บทที่ 3 1.2
“คุณวรรธน์...ผะ...ผิงเจ็บ”
ร่างน้อยบิดเร่าพยายามกระถดหนีมากเท่าไหร่ความดิบเถื่อนที่ได้รับกลับมาก็มีมากเท่านั้น
“ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะดังลั่นห้องกึกก้องอยู่ในโสตประสาทของพริมา แล้วสติสัมปชัญญะก็ขาดผึงเมื่อวรรธน์ผลักดันแก่นกายผ่านม่านบางๆ ทำลายความสาวอย่างทารุณ
“กรี๊ดดดด”
“บัดซบ!”
เสียงสบถดังแข่งเสียงกรีดร้อง ใบหน้าของวรรธน์จืดเจื่อนถอดสีไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ ผู้หญิงใต้ร่างบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นของใหม่ถอดด้าม
ชั่วขณะหนึ่งความเอ็นดูรักใคร่ฉายชัดในแววตาของคนใจร้ายแต่หญิงสาวแทบจะจับไม่ได้เพราะเพียงแวบเดียวรอยยิ้มมาดร้ายก็ปรากฏเด่นชัดบนใบหน้าหล่อเสียแล้ว
“ดี! วันนี้ฉันจะทำให้ลูกคนใช้อย่างเธอจดจำไปจนวันตายว่าการเผยอหน้ามารับเคราะห์กรรมแทนคนอื่นเพื่อจะได้รวยทางลัดและยกระดับตัวเองจากชีวิตโสมมมันจะได้รับผลกรรมเป็นยังไง”
คำพูดดุดันคุกคามสั่นประสาทของพริมาอย่างหนักหญิงสาวส่ายหน้าทั้งน้ำตาปรารถนาให้เขาผ่อนปรน
ความผุดผ่องของพริมาราวเป็นเชื้อเพลิงราดรดบนกองกูณฑ์ แค่ไม่ได้เกิดมาเป็นลูกเมียแต่งเธอจำต้องรับข้อหาทั้งหมดที่เขาป้ายมาแม้ความดีงามทั้งหลายก็ไม่อาจหักล้างข้อนี้ได้เลยหรือ พริมาส่ายหน้าต่อต้านอย่างไร้เรี่ยวแรง
วรรธน์ไม่เสียเวลาแม้เพียงเสี้ยวนาทีที่จะแช่ตัวอยู่ในกายงามเขาเลื่อนมือมาจับยึดเอวคอดเอาไว้แล้วปล่อยพลังราคะแฝงความคลั่งแค้นถาโถมเข้าใส่ร่างเล็กที่กำลังงอก่องอขิงด้วยความเจ็บปวดทรมาน เสียงร้องไห้ประสานกับเสียงหัวเราะสาแก่ใจคล้ายกับคนบ้าคลั่งที่พริมาคิดว่ามันน่าจะดังลงไปจนถึงข้างล่าง
“พะ พอแล้ว ผิงเจ็บ”
เสียงร้องอู้อี้เพราะแทบไม่มีแรงไม่เคยช่วยอะไรได้ มือเรียวเสลากดลงตรงท้องน้อยบรรเทาความเจ็บหนึบ น้ำตาไหลเป็นทางอย่างไม่มีทีท่าจะแห้งเหือด เหงื่อเม็ดโตผุดพรายอาบร่างกายขาวโพลน
วรรธน์มองภาพนั้นแล้วยกยิ้มแสยะ ความแค้นเคืองในเรื่องอดีตกดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไว้ในส่วนที่ชีวิตนี้จะไม่มีวันหาเจอและไม่คิดที่จะตามหา เสือร้ายขย้ำขยี้บดเบียดเข้าไปในโพรงน้ำผึ้งร้อนผ่าวอย่างเอาแต่ใจ
