บทที่ 2 ลมหายใจที่สอง
“ย่อมได้...”
“พี่หญิง!”
ฮ่องเต้ เรียกพี่สาวเสียงหลง ด้วยไม่อยากจะเชื่อ ว่านางจะพูดเช่นนี้ ทั้งที่ผ่านมา นางปกป้องเขามาโดยตลอด
“แต่ต้องไม่มีข้า ยืนอยู่ตรงนี้เท่านั้น”
เยี่ยจงบีบมือพี่สาวเอาไว้แน่น หากเขารอดจนเติบใหญ่ เขาจะไม่ทำให้พี่สาว ต้องแบกภาระไว้บนบ่ามากเยี่ยงนี้อีก
“ทรงคิดว่ากองทัพเกราะดำ จะมาทันปกป้องท่านกับฮ่องเต้สินะ...ฮ่าๆ ทุกการลงมือ ย่อมมีการเตรียมการเอาไว้แล้วทั้งสิ้น”
“ไม่ผิด...เพราะทุกการเคลื่อนไหว ข้าย่อมมองทุกอย่างให้ถี่ถ้วน เว้นแต่ในบางครั้ง ที่เส้นผมบางเส้นมันแตกแยก”
เยี่ยเจา เบนสายตาไปยังคนที่นางเรียกว่า ท่านน้า สตรีผู้เป็นดั่งมารดาอีกคนของนาง นี่คือความเลินเล่อของนาง ที่ไม่มองอีกฝ่ายให้ถี่ถ้วน
นั่นเพราะเห็นอีกฝ่าย เป็นน้องสาวแท้ๆ ของมารดา และเป็นสนมคนหนึ่งของบิดา แต่วันนี้นางได้เห็นกับตาแล้ว ว่าที่ผ่านมาเหยาเยี่ยน สวมหน้ากากเป็นคนดีมาโดยตลอด
“อย่าได้มองข้าแบบนั้น หากเจ้าคิดจะโทษ ก็โทษที่พ่อแม่ของเจ้า ที่ไร้ความเป็นธรรมต่อข้า”
เหยากุ้ยเฟย รีบพูดขึ้น เมื่อเห็นสายตาของหลานสาว พระนางต้องใช้สารพัดวิธี เพื่อให้ได้เข้าวัง และต้องอดทนมาไม่น้อย กว่าจะก้าวสู่ตำแหน่งกุ้ยเฟย แต่ถึงกระนั้น สิ้นพี่สาวของนางไปแล้ว
ฮ่องเต้ยังไม่ยินยอมให้นาง หรือสนมคนใด ก้าวสู่ตำแหน่งฮองเฮา แทนพี่สาวของนางที่ตายไป และยังมอบอำนาจทั้งหมดให้พระธิดาองค์โต ส่วนบัลลังก์ กลับตกเป็นของเด็ก ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เยี่ยงเยี่ยจง แทนที่จะเป็นโอรสของนาง ที่มีวัยหนุ่มและเฉลียวฉลาดกว่า
“ใช่ข้าต้องโทษพวกเขา ที่โง่เขลา มองสตรีแพศยาเยี่ยงท่านไม่ออก คิดจะให้โอรสครองบัลลังก์ ไหนเล่า...ตราแผ่นดิน”
“ไม่จำเป็น เพราะอย่างไร องค์ชายห้าก็คือพระโอรส ที่กำเนิดจากสนมเอก”
“หึๆ ท่านเสนาบดีชงกล่าวได้ดี แต่ข้าเองก็เพิ่งรู้ ว่าสนมเอก มีอำนาจมากกว่าฮองเฮา คงเป็นเรื่องจริงอย่างที่ผู้คนเล่าลือ ว่าอนุของท่าน กุมอำนาจทั้งหมดในเรือน หาใช่ภรรยาเอก นี่คงเป็นกฎเกณฑ์ใหม่ ของการสืบสายเลือดกระมัง”
ขุนนางหลายคน ที่ร่วมก่อกบฏ ต่างหันมองหน้ากัน หากจะว่ากันตามจริงแล้ว พวกเขาเองก็ยึดถือเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย เพราะพวกเขาเอง ก็ถือกำเนิดมาจากสายเลือดภรรยาเอก จึงได้รับโอกาสที่มากมายในสังคม
“อย่าไปฟังนาง! คนที่กำลังจะตาย พูดสิ่งใดก็ได้เพื่อให้ตัวเองรอดชีวิต”
“อย่าเสียเวลา หากจะลงมือ ก็เข้ามา!”
ทวนในมือ ชี้ตรงไปเบื้องหน้าอย่างองอาจ ดวงตาดุกร้าวราวบุรุษ บอกชัดว่าต่อให้นางสิ้นชีพตรงนี้ ก็จะทำหน้าที่ให้ถึงที่สุด สมกับเป็นพระธิดาองค์โต อันเป็นที่รักของพ่อแม่ และประชาชนทั้งแผ่นดิน
“พี่หญิง...”
