขาอยากให้สองคนนั้นเห็นมากที่สุด

“ท่านไปออกงานการกุศลกับคุณฟาเบียนค่ะ”

“อ๋อครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”คาเอลกล่าวลาแล้วเปิดประตูรถขึ้นนั่ง รถถูกขับออกจากคฤหาสน์หลังงาม

“อัลเดรขับรถไปชลบุรีนะ”

“ครับ”อัลเดรกดจีพีเอสดูแผนที่ทันที

คาเอลยกยิ้มพึงพอใจกับการกระทำของตนเอง จนบอดี้การ์ดชำเลืองมองเห็นสีหน้าเจ้านายแช่มชื่นผิดกว่าปกติ คงเกิดเรื่องอะไรดีๆ ขึ้นแน่

“คุณคาเอล ผู้หญิงคนนั้นผมรู้สึกว่าเธอแปลกไปนะครับ”อัลเดรออกความเห็น

“แปลกงั้นเหรอ แปลกยังไง”

“คือ... แววตาเธอน่ะครับ มันไม่มีอะไรเคลือบแฝงเลย ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันแต่มันแตกต่างจากคุณพิมพ์วลีคนเดิมน่ะครับ”

“หึ! ผู้หญิงอย่างพิมพ์วลีมารยายิ่งกว่าที่นายคิดอัลเดร จะสร้างหน้ากากมาสวมเท่าไหร่ก็ได้!”ชายหนุ่มขบกรามแน่น

“คุณคาเอลผมเองก็ทำงานให้คุณมานาน เรื่องของคุณผมคาดเดาได้บางส่วนและผมรู้ว่าคุณกำลังต้องการแก้แค้น ถ้าหากคุณคิดว่าพวกผมพอจะช่วยอะไรได้บ้าง ผมเองก็อยากจะฟังเรื่องที่ทำให้คุณแค้นเคืองคนพวกนั้นเหมือนกัน”

คาเอลชะงักมองสายตาลูกน้องผ่านกระจกหน้า ดวงตาเรียวคมหม่นเศร้า เป็นครั้งแรกที่อัลเดรพูดจากับเขาแบบนี้ ปกติไม่ว่าใช้อะไรบอดี้การ์ดมือดีสองคนไม่เคยปฏิเสธ ต่อให้เป็นเรื่องเลวร้ายมากแค่ไหนก็ตาม เขาเองไม่เคยเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง เพราะพูดทีไรหัวใจมันเจ็บปวดความแค้นมันพุ่งขึ้นมาจนแทบอยากฆ่าศัตรูให้ตายคามือเสียเดี๋ยวนั้น

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเล่าอะไรให้นายฟัง แต่เวลาที่นึกถึงทีไรแล้ว มันเดือดจนอยากฆ่าคนน่ะสิ”

“ถ้าคุณคาเอลแค้นมาก จะให้ผมลงมือฆ่าก็ได้นะครับ”

ได้ยินคำพูดเรียบๆ แต่แฝงด้วยความเยือกเย็น ทำเอาชายหนุ่มยิ้มกว้าง ลูกน้องเขามันต้องได้แบบนี้สิ

“ยังหรอกอัลเดร ฉันยังอยากให้พวกมันทรมานอยู่”

“ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน”

เรื่องราวเมื่อหนึ่งปีก่อนถูกเล่าออกมา คนฟังนิ่งเงียบไม่พูดโต้ตอบ มือกำพวงมาลัยกระชับแน่นมากขึ้นรู้สึกร้อนในกายราวกับถูกไฟค่อยๆ แผดเผา หากคุณคาเอลจะแค้นเคืองคงไม่แปลกเลย ถ้าเป็นเขาพวกมันต้องชดใช้ยิ่งกว่านี้เสียอีก ในเมื่อเจ้านายยอมเปิดอกแบบนี้ เขาเองจะรับใช้ให้ดีที่สุดเลยทีเดียว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป