บทที่ 2 2
สวิตเซอร์แลนด์ นครแห่งการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่มั่งคั่ง ทั้งการธนาคารที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและการส่งออกสินค้าเครื่องมือแพทย์ที่กำลังเติบโต ออกดอกออกผลอย่างมากมายมหาศาลตอบแทนให้แก่เจ้าของธุรกิจหนุ่มไฟแรง ลูกชายคนโตของตระกูลดอว์สันซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจหลากหลาย ติดอันดับหนึ่งในสามของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดของโลก สี่หนุ่มตระกูลดอว์สันต่างพากันหยิบจับธุรกิจที่ตนเองถนัดตามความสามารถและความเห็นชอบจากประมุขของตระกูลซึ่งวางมือให้พวกลูกชายของตนเองสืบทอดต่อ
วิลเลียม ดอว์สัน ทายาทคนแรกของตระกูลดอว์สัน บุรุษผู้กุมบังเหียนการธนาคารของทวีปยุโรปและกำลังขยายตัวไปทางเอเชีย พร้อมทั้งยังเข้ารับช่วงงานแทนบิดา มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ ยักษ์ใหญ่ที่ทั้งขวานผ่าซาก ไม่มีหน้าไม่มีหลัง ทว่าสวรรค์กลับสรรค์สร้างบุรุษหล่อเหลาปานเทพบุตรที่แม้จะเย็นชาต่อสาวสวยซึ่งพยายามทอดสะพานให้ แต่ก็ยังสามารถดึงดูดใจทั้งสาวเล็กสาวใหญ่หรือสาวเทียมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ก็ในเมื่อความลงตัวกันแบบที่สุดของใบหน้าคมครึ้มเคราเล็กน้อย ดวงตาคมดุจพญาอินทรีสีเทาเข้ม ยามคู่ต่อสู้ถูกจ้องด้วยสายตาคู่นี้เป็นอันต้องสยบ แพ้ราบคาบ คิ้วดกดำเข้มเรียงตัวสวยไม่แพ้ขนตางอนยาวของผู้หญิง จมูกที่โด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากได้รูปสวย แต่ความสวยเท่านั้นที่หลอกตา หากได้ลิ้มรสวาทะจากริมฝีปากคู่นี้ รับรองได้เลยว่าจะลืมไม่ลง ทว่าภายใต้มาดเฮี้ยบที่ภายนอกดูเย็นชา ไร้หัวใจ กลับมีข้อดีมากมายที่สาว ๆ ทั่วทั้งโลกอยากลองพิสูจน์สักครั้งก่อนตาย แต่คงไม่มีใครสามารถทำได้หากไม่ต้องตาและใจของมหาเศรษฐีหนุ่มหล่อคนนี้
“ข้าวปั้น มีข่าวของผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ดูสิคนบ้าอะไรหล่อระเบิดขนาดนั้น” นลินชี้เปิดหน้าข่าวใหม่ล่าสุดที่กำลังฮอตที่เจ้าตัวแอบหยิบมาจากบริษัทแล้วทำท่าทางเพ้อฝันตามฉบับนลินที่มักชอบอ่านนิยายรักและมันทำให้ข้าวปั้นติดไปด้วยอีกราย
“คนไหนหรือ” ข้าวปั้นนั่งลงบนโซฟากลางเก่ากลางใหม่หลังจากเดินไปรินน้ำเย็นมาให้นลินที่แวะมาหาที่บ้านในวันหยุดทุกครั้ง และมักจะชวนกันออกไปชอปปิงข้างนอกตามประสาผู้หญิงที่มักไปเดินเที่ยวหาของกิน
“ไม่สนใจไม่ใช่หรือ” นลินหันไปมองเพื่อนของเธอที่เอียงคอมองนิตยสารในมือของตนเอง ช่วงแรก ๆ ข้าวปั้นไม่สนใจเรื่องรักใคร่ เพราะคิดเอาเองว่าคงไม่มีใครหันมาสนใจผู้หญิงที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ล้มไม่เป็นท่า
