บทที่ 1 ชูเหมยฮวาภรรยาที่ถูกลืม
จวนแม่ทัพสวีกงจื่อ
หญิงสาวผู้ใดชื่อ ว่าเป็นฮูหยินใหญ่ ทำเพียงทอดสายตามองไปยังถ้วยน้ำชา ที่อนุคนใหม่ของสามียกให้เมื่อครู่ นางมีค่าแค่เป็นสิ่งประดับ แต่ไม่เคยมีสักครั้ง ที่นางได้เป็นคนเคียงข้างสามีอย่างแท้จริง
“คุณหนู...”
“คงถึงเวลาแล้วสินะ...ข้ามิควรรอในสิ่งที่ ไม่มีวันเป็นไปได้”
ร่างระหงลุกขึ้น ก่อนจะก้าวเดินไปเพียงน้อย ขาที่เคยมั่นคง พลันอ่อนแรงไปเสียอย่างนั้น
“คุณหนู!”
เสี่ยวเยี่ยน รีบถลาเข้าประคองร่าง ของผู้เป็นนายเอาไว้ รอยยิ้มอ่อนล้าของคุณหนู เสมือนมีคมดาบนับหมื่นเล่ม ทิ่มแทงเข้าสู่กาย
“อย่าห่วงเลย ข้าแค่พักผ่อนน้อยไปเท่านั้น มิช้าก็ดีขึ้น”
ชูเหมยฮวาเอ่ยปลอบสาวใช้ ด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เรื่องราวเดิมๆ หมุนวนกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าครานี้มันแตกต่างออกไป เพราะคนสามีเลือกมาเคียงกาย คือรักที่เขายืนยันหนักแน่น ว่าไม่ยินดีรับคำปฏิเสธจากนาง
เสี่ยวเยี่ยน ประคองผู้เป็นนาย กลับไปยังห้องนอน ลมหายใจที่ดูเหนื่อยอ่อนของคุณหนู ทำให้ใจของหญิงสาว ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก สกุลสวีช่างใจดำนัก
“ข้าอยากดื่มน้ำอุ่นๆ สักถ้วย”
ชูเหมยฮวา เอ่ยกับสาวใช้ด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า โรคประจำตัวของนาง กำลังทำให้นางสิ้นไร้เรี่ยวแรง หัวใจเจ้ากรรม ช่างไม่อดทนเอาเสียเลย
“คุณหนู รอบ่าวสักครู่นะเจ้าคะ”
ชูเหมยฮวาพยักหน้ารับ ก่อนจะพิงกายกับหัวเตียง ดวงตาอันอ่อนล้าหลับลง และอาการหมุนวนในหัว ได้เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน
มือบางเลื่อนมากุมยังอกข้างซ้าย อาการเจ็บร้าวและหัวใจที่เต้นถี่รัว ทำให้หญิงสาวนิ่วหน้า จนเหงื่อเม็ดใหญ่ ผุดขึ้นราวดอกเห็ด ชูเหมยฮวาพยายามอย่างยิ่ง ที่จะสูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอด ทว่าความเจ็บร้าวที่ทรวงอก ทำให้ความพยายามนั้นสูญเปล่า
เปลือกตาหนักอึ้ง ราวถูกรั้งเอาไว้จากกาวชั้นดี เรียวปากสั่นระริก เหยียดออกเล็กน้อย นางต่อสู้กับหลายสิ่งอย่าง มาไม่น้อยเลย ทว่าลมหายใจที่กำลังขาดห้วง กลับไร้ผู้ใดเหลียวแล
‘พี่ใหญ่ ข้าขอโทษ ที่มิอาจรอท่านกลับมาได้’
น้ำตาไหลออกมาอาบสองแก้ม ก่อนที่ทุกอย่างจะสิ้นลง โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่านับจากนี้ คนที่ยังอยู่ จะพบเจอจุดจบเช่นไร ความรักที่เฝ้ารอมานับสิบปี นอกจากไม่เคยได้แล้ว นางยังต้องทนเห็นคนที่ตัวเองรัก คลอเคลียหญิงอื่นต่อหน้ามิเว้นวัน
“คุณหนู! คุณหนูเจ้าคะ”
เสี่ยวเยี่ยนรีบวางถ้วยน้ำอุ่นไว้ ก่อนจะค่อยๆ เขย่าเรียกผู้เป็นนาย ทว่าไม่มีสัญญาณใดตอบกลับมา เสี่ยวเยี่ยนค่อยๆ ยื่นมือสั่นระริก ขยับเข้าใกล้จมูกของผู้เป็นนาย
“คุณหนู! ฮึกๆ ไม่นะเจ้าคะ คุณหนู...อย่าล้อบ่าวเล่นเยี่ยงนี้ คุณหนู...ได้โปรดตอบบ่าวสักคำเถิดเจ้าค่ะ”
“เจ้าเขย่าข้าเสียขนาดนี้ ข้าคงมิกล้าตายหรอกนะ”
แม้น้ำเสียงที่เปล่งออกมา จะยังอ่อนล้า ทว่ามันกลับเรียกทั้งเสียงสะอื้นปนหัวเราะ เสี่ยวเยี่ยนไม่รู้ว่านาง ควรต้องรู้สึกใดกันแน่ แต่ทุกอย่างที่นางระบายออกมา ผ่านการกระทำ มันคือความโล่งใจ
“คุณหนู น้ำอุ่นๆ ที่คุณหนูต้องการเจ้าค่ะ”
“...”
