บทที่ 6 2.2
คุณธำรงหันมองหน้าภรรยาด้วยแววตาหนักใจเพราะตั้งแต่พริมาฟื้นไข้ก็เซื่องซึมหมองเศร้าลงไปมากมายทีเดียว แม้ในบางคราจะได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าซีดเซียวแต่เดี๋ยวเดียวหญิงสาวก็หลบตาแล้วก้มหน้าร้องไห้เบาๆ
“กลับบ้านกันเถอะผิง” พริมาเบือนหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้มารดา แม้เธอจะไม่ใช่เลือดในอกแต่คุณวาสนาก็ทั้งรักและเอ็นดูพริมาคนนี้ไม่ต่างจากลูกในอุทร
“ผิง” คุณธำรงพูดขึ้นเพราะทนความอึดอัดไม่ไหวหลังจากที่ทุกคนเงียบมาตลอดทางจนถึงบ้านยังไม่มีใครปริปากพูดอะไร พริมาที่กำลังจะเดินไปยังบ้านในสวนซึ่งเป็นที่อยู่ของตนก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับท่าน “พ่อมีเรื่องอยากจะถาม”
“ค่ะ”
“วันนั้นลูกไม่ได้สะดุดล้มจนเข็มน้ำเกลือแทงตัวเองแต่คุณววรธน์ทำร้ายลูกใช่ไหม” พริมากลืนน้ำลายขมลงไปในลำคอแล้วฝืนยิ้มออกมา
“ลูกล้มไปเองจริงๆ ค่ะ” ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะบอกท่านทั้งสองให้รู้ นอกจากจะทำอะไรวรรธน์ไม่ได้แล้วก็รังแต่จะทุกข์ใจเปล่าๆ คนเป็นพ่อถอนหายใจหนักหน่วงแล้วสาวเท้าเดินเข้าไปกอดบุตรสาวมาแนบอก
ทุกคนรู้ว่าวรรธน์ทำร้ายพริมาไหนจะรอยดูดที่ลำคอนั่นอีก คนเป็นพ่ออย่างตนจะเข้าใจเป็นอย่างอื่นได้เสียที่ไหน ดูจากช่อดอกไม้จันทน์นั่นก็ได้ แล้วก็รู้เช่นกันว่าอะไรก็ง้างปากพริมาไม่ได้หากหญิงสาวไม่เต็มใจพูดออกมาเอง
“อดทนเอาหน่อยนะลูก อีกไม่นานทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น”
“คงจะดีนะคะถ้าผิงคือคนที่เขาต้องการ อะไรๆ มันจะได้ง่ายขึ้น” เพียงเท่านั้นคนเป็นพ่อก็ผละออกแล้วจ้องหน้าบุตรสาวด้วยความละอายใจ แม้จะรู้ว่าวันหนึ่งความจริงจะต้องเปิดเผยแต่ก็อยากให้พริมารู้จากปากของตนมากกว่า
“เขาบอกผิงใช่ไหม”
พริมาพยักหน้าช้าๆ รอยยิ้มขมขื่นปรากฏบนใบหน้าอีกครั้งหากแววตาที่ช้อนมองบิดายังเปี่ยมด้วยความยกย่องเทิดทูนดังเดิม
“ผิงไม่โกรธคุณพ่อเลยนะคะ ผิงยินดีที่จะทำเพื่อครอบครัวของเรา” แม้ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะนำความเจ็บปวดและเสียใจมาให้ตัวเองก็ตาม
คนเป็นพ่อสวมกอดร่างบอบบางอีกครั้งอย่างซาบซึ้งใจ ก่อนจะมองตามหลังบุตรสาวที่เดินกลับไปยังที่พักตัวเองแล้วก็อดรู้สึกผิดไม่ได้
“พ่อไม่มีทางเลือกจริงๆ”
พริมาไม่ใช่คนที่วรรธน์ต้องการตั้งแต่แรกแต่พ่ออย่างเขาก็ดึงดันที่จะยัดเยียดเจ้าหล่อนให้ฝ่ายนั้นเพื่อแลกกับผลประโยชน์และความอยู่รอดของทุกคน
ธุรกิจของครอบครัวสิทธิรักษ์ประสบปัญหาขาดทุนติดต่อกันมาสามไตรมาส ความน่าเชื่อถือก็ลดลงอีกทั้งโรงงานก็กำลังจะปิดตัวลงเพราะไม่มีเงินทุนหมุนเวียน แถมธนาคารยังเร่งรัดหนี้ที่ได้เอาบ้านไปจำนองเพื่อนำเงินก้อนมาประคองกิจการ