“ก็ ตอนนี้สนใจไง เห็นพูดไม่หยุด แค่อยากเห็นอะ” ข้าวปั้นตอบอย่างรักษาท่าทีเอาไว้ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของนลินไปได้ ก่อนจะยื่นให้ข้าวปั้นเห็นว่าคนที่หล่อนพูดถึงบ่อย ๆ นั้นหน้าตาเป็นแบบไหน
“คนนี้ไง หล่อใช่เปล่า”
แรกพบสบตากับรูปภาพตรงหน้า เพียงแค่นี้มันก็ทำให้ข้าวปั้นวางตาไม่ลงได้แล้ว แรงดึงดูดมหาศาลที่พุ่งมาจากดวงตาคมมันทำให้หญิงสาวสะท้านแปลก ๆ
“อื้อ ก็หล่อ”
“หล่อมากต่างหาก แถมรวยเวอร์ด้วย เมื่อไรเราจะได้เจอคนแบบนี้มาแอบชอบบ้าง”
นลินวางนิตยสารทาบกับอกตัวเองแล้วเพ้อฝันตามแบบฉบับของเธอที่มักอ่านนิยายจากนักเขียนโรแมนติกคนหนึ่ง ก่อนที่จะวางลงแล้วหันไปตักข้าวเหนียวมูนที่ทำมาจากบ้านเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย นลินอยู่ตัวคนเดียว หลังจากป้าที่เลี้ยงดูเธอตั้งแต่เล็กได้เสียไป ซึ่งบางครั้งข้าวปั้นก็มักจะตามกลับไปค้างที่บ้านด้วย
ข้าวปั้นแอบเหลือบสายตามองภาพในหน้าที่เปิดอยู่
“แต่เสียดาย” สีหน้าของนลินสลดลงจนทำให้ข้าวปั้นขมวดคิ้วสงสัยว่าเธอเสียดายอะไร
“เสียดายอะไรหรือ”
“ก็มีข่าวซุบซิบว่า คุณวิลเลียม ดอว์สัน เจ้าพ่อธุรกิจด้านการธนาคารสุดหล่อระเบิดคนนี้เป็นพวกเอส” นลินพูดแล้วเอื้อมมือไปหยิบน้ำขึ้นมายกดื่มล้างปาก และคำพูดของเธอทำให้สาวน้อยที่ไม่รู้จักเรื่องพวกนี้สงสัยหนักเข้าไปอีก
“พวกเอสคืออะไรหรือ”
“ก็แบบว่าชื่นชอบการกลั่นแกล้งคน แต่กับคนพิเศษเท่านั้นที่เขาจะยิ่งชอบมากเป็นพิเศษ แต่มันก็แค่ข่าว อาจจะไม่จริงก็ได้ เพราะยังไม่เคยมีใครออกมาพูดจริง ๆ ว่าเขาเป็นแบบนั้น” นลินเห็นสีหน้าของข้าวปั้นที่ซีดสนิทหลังจากฟังคำพูดของเธอจึงแก้ต่าง
แต่มันอาจจะจริงที่เขาเป็นหรือไม่เป็น แต่ยังไงคนระดับนั้นเขาก็ไม่มัวมาสนใจคนแบบพวกเธอกันหรอก ข้าวปั้นคิดในใจเงียบ ๆ
“ช่างเขาสิ จะเป็นเอส วาย ซี อะไรก็แล้วแต่เขา คนรวยแบบนั้นคงจะมาสนใจคนอย่างพวกเราหรอก” ข้าวปั้นพูดสกัดความคิดเพ้อฝันของนลินให้ร่วงหล่นลงทันที แต่เธอก็รู้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่ได้คิดเพ้อถึงขั้นนั้น ขอแค่ได้จินตนาการตามแบบในโลกของเทพนิยายก็พอ
“ก็ใช่ คนรวยเขาจะมาสนใจอะไรกับคนอย่างเรากัน” แล้วทั้งสองสาวก็พากันเปลี่ยนเรื่องคุยกันก่อนที่จะเพ้อเจ้อ ฝันลม ๆ แล้ง ๆ
ตอนนี้พ่อกับแม่ของข้าวปั้นโดนสั่งย้ายให้ไปทำงานที่ต่างประเทศ และไปคราวนี้อีกนานกว่าทั้งคู่จะได้กลับบ้าน นลินจึงนั่งเล่นเป็นเพื่อนข้าวปั้นต่อ