พริมาทนไม่ไหวสิ้นแรงหลับใหลไปช่วงหนึ่ง หากพอตื่นมาก็ยังพบว่าคนตะกละยังคงตักตวงความสุขอย่างไม่หยุดหย่อน ก่อนจะสอดมือเข้ามาใต้แผ่นหลังบอบบางแล้วช้อนร่างขาวสะอาดขึ้นมารับจุมพิตร้อนแรงแต่คนตัวน้อยเจ็บปวดจนไม่อาจรับรู้ถึงความรัญจวนใจผินใบหน้าซีดเซียวหลบหลีกการคุกคาม
“ได้โปรด ปล่อยผิง...ฮึก ผิง...เจ็บ”
“หึๆ” วรรธน์หัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ อีกไม่นานเขาคงเป็นโรคจิตเป็นแน่เพราะตนรู้สึกดีที่เห็นคนอื่นเจ็บปวดโดยเฉพาะคนบ้านสิทธิรักษ์ เขาผลักหญิงสาวลงอย่างแรงแล้วถอนแก่นกาย ยังไม่ทันที่พริมาจะได้พักหายใจมือหนาก็ทาบลงมาที่หน้าท้อง กดเอาไว้ด้วยแรงพอประมาณก่อนที่จะใช้มืออีกข้างกรีดแทรกเข้ามาในโพรงรักขยับนิ้วถี่รัวจน พริมาดิ้นเร่าร่างกายบิดเกร็งเพราะความซาบซ่านกำลังคืบคลานเข้ามาหากแต่วรรธน์กลับดึงมือออกกลางคันแล้วโน้มลงมากระซิบเย้ยหยัน
“คนอย่างเธอไม่สมควรได้รับความสุข”
แล้วหญิงสาวก็ต้องกรีดร้องอีกคราเมื่อวรรธน์ดันแก่นกายใหญ่โตแข็งขึงเข้ามาจนสุดลำ ทั้งจุกและแน่นจนแทบจะทนไม่ไหว หากคนเราสามารถกลั้นใจแล้วตายลงไปได้พริมาก็คงจะทำเพราะเธอไม่เคยคิดเลยว่าวรรธน์จะโหดร้ายทารุณได้ถึงขนาดนี้
ในความเป็นจริงไม่มีใครสามารถฝืนกลไกของร่างกาย พริมมาแปลกใจไม่หายที่ความซาบซ่านรัญจวนใจแผ่ขยายจากใจกลางลำตัวซึมซาบเข้าสู่ทั่วทุกอณูเนื้อพาให้ทั้งร่างกระตุกเกร็งถึงสองครั้งสองคราก่อนที่วรรธน์จะตามลงมาปิดปากเรียวด้วยปากร้อนขยับกายเร่งเร้าหนักหน่วงปลดปล่อยทุกหยาดหยดเข้ามาเติมเต็มจนล้นเอ่อ หญิงหายหอบหายใจรวยรินได้ยินเสียงคำรามลั่นของคนที่ร่างกายแอ่นโค้งอย่างสุขสมก่อนที่ในหัวจะพร่ามันมึนตื้อแล้วหมดสติไป
เปลือกตาบวมแดงเพราะผ่านการร้องไห้เปิดขึ้นช้าๆ เมื่อรู้สึกว่าร่างกายถูกคุกคาม พริมากะพริบตาถี่ๆ ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกที่ได้รับคืออะไร แต่ช่างรัญจวนใจจนต้องเผลอไผลส่งเสียงคราง สายตาเหลือบเห็นศีรษะดกดำเคลื่อนไหวอยู่ตรงหว่างขาหากจะผละหนีกลับถูกมือหนารั้งต้นขาเอาไว้
“คุณ...อ๊ะ”