“ต่อให้ข้าตายต่อหน้าเจ้า อย่าแม้แต่จะมีน้ำตา เพราะเจ้าคือผู้นำคนทั้งแผ่นดิน เจ็บเจียนตาย เจ้าก็ต้องเก็บมันให้ลึกสุดใจ ความอ่อนแอ มีไว้ให้ตัวเจ้าเท่านั้นได้เห็นมัน อย่าให้ใครได้เห็นมัน นอกเหนือจากนั้นเป็นอันขาด”
ถ้อยคำสอนของพี่สาว ทำให้เด็กชาย ฝืนกลืนความเจ็บจุกลงคอ ตำแหน่งฮ่องเต้ มันควรเป็นของพี่สาว มากกว่าตัวเขา แต่เพราะนางคือสตรี ทุกอย่างจึงถ่ายเทมาที่เขา ผู้เกิดมาเป็นชาย
“ข้าจะไม่ทำให้ท่านพี่ ผิดหวังขอรับ”
น้ำเสียงแม้จะไม่หนักแน่น เทียบเท่าบุรุษโตเต็มวัย แต่มันก็มากพอ สำหรับเด็กชายวัยสิบสามเยี่ยงเขา
สองพี่น้องบีบมือกันแน่น ก่อนจะเงยหน้า มองสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า มุมปากอิ่มเหยียดออก เมื่อสิ่งที่รอคอยมาถึงเสียที เคร้ง! ในจังหวะนั้นเอง ขุนพลฝ่ายกบฏ พุ่งเข้าหาองค์หญิงใหญ่ในทันที
เพราะหากขืนยังชักช้า อาจเป็นพวกเขา ที่ต้องสังเวยชีวิต ให้แก่กองทัพเกราะดำ ซึ่งขึ้นตรง ต่อองค์หญิงใหญ่ เพียงคนเดียวเท่านั้น นางกุมกำลังทหารมากกว่าฮ่องเต้
นี่คือสิ่งที่อดีตฮ่องเต้ เตรียมการเพื่อความมั่นคง สำหรับบัลลังก์ของฮ่องเต้น้อย โดยมีองค์หญิงใหญ่เป็นผู้เคียงข้าง เยี่ยเจาผลักน้องชาย ให้อยู่ในความดูแลของขันทีเฒ่า
ทวนในมือตวัดกวัดแกว่ง เพื่อปกป้องดวงใจของนาง และคนทั้งแผ่นดิน พี่น้องเข่นฆ่ากันเพียงเพื่ออำนาจ สิ้นพ่อแม่ ไร้สามี นี่คือชีวิตของนาง ผู้ขึ้นชื่อว่าองค์หญิงใหญ่ แห่งแผ่นต้าเหลียง
“พี่หญิง/องค์หญิง/ท่านแม่ทัพ”
เสียงตะโกนก้องจากคนที่รัก ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ทว่าคนฟังนั้น รู้สึกเหมือนมันห่างไกล ราวอยู่คนละโลกเลยก็ว่าได้ ดวงตาคู่งาม จ้องเขม็งไปยังคนที่ลงมือ จากเบื้องหลัง
“ไยเป็นเจ้า...”
น้ำเสียงที่เปล่งออกมา มิต่างจากสายลมพัดเอื่อย รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้างาม ชายที่นางเคยวาดหวัง จะรักเขาไปจนชีวิตหาไม่ ทว่าวันนี้ กลับเป็นเขา ที่ลงมือต่อนาง
“อย่าโทษข้าเลย เพราะไม่ว่าอย่างไร ฐานะของข้าก็ไม่อาจเทียบท่านได้ เมื่อมีทางเลือก ไยข้าจะต้องเมิน ต่ออำนาจนั้นด้วยเล่า”
คำพูดของชายหนุ่ม มันเจ็บปวดกว่ากระบี่ ที่แทงทะลุร่างนางในตอนนี้เสียอีก
“หึๆ ข้าเข้าใจแล้ว”
หญิงสาวเบนสายตาไปที่น้องชาย ซึ่งตอนนี้ได้รับการปกป้อง จากคนของนางที่มาถึงพอดี เคร้ง! หมับ! แม่ทัพหนุ่มตวัดกระบี่ เข้าใส่คนที่ทำร้ายผู้นำของตน ก่อนจะรวบร่างของนางเข้าสู่อ้อมแขน
“เจ้ามันบ้า...”
แม่ทัพหนุ่ม กอดกระชับร่างอ่อนแรงเอาไว้แน่น พร้อมทั้งตะโกนก้องราวพยัคฆ์บาดเจ็บ เขาและนาง เป็นแม่ทัพเคียงกันมาทั้งชีวิต แม้จะรู้ดีว่าหัวใจของนางอยู่ที่ใคร แต่แล้วอย่างไรเล่า เขาสาบาน ว่าจะปกป้องนางไปชั่วชีวิต ทว่าสุดท้ายแล้ว เขาทำมันไม่สำเร็จ