แล้ววันหนึ่งวรรธน์ วรวัฒน์ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ อาสาให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในขณะที่ไม่มีธนาคารไหนยอมปล่อยให้แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องให้บุตรสาวคนโตของบ้านสิทธิรักษ์ไปอยู่กับตน แต่คนก็รู้กันทั่วว่าแพรพรรษา หรือแพม บุตรสาวคนโตแต่งงานและย้ายไปอยู่กินกับเศรษฐีที่ฮ่องกงหลายปีและไม่ได้ติดต่อมานานแล้ว ความหวังที่มีก็ไม่แคล้วจะเป็นพริมา บุตรสาวคนเล็กที่เกิดจากเมียรอง
‘พวกคุณคิดลูกเล่นนี้มานานแล้วสินะ’ ภายในห้องรับแขกของบ้านสิทธิรักษ์ วรรธน์อยู่ในชุดสูทสีดำหรูหรานั่งไขว่ห้างวางอำนาจ แววตาวาวโรจน์ปราดมองคุณธำรงและคุณวาสนาที่เงียบไปอย่างจนใจ
‘เราทำอย่างที่คุณต้องการไม่ได้คุณวรรธน์ แพมแต่งงานไปแล้ว’ วรรธน์ได้ยินแล้วถึงกับตบโต๊ะดังปัง
‘แล้วยังไง! แต่งงานกับเศรษฐีแต่ไม่มีปัญญาช่วยพ่อแม่ใช้หนี้สิน ผมยื่นข้อเสนอดีๆ แบบนี้ให้แล้วเธอไม่คิดจะเสียสละความสุขของตัวเองมาช่วยเหลือพวกคุณเลยหรือ’
‘ยายแพมไม่ได้ติดต่อกลับมานานแล้วค่ะ’
‘อย่ามาสตอคุณวาสนา’ หญิงสูงวัยสะดุ้งเฮือกยกมือขึ้นทาบอก ไม่เคยคิดว่าเด็กหนุ่มผู้แสนสุภาพและอ่อนโยนเมื่อหลายปีก่อนจะกลายเป็นผู้ชายก้าวร้าวแววตาดุกร้าวได้ถึงเพียงนี้‘พวกคุณเป็นพ่อแม่ไม่คิดจะหาทางติดต่อแพรพรรษางั้นหรือ มันเป็นไปไม่ได้’
‘เราพูดความจริงนะคะ’
วรรธน์ส่ายหน้าให้กับคำยืนยันลมๆ แล้งๆ
‘พวกคุณต้องการให้ยายเด็กลูกคนใช้นั่นได้อยู่สุขสบายไปตลอดชาติเลยคิดจะย้อนรอยผม หล่อนเองก็คงอยากมีผัวจนตัวสั่นระริกเลยเสนอตัวเข้ามาเป็นตัวแทนพี่สาวอย่างนั้นสินะ’
‘คุณดูถูกลูกสาวของพวกเราเกินไปแล้วคุณวรรธน์’ วรรธน์หัวเราะกับคำโต้แย้งของคุณธำรงแล้วหยิบบุหรี่จากลูกน้องที่ยืนอารักขามาจุดสูบ ปล่อยควันคลุ้งทั่วบริเวณอย่างไม่เกรงใจเจ้าของบ้านยิ่งเห็นคุณผู้หญิงทำหน้าเบ้เพราะเหม็นก็ยิ่งชอบใจ คุณธำรงไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเขาจะทำอะไรต่อ
‘จริงสินะ ตอนนี้เท่ากับว่ายายเด็กลูกคนใช้นั่นมันมีราคาแพงมากๆ เพราะพ่อของมันกำลังจะขายมันแลกกับเงินที่จะประคองกิจการ’
คุณธำรงกัดกรามแน่นเก็บความโกรธแค้น แม้พริมาจะเป็นเลือดเนื้อที่เกิดจากเมียรองแต่ตนกับภรรยาก็รักมากเท่ากับแพรพรรษา และคิดว่าชาติกำเนิดของพริมาไม่ได้เป็นตัวกำหนดความดีชั่วของเธอ
‘พอเถอะคุณวรรธน์ วรวัฒน์’ คุณวาสนาดูจะเดือดดาลไม่แพ้คนเป็นสามี ท่านลุกพรวดขึ้นแล้วจ้องหน้าคนวางท่าอย่างเอาเรื่อง ‘ฉันยอมอดตายหรือนอนข้างถนนได้แต่จะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกศักดิ์ศรีลูกๆ ของฉัน’
‘อะอ๊า...คุณวาสนา นั่งลงเถอะครับผมไม่อยากทำให้คุณรู้สึกผิดว่าตัวเองเป็นคนทำลายบริษัทของสามีคุณจนไม่เหลืออะไรเลย’ วรรธน์ชี้ปลายนิ้วไปยังร่างอวบแต่มากด้วยสง่าราศีก่อนจะชี้ลงไปที่โซฟา