หญิงสาวทำเพียงมองหน้าสาวใช้ ก่อนจะลดสายตาไปยังถ้วยน้ำในมือ ทุกอย่างในสายตา และห้วงความทรงจำ มันล้วนมีของผู้อื่นไหลวน
“นะ...น้ำเจ้าค่ะ”
เมื่อเห็นสายตา คล้ายสงสัยของผู้เป็นนาย เสี่ยวเยี่ยนจึงพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ช่วยข้าหน่อย”
หญิงสาวเอ่ยเบาๆ มือที่ไม่ใช่ของนาง มันยังคงสั่นระริก จนไม่กล้าที่จะถือถ้วยน้ำนั้นด้วยตนเอง
“ค่อยๆ นะเจ้าคะ” เสี่ยวเยี่ยนค่อยๆ ยกถ้วยน้ำให้ผู้เป็นนายดื่ม
มือบางแตะเบาๆ ที่ข้อมือเสี่ยวเยี่ยน เพื่อเป็นการบอกว่านางดื่มน้ำเพียงพอแล้ว แม้ว่าคอของนางจะดูไม่ชุ่มชื่นเท่าใดนัก แต่นี่คือคำสั่งจากเจ้าของร่าง ที่มีต่อสาวใช้ นางหรือจะกล้าอาจหาญ เป็นคนเรื่องมาก ทั้งที่ตอนนี้ยังมึนงง กับการตื่นมาในร่างกายของผู้อื่นเยี่ยงนี้
“คุณหนู ต้องการสิ่งใดอีกหรือไม่เจ้าคะ บ่าวจะรีบไปจัดหามาให้”
“ข้าขอพักต่ออีกสักหน่อย เจ้าเองก็ไปพักเถอะ”
“บ่าวช่วยเจ้าค่ะ”
เสี่ยงเยี่ยน ประคองผู้เป็นนายให้เอนกายลงนอน ก่อนจะช่วยดึงผ้าห่มขึ้นคลุมกาย แม้ว่าเวลานี้ยังไม่มืดค่ำ ทว่าคุณหนูของนางติดผ้าห่มยิ่งนัก
ดวงตาคู่งามปิดลงอย่างอ่อนล้า ก่อนที่ภาพหมุนวนนั้น จะหลั่งไหลเข้ามาในหัวอีกครั้ง มือรวบกำผ้าห่มเอาไว้แน่น โดยไม่รู้เลยว่าภาพที่ตนเองนอน ทั้งที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทางใจ จะทำให้สาวใช้ผู้ภักดี น้ำตาอาบแก้มด้วยความห่วงใย
“องค์หญิงเยี่ยเจา บัดนี้กองทัพของท่าน ไม่อาจปกป้องราชบัลลังก์ได้อีกแล้ว มอบลมหายใจของฮ่องเต้มาเสียจะดีกว่า”
ขุนนางกบฏ ชี้ปลายกระบี่ มาที่ใบหน้าดุดันขององค์หญิง ผู้เป็นดั่งเกราะคุ้มบัลลังก์ ทว่ามันกลับไม่ได้ทำ ให้หญิงสาวสะท้านไหวแม้แต่น้อย
มืออันหยาบกร้าน กระชับมือน้อยของฮ่องเต้เอาไว้แน่น นางคือพี่สาวร่วมพระมารดากับฮ่องเต้น้อย ในวันที่พระบิดายื่นตราแผ่นดินให้นาง เพื่อรอมอบให้แก่น้องชาย ในวันที่เขาแข็งแกร่ง
นับแต่นั้นมา นางไม่เคยสักครั้ง ที่จะมีชีวิตอันเรียบง่าย เยี่ยงสตรีอื่น แต่ทุกลมหายใจ ล้วนเพื่อบ้านเมือง และราชบัลลังก์ กรามเล็กถูกขบแน่น เพื่อข่มกลั้นความรู้สึกมากมายเอาไว้