ปลายลิ้นร้อนช่ำชองกิจรักแทรกเข้ามากลางกลีบผกาพยายามดุนดันเข้าไปให้ลึกที่สุด พริมาบิดกายไปมาตามแรงปรารถนาวรรธน์ส่งนิ้วเข้ามาเคลื่อนไหวอยู่ภายในกายพลางใช้เรียวปากดูดดึงขบเม้มติ่งเนื้อหอมหวานอย่างกระเหือดกระหาย เท่าที่พูดออกไปในคราแรกว่าเธอไม่น่าพิศวาสก็เพียงอารมณ์ชั่ววูบ
“อ๊า...” เสียงครวญครางลอดหลุดออกมากจากริมฝีปากเป็นระยะนิ้วแกร่งทำงานสัมพันธ์กับลิ้นร้อนพริมาดิ้นรนอย่างเว้าวอนลืมความเอียงอายและทิฐิในหัวใจ มือบางขยุ้มเรือนผมดกดำแอ่นกายหยัดขึ้นสู้ วรรธน์หัวเราะในลำคอพึงพอใจกับการตอบสนองของร่างบอบช้ำ
“อา...” ร่างกายที่ผ่อนคลายหลังผ่านวินาทีหฤหรรษ์ในดินแดนที่ไม่เคยพบปลดปล่อยน้ำหวานรสเลิศออกมาให้ชายหนุ่มได้ลิ้มชิมจนเกลี้ยงทุกหยาดหยด ใบหน้าคมเข้มผละออกเล็กน้อยเพื่อจูบพรมนูนเนื้ออวบอิ่มผะแผ่วแล้วลากไล้ริมฝีปากร้อนขึ้นมาตามแอ่งเว้ากลางลำตัว พายุอารมณ์พาให้พริมาหายใจติดขัดรู้สึกราวกับตนเองเป็นเทียนไขที่กำลังถูกหลอมละลายด้วยเปลวไฟ วรรธน์พูดเบาๆ แนบชิดกับปทุมถันอะร้าอร่าม
“ครางชื่อฉันสิ” พริมาได้แต่เม้มปากสนิทไม่ยอมพูดจาชายหนุ่มยิ้มในหน้าแววตามุ่งมาด
มือทรงพลังลูบไล้ลงไปกอบกุมพุ่มไปกรีดนิ้วลึกฝากฝังลงไปอีกคราก่อนที่เรียวปากหนาจะขบเม้มยอดดอกบัวตูม ลิ้นช่ำชองตวัดไปมาในช่องปากผ่านไล้เม็ดทับทิมไปมาระรัวเร็ว พริมาอดกลั้นได้อีกไม่นานก่อนจะระเบิดโพลงแตกพล่านภายใต้มือแกร่ง
“ยังไงก็จะไม่ครางชื่อฉันงั้นสิ” คิ้วหนาเลิกขึ้นสูง พริมาหลับตาพริ้มกลืนน้ำลายลงคอพยายามหาลมหายใจที่มีอยู่
วรรธน์เผลอมองดวงหน้าหวานแฉล้มด้วยสายตาอ่อนหวาน มือข้างที่เปียกชุ่มย้ายไปกอบกุมตัวตนผ่าวร้อนแล้วรูดขึ้นลงมุมปากยกยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย อยากจะกลั่นแกล้งคนตัวเล็กให้อารมณ์กระเจิงฐานที่ปากแข็ง เรียวขาเนียนข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาพาดไว้ที่บ่าแกร่ง วรรธน์มองกลีบผกาที่ติดจะบวมแดงนิดๆ หากมากด้วยเสน่ห์เย้ายวนแล้วสูดปากเบาๆ
“แม่เจ้าโว้ย น่าเอาฉิบหาย”
หญิงสาวเปิดเปลือกตาขึ้นมองใบหน้าเขาอีกครั้งต้องการแน่ใจอะไรบางอย่าง ก่อนนี้เขาพูดอย่างไรไว้เธอยังไม่ลืม แต่นาทีนั้นวรรธน์รั้งท้ายทอยเล็กเอาไว้เพื่อให้ศีรษะของหญิงสาวอยู่นิ่งแล้วโถมจูบเข้ามาจนพริมาแทบจะขาดใจ
