บทที่ 5 วิวาห์สีเลือด

“เจอกันอีกแล้วนะครับคุณฟาเบียน”เสียงทักทายของคาเอลดังขึ้น เจ้าของชื่อลุกยืนสีหน้าตื่นตระหนก

“แกกำลังทำอะไรคาเอล!”

“ไม่ได้ทำอะไรนี่ครับ ก็มาพรีเซนต์งานเท่านั้นเอง”

ในอกมันแทบระเบิด เขาโดนบริษัทฟรีดอมตามแย่งเซ็นสัญญา ทุกบริษัทที่ตนหมายตาคาเอลปรากฎตัวเสมอ ทั้งที่ผลกำไรไม่มาก เจตนามันเด่นชัดอยู่แล้ว บริษัทกำลังเข้าสู่วิกฤตหากไม่ได้ทำสัญญากับทีไหนเลย คงต้องกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่

อีกครั้งที่เขาพ่ายแพ้ ฟาเบียนสาวเท้าออกมาจากห้องท่าทีเหนื่อยอ่อน พยายามข่มกลั้นอารมณ์อย่างสุดกำลัง มองเห็นคาเอลกำลังพูดคุยกับบอดี้การ์ดรีบก้าวยาวเข้าหา อังเดรรีบเอาตัวบดบังเจ้านายไว้

“เมื่อไหร่แกจะเลิกจองล้างจองผลาญฉัน!”ฟาเบียนตวาดลั่น คนเริ่มหันมามอง

“เมื่อแกไม่เหลืออะไร ลิ้มรสความสูญเสียที่ทรมานยิ่งกว่าฉัน เมื่อนั้นฉันถึงจะหยุดมัน!”

“ไอ้คาเอลแกมันบ้าไปแล้ว คนรักกันเลิกกันมันเรื่องธรรมดา ทำไมแกถึงคิดว่าฉันเป็นคนผิดฮะ!”

ดวงตาเรียวคมเบิกกว้างขบกรามแน่นระงับอารมณ์ตนเอง ไม่อยากทำเรื่องในบริษัทคนอื่น มันพูดอย่างไร้ความรับผิดชอบออกมาแบบนี้ คนอย่างเขาไม่มีวันหยุดแน่

“รักกันเลิกกันเป็นเรื่องธรรมดางั้นเหรอ แล้วแกมาคุกเข่าขอมิร่าต่อหน้าฉันทำไม ไอ้ฟาเบียน!”

“ก็ตอนนั้นฉันรักมิน่า แต่ตอนนี้ฉันหมดรักแล้ว!”

“อยากพูดหมาๆ อะไรก็เชิญ ฉันก็เหมือนกันเปิดบริษัทมันย่อมมีคู่แข่งเป็นธรรมดาฟาเบียน เพราะฉะนั้นแกก็ไม่มีสิทธิ์มาแค้นฉัน ถ้าอยากเซ็นสัญญาแค่เก่งกว่าฉันให้ได้ก็พอแล้ว”

“ไอ้คาเอล!”ฟาเบียนกระโจนเข้าใส่แต่กลับถูกอังเดรผลักออก

คนตัวใหญ่ยิ้มเย็น ฟาเบียนไม่ได้สำนึกในความผิดตนเองเลยสักนิด อภัยงั้นเหรอไม่มีทางคนอย่างมันต้องเจออะไรหนักหนากว่านี้ เขาจะทำให้มันหย่ากับเมียให้ได้ แล้วผู้หญิงคนนั้นอีกคนที่ต้องชดใช้

เสียงประตูห้องทำงานเปิดออกร่างสูงกำยำก้าวเข้ามา คาเอลวางมือจากคอมพิวเตอร์ ซองสีน้ำตาลถูกวางตรงหน้าเขาหยิบมาดู อ่านข้อมูลและประวัติของภรรยาฟาเบียน

“เธอชื่อพิมพ์วลีครับเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทไอดีลอนที่เมืองไทย ค่อนข้างมีฐานะเลยทีเดียวครับ”

“หึ!”ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ เขาพอเข้าใจในสิ่งที่ฟาเบียนมันคิดแลว “แล้วตอนนี้ผู้หญิงคนนี้พักอยู่ที่ไหน”

“พักอยู่กับฟาเบียนที่คฤหาสน์ครับ”

ชายหนุ่มแสดงสีหน้าครุ่นคิด “ขอบใจมากคาล”