คุณวาสนามองสามีผู้ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าข้างความคิดของตนแล้วจึงนั่งลงอย่างยอมจำนน ครอบครัวสิทธิรักษ์ประกอบกิจการเกี่ยวกับเครื่องดื่มมาหกรุ่นแล้วที่ผ่านมาไม่เคยประสบปัญหาหนักเท่านี้มาก่อน คุณธำรงไม่อยากทำให้มันพังครืนด้วยน้ำมือของตัวเอง นอกจากจะเป็นตราบาปติดตัวไปจนตายแล้วยังไม่แคล้วจะทำให้วิญญาณบรรพบุรุษผิดหวัง การที่วรรธน์ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือส่งผลดีหลายอย่าง ความน่าเชื่อถือจะเพิ่มมากขึ้นเพราะสังคมคงจะตั้งคำถามว่าสิทธิรักษ์ต้องมีอะไรดีๆ ถึงได้ทำให้วรรธน์ วรวัฒน์มั่นใจและกล้ายื่นมือเข้ามาโอบอุ้ม เมื่อภาพลักษณ์ดี หุ้นก็ต้องกระเตื้องไม่มากก็น้อย คุณธำรงยังพอจะมองเห็นทางรอด
‘หัดฉลาดแบบสามีคุณหน่อยก็ดีนะครับ’ วรรธน์เดือนด้วยน้ำเสียงล้อเลียนพร้อมขยิบตากวนๆ หญิงสูงวัยได้แต่กำหมดข่มใจเอาไว้ไม่ต้องการให้ทุกอย่างพังลงต่อหน้า
‘เอาเป็นว่าผมจะยอมให้คุณดูถูกด้วยการรับยายลูกคนใช้มาแทนพี่สาวของหล่อน’ คุณธำรงไม่กล้าดีใจด้วยซ้ำเพราะรู้ว่าวรรธน์ต้องมีข้อแม้อีกตามเคย ‘แต่ของแบบนี้มันต้องทดสอบคุณภาพก่อนที่จะตกลงซื้อขาย เพราะฉะนั้นอีกสองวันพาเด็กผิงไปหาผมที่บ้านผมจะลองของให้หนำใจ ไม่แน่ถ้าลีลาเด็ดผมอาจจะแถมทะเบียนสมรสและงานแต่งหรูหราไม่แพ้ดาราเซเลปให้ด้วยก็ได้ แต่ถ้าง่อยๆ ไม่เร้าใจผมต้องบอกเสียหน่อยว่าเธอคงเป็นได้แค่ของเล่น’
สองสามีภรรยากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝื่อน วรรธน์ไม่ได้ให้ทางเลือกอื่นแก่พวกตนเลย พริมาจะรู้สึกอย่างไรหากรู้เรื่องนี้เข้า หากสุดท้ายก็ทั้งสองท่านก็ไม่มีทางเลือก วันนั้นคุณธำรงขอร้องวรรธน์ว่าหากตนทำตามข้อเสนออย่าเพิ่งบอกพริมาว่าหล่อนเป็นตัวแทนของพี่สาวด้วยไม่ต้องการให้เธอเข้าใจผิดว่าพ่อแม่รักพี่มากกว่า
พริมาน้ำตาไหลเมื่อได้รู้ความต้องการของผู้ชายที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัว โลกทั้งใบของหญิงสาวราวกับหม่นหมองลงไปในชั่วพริบตา หากแต่เพื่อความอยู่รอดของทุกคนแล้ว...พริมาไม่มีทางเลือก
ข่าวฉาวคาวรักของไฮโซในโทรทัศน์ดึงความสนใจของพริมาคนที่ร้อยวันพันปีไม่เคยสนใจเรื่องแบบนี้ ดารินคิดว่าเป็นเพราะนี่เป็นข่าวของผู้ชายคนนั้นที่ตนกับอนลเจอที่โรงพยาบาล และก็น่าคิดต่อไปอีกว่าทั้งสองคนน่าจะมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกันหากก็ไม่กล้าถามตรงๆ
“ดูท่าแม่ดาราคนนี้คงกะจะจับอีตาไฮโซนิสัยเสียนี่ให้ได้ แจ้นตามเขาไปทุกที่เลย ถ้าเห็นตอนที่เขาทำร้ายน้องผิงแล้วยังจะรักลงอยู่หรือเปล่า” พริมาที่หน้าจ๋อยเมื่อกี้ก็ตาโตกับคำพูดของเพื่อนรุ่นพี่
“เขาไม่ได้ทำอะไรผิงเลยค่ะพี่ดาว” วรรธน์เป็นคนที่สังคมให้ความสนใจทั้งยังควงกับนางเอกเบอร์ต้นของประเทศแล้วด้วยหากมีใครมาได้ยินเข้าแล้วกลายเป็นข่าวขึ้นมา เธอกับครอบครัวที่ยังต้องอาศัยใบบุญของวรรธน์จะพลอยซวยไปด้วย แต่นับจากวันนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลยเป็นผลให้คุณธำรงเครียดจนล้มป่วย
“พี่ไม่เชื่อ! อีตานั่นมันทำร้ายน้องผิงขนาดนั้นทำไมไม่แจ้งความล่ะคะ เรียกร้องค่าเสียหายให้มันหมดตัวไปเลย”
“เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วค่ะ วันนั้นคุณวรรธน์แค่มาเยี่ยมผิงเฉยๆ”