“อื้อ...อือ...” วรรธน์ไม่สนใจว่าหญิงสาวจะพยายามผลักดันตนออกแค่ไหน เขาพาแก่นกายที่จ่ออยู่ตรงดอกไม้งามชำแรกเข้าไปพรวดเดียว พริมาแทบหยุดหายใจทั้งที่ถูกจูบอยู่เพราะตัวใหญ่โตของเขามันคับแน่น
อึดอัดทั้งยังรู้สึกแสบบริเวณนั้น เมื่อวรรธน์เร่งเร้าจังหวังถี่รัวขึ้นเสียงเนื้อกระทบเนื้อก็ดังไปทั่วบริเวณ ชายหนุ่มกอดต้นขาเรียวเสลาเอาเป็นหลักยึดขณะที่กระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างหนักหน่วง
“คุ คุณวรรธน์”
วรรธน์ยิ้มสาแก่ใจเมื่อได้ยินเสียงเธอเรียกชื่อตนเองแม้จะเป็นเสียงจากความทรมานมากกว่าความหฤหรรษ์ก็ตาม
“อา...ผู้หญิงบ้าอะไรวะตอดดีฉิบหาย โอ้ววว”
“ผะ ผิงเจ็บ พอเถอะ ไม่ไหวแล้ว”
“ต่อให้เธอขาดใจตายตรงนี้ฉันก็จะเอาต่อ ทูนหัว”
เสียงกระเส่ากรีดแทงหัวใจของพริมาคนที่เวลานี้ความเจ็บปวดและซ่านเสียวจู่โจมร่างกายและอารมณ์อย่างหนักหน่วง
วรรธน์ปล่อยมือข้างหนึ่งจากต้นขาเลื่อนลงมาสัมผัสจุดยุทธศาสตร์ของพริมาแล้วขยับมือรัวเร็วไม่ต่างจากดีเจกำลังสแครชแผ่นซีดีและยังคงขยับกายเข้าออกอย่างหนักหน่วง สติของหญิงสาวขาดผึงราคะพุ่งสูงสุดเพดานหญิงสาวกรีดร้องครวญครางอย่างสุขสมเมื่อโจนทะยานผ่านเส้นทางสุขสม วรรธน์ตามมาติดๆ เสียงคำรามต่ำขาดเป็นช่วงๆ เพราะถูกรีดพิษเข้าสู่กายสาวจนล้นทะลัก
“จะไปไหน”
เรียวแขนเล็กถูกกระชากเต็มแรงเมื่อพริมาพยายามจะผละหนี แผ่นหลังบอบบางปะทะอกแกร่งของคนที่นอนอยู่บนที่นอนเธอได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาคุกคามยามมองจ้อง มือที่แข็งราวปลอกเหล็กกล้าบีบแขนนุ่มด้วยกำลังมหาศาล
“ฉันถามว่าจะไปไหน!”
“ผะ ผิงจะกลับบ้าน”
“ฉันอนุญาตแล้วหรือ?”
พริมาพูดไม่ออกเพราะคำถามของวรรธน์ไม่ต้องการคำตอบแต่คือประกาศิตให้ชีวิตน้อยๆ ต้องยอมจำนนอยู่ใต้ต่างกายใหญ่โต ยอมให้เขารุกรานแทรกลึกและกดกระแทกครั้งแล้วครั้งเล่าจนหมดสติลงไปอีกระลอกพอตื่นขึ้นมาร่างหนาก็ยังเคลื่อนไหวอย่างเอาแต่ใจอยู่บนเรือนกาย
“คุณวรรธน์ ผิงขอร้อง ผิงเจ็บ ผิงเหนื่อย” วอนขอทั้งน้ำตาหากสิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงหัวเราะสาแก่ใจ