“ครับ”คาลเลี่ยงออกมา

หลังจบจากซีเจคแล้วเป้าหมายต่อไปคือบริษัทที่เมืองไทย ไอดีลอนจะต้องตกเป็นของเขา ผู้หญิงเห็นแก่ตัวไม่มีคุณธรรมในจิตใจแบบนั้นเหมาะแก่การทำลายนัก

ยกหูโทรศัพท์ติดต่อเลขาหน้าห้อง สาววัยทองก้าวเข้ามายืนตรงหน้าประธานบริษัท

“คุณคาเอลมีอะไรให้วีน่ารับใช้คะ”

“ช่วยหาครูสอนภาษาไทยให้ผมหน่อย”

“ได้ค่ะ”เธอรับคำสั่งแล้วออกจากห้อง

ร่างสูงเดินวนในห้องนอนตอนนี้เขาเครียดจนหัวแทบระเบิด พิมพ์วลีชำเลืองมองสามีตนเองผ่านกระจก ร่างเพรียวลุกยืนกอดสามีจากด้านหลัง หลายวันผ่านมาสามีดูละเลยหน้าที่บนเตียง

“เป็นอะไรคะฟาเบียน”

ชายหนุ่มหันกายมองภรรยา เธอคือแสงสว่างของเขา

“พิมพ์ช่วยผมหน่อยได้ไหม!”เขาถามเสียงเครียด

“มีอะไรให้พิมพ์ช่วยเหรอคะ”

ร่างเพรียวถูกรั้งให้นั่งบนเตียงคู่กัน

“ไอ้คาเอลมันแย่งลูกค้าบริษัทผมไปหมด ตอนนี้ผมกำลังทำโปรเจคใหญ่อยากได้เงินทุกสักก้อน ถ้าผมได้กำไรผมจะคืนให้คุณนะพิมพ์!”

“อะไรนะคะ!”

“ผมจริงจังนะ คุณช่วยพูดกับพ่อคุณให้หน่อยได้ไหม”

“คุณไปทำยังไงให้เสียท่าผู้ชายคนนั้นได้!”คนฟังชักฉุน ไม่สบอารมณ์เลยเมื่อก่อนเธอมองว่าเขาเก่งแต่ตอนนี้ดูเหมือนไม่ใช่แล้ว

“คุณไม่รู้หรือไง ไอ้คาเอลมันเป็นอัจฉริยะ มันได้รางวัลประกวดตั้งเยอะ แถมยังจบจากมหาวิยาลัยชื่อดังของอเมริกาด้วยเกรียตินิยมอันดับหนึ่ง มีบริษัทมากมายอยากได้ตัวมันทำงานด้วยแต่มันกลับแยกตัวทำโปรเจคคนเดียว สุดท้ายมันก็ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นนี่แหละ”

“แสดงว่าเขาเก่งมากเลยสินะคะ”เธอพึมพำราวกับละเมอออกมา

“ก็มากนะสิ”

พอนึกใบหน้าหล่อเหลา เลือดในกายสาวดันร้อนฉ่าอยากพบกันอีกครั้ง หันมองสามีหากไม่ช่วยเธอคงไม่มีหน้าอยู่ในสังคม มีหวังโดนเหยียดหยามที่มีสามีไม่เอาไหนแน่

“ก็ได้ค่ะ ฉันจะช่วย แต่ว่า... คืนนี้คุณต้องทำให้ฉันพึงพอใจนะคะ”บอกพร้อมยิ้มยั่วยวน

“ไม่บอกผมก็พร้อมแล้วจ้ะที่รัก”

ใบหน้าคมเข้มโน้มเข้าหากดริมฝีปากแทรกเรียวลิ้นกระหวัดหา ร่างกายทาบทับมือเลื่อนไล้ปลดเปลืองอาภรณ์ ร่างเพรียวบิดเร่าหอบโยนด้วยแรงปรารถนา ส่งเสียงครางด้วยความอิ่มเอมกับรสรักซึ่งสามีปรนเปรอให้อย่างเร่าร้อน ราตรีนี้ยังอีกยาวสำหรับเธอ ฟาเบียนจะช่วยปลดปล่อย แม้เธอจะจินตนาการใบหน้านั้นเป็นชายอีกคนที่ปรารถนาอยากได้มาร่วมเตียงสักครั้ง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป