บทที่ 2 ไป๋ลี่ถิง
ไป๋ลี่ถิงเด็กสาวอาภัพกำพร้ามารดาตั้งแต่วัยเยาว์หลังจากที่มารดาของนางตายจากไปเพราะป่วยหนักพ่อของนางจึงได้เลี้ยงดูลูกสาวมาด้วยตัวคนเดียวด้วยความรัก
จนกระทั่งลี่ถิงอายุได้ 5 ขวบ ท่านพ่อที่รักนางยิ่งกว่าสิ่งใดได้แต่งภรรยาเข้ามาในบ้านแม่เลี้ยงของลี่ถิงมีลูกติดมาหนึ่งคน
เพราะโดนมารยาหญิงบังตาพ่อของนางจึงได้แต่งหญิงหม้ายที่ร้ายกาจเข้ามาเป็นภรรยาต่อหน้าสามีนางจะทำตัวเป็นแม่เลี้ยงแสนดีที่ดูแลเอาใจใส่ต่อลูกเลี้ยงดีเสียยิ่งกว่าลูกของตัวเอง
แต่พอลับหลังสามีแม่เลี้ยงก็จะกลายร่างเป็นนางมารร้ายทันที ทั้งใช้ทำงานบ้านงานสวนสารพัด ไหนจะโดนลูกสาวของนางกลั่นแกล้งสารพัดอีก
ต่อมาเมื่อลี่ถิงน้อยอายุได้ 7 ขวบพ่อของนางที่ขึ้นเขาไปหาของป่าได้พลัดตกเขาตายจากนางไปอีกคน
จากนั้นมาไป๋ลี่ถิงมีชีวิตอยู่ไม่ต่างอะไรกับทาสต้องทำงานสารพัดเพื่อแลกกับอาหารเพียงวันละมื้อ
จากเด็กที่เคยร่าเริงสดใสกลับเติบโตขึ้นเป็นเด็กสาวที่จิตใจเย็นชา ทำงานแลกอาหารและที่พัก
ลี่ถิงได้แต่หวังว่านางจะหลุดพ้นจากสองแม่ลูกที่ร้ายกาจนี้ไปเสียที จนกระทั่งเติบโตมาจนถึงวัยที่จะออกเรือนได้แล้วแต่แม่เลี้ยงยังไม่ยอมให้ลี่ถิงได้ตบแต่งออกไป
อ้างเหตุผลสารพัดจนอยู่มาวันหนึ่ง ผู้ชายที่ลูกสาวแม่เลี้ยงหลงรักมาชอบพอลี่ถิง ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้มีใจให้กับชายคนนั้นแต่เพื่อให้ตัวเองได้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นี้
ลี่ถิงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ชายคนนั้นจะมาสู่ขอนางแต่เมื่อลูกสาวของแม่เลี้ยงรู้เข้า นางจึงวางแผนกำจัดลี่ถิงทันทีเพื่อที่จะไม่มีใครมาขวางทางนางได้
“ท่านแม่ข้าไม่ยอมนะเจ้าคะ”
“ไม่ยอมอะไร ใครทำอะไรเจ้าหรือเหมยเอ๋อร์"
“ก็นังลี่ถิงน่ะสิ มันส่งสายตายั่วยวนพี่ซางกู่ของข้าท่านแม่ต้องจัดการให้ข้านะเจ้าคะ”
“นี่มันกล้าเรอะ หรือว่าแม่หางานให้มันทำน้อยไปมันจึงมีเวลาหาโอกาสไปส่งสายตาให้ผู้ชายของลูกได้”
“ท่านแม่ ข้าไม่ยอมนะเจ้าคะ ถ้าหากยังมีมันอยู่ท่านพี่ซางกู่ต้องไม่มองข้าแน่ ๆ”
“ไม่เห็นจะยากเย็นอะไรนี่ ก็จับมันไปขายให้หมู่บ้านยากจนที่ชายหนุ่มส่วนใหญ่ไม่สามารถแต่งเมียเข้าบ้านได้เพราะไม่มีใครยอมยกลูกสาวให้แต่งด้วย จนต้องมาหาซื้อผู้หญิงไปทำเมียยังไงล่ะ ทีนี้มันก็ไม่สามารถมาส่งสายตาให้พี่ซางกู่ของเจ้าได้แล้ว”
“ดีเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่รีบจัดการมันให้เร็วที่สุดเลยนะเจ้าคะ”
“ได้ ๆ เอาไว้วันมะรืนแม่จะรีบจัดการแต่ตอนนี้ต้องรอให้มันทำงานในไร่เสร็จเสียก่อน”
“ดีเจ้าค่ะ ต่อไปข้าจะได้แต่งไปเป็นภรรยาพี่ซางกู่พวกเราจะไม่ต้องทนทำงานในไร่อีกแล้ว”
“ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”
ทางด้านลี่ถิงเองที่กลับมาจากแปลงนาได้ยินแผนการที่สองแม่ลูกนี้คุยกันพอดี ต่อให้โดนขายแล้วอย่างไรยังดีกว่าอยู่ที่นี่เป็นร้อยเท่าพันเท่า
ขอให้นางมีโอกาสได้ออกไปจากตรงนี้ย่อมดีที่สุด แต่ความโชคดีไม่ได้มีเสมอไป แล้วก็มาถึงวันที่แม่เลี้ยงจะเอาลี่ถิงไปขายที่ตลาดค้าทาสจากตอนแรกที่คิดเอาไว้ว่าจะเอาไปขายให้ชายในหมู่บ้านยากจน
แต่ซูเหมยลูกสาวของนางบอกว่าไม่อยากให้ลี่ถิงมีชีวิตที่ดีนักเป็นไปได้อยากขายนางเข้าหอโคมเขียวด้วยซ้ำ เพราะนางอิจฉาที่ไป๋ลี่ถิงมีใบหน้าที่งดงามกว่านาง
สองแม่ลูกจึงตกลงเอานางไปขายที่ตลาดค้าทาส ระหว่างทางที่ลี่ถิงถูกสองแม่ลูกฉุดกระชากลากถูไปนั้น
ลี่ถิงได้ขอร้องแม่เลี้ยงและลูกสาวว่าอย่าพานางไปขายที่ตลาดค้าทาสเลย นางยินยอมถูกขายไปเป็นภรรยาชายในหมู่บ้านยากจนโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ
แต่มีหรือสองแม่ลูกนั้นจะยอมฟังคำร้องขอจากนาง เพราะเหตุนี้ในระหว่างนางคิดจะหลบหนีจึงถูกสองแม่ลูกทุบตีจนบาดเจ็บ
จิตใจของนางแหลกสลายไม่มีความหวังในการรอดชีวิตใด ๆ อีกแล้ว ถ้าหากสองแม่ลูกเอานางไปขายให้หอนางโลมจริง ๆ นางจะทำเช่นไร
ถ้าเป็นแบบนั้นนางยอมตายเสียดีกว่าอยู่ ถ้าหากนางตายไปแล้วหวังว่านางคงจะได้พบกับท่านพ่อท่านแม่ของนาง ไป๋ลี่ถิงได้แต่ร้องขออ้อนวอนขอความเมตตากับสองแม่ลูก แต่นางก็ไม่ได้รับความเมตตาใด ๆ
“ท่านแม่ เราไม่น่าทุบตีมันเลย แบบนี้ที่หอนางโลมคงให้ราคาไม่ดีแน่”
“แม่ลืมไป ไม่น่าไปทุบตีใบหน้าของมันเลย”
“ช่างมันเถอะเจ้าค่ะ ขาย ๆ มันไปอย่าให้มาเกะกะสายตาข้าก็พอ”
“แม่ว่าเราเอามันไปขายให้นายหน้าที่โรงค้าทาสดีกว่านะ แล้วค่อยขอให้นายหน้าขายมันเข้าหอนางโลมในตอนที่หน้ามันหายดีแล้ว”
“ดีเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่ฉลาดนัก”
“ข้าขอร้องพวกท่าน ปล่อยข้าไปเถอะนะ อย่าเอาข้าไปให้นายหน้าค้าทาสเลยนะเจ้าคะ ข้ายอมถูกขายไปเป็นภรรยาชายยากจน ข้าขอร้องพวกท่านเมตตาข้าสักครั้งนะเจ้าคะ"
“หุบปากของเจ้าไป รีบ ๆ เดินเข้า อย่าได้ขัดขืนหัดสำนึกในบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่แม่ข้าเลี้ยงเจ้ามาจนเติบใหญ่เสียด้วย”
สองแม่ลูกเดินลากลี่ถิงออกมาจากหมู่บ้านเชิงเขามาจนถึงทางเข้าเมืองในระหว่างทาง ลี่ถิงได้ถูกงูกัดด้วยความบังเอิญ
แต่สองแม่ลูกไม่ได้สนใจลี่ถิงเพียงแค่คิดว่านางหาข้ออ้างเท่านั้นลี่ถิงเดินตามสองแม่ลูกไปด้วยใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดจนมาถึงตลาดค้าทาส
เมื่อสองแม่ลูกเห็นลี่ถิงเริ่มจะไม่ไหวแล้วในใจพลันคิดว่าแย่แล้วคงต้องรีบขายนังนี่ออกไปให้เร็วที่สุด
หยางเฉิงคุณที่วันนี้เอาของป่ามาขายและมีความคิดที่จะหาซื้อทาสไปเป็นภรรยาเพียงแต่ในนามของตัวเองเพื่อดูแลน้องชายทั้งสองคนในเวลาที่เขาเข้าป่าล่าสัตว์
คอยหุงหาอาหารดูแลบ้านและปลูกผักทำสวน หยางเฉิงคุณแต่เดิมชีวิตไม่ได้ลำบากมากมายขนาดนี้เมื่อก่อนท่านพ่อของเขามีที่ดินและที่นาให้คนอื่นเช่ามากมายภายหลังท่านแม่ป่วยท่านพ่อจึงนำที่ดินเหล่านั้นไปขายเพื่อนำเงินมารักษาท่านแม่
แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตท่านแม่เอาไว้ได้ท่านแม่จากไปในตอนที่น้องชายคนเล็กอายุได้เพียงสองขวบเท่านั้น ต่อมาไม่นานท่านพ่อก็ตรอมใจตายตามท่านแม่ไปอีกคน
ทิ้งให้เขาเลี้ยงดูน้องชายทั้งสองมาด้วยตัวคนเดียว สหายสนิทที่ท่านพ่อมีก็ตีตัวออกห่างแม้กระทั่งสัญญาหมั้นหมายระหว่างสองบ้านก็ต้องยุติลง
นับแต่นั้นมาหยางเฉิงคุณจึงรังเกียจผู้หญิงพวกนี้มาก ถึงแม้ว่าเขาจะหน้าตาหล่อเหลาแต่เพราะเขาจนทำให้ผู้หญิงในหมู่บ้านรังเกียจและดูถูกเขาอดีตคู่หมั้นของเขาเองก็พูดจาเสียดสีทุกครั้งที่เจอหน้ากัน
ถึงแม้จะเคยเป็นคู่หมั้นเขาไม่ได้มีใจให้นางสักหน่อยและทุกครั้งที่มีหญิงสาวมาพูดจาไม่ดีใส่เขา เขาก็จะตอบโต้อย่าถึงพริกถึงขิงจนบางครั้งหญิงสาวพวกนั้นถึงขั้นร้องไห้เลยก็มี
หยางเฉิงคุณจึงเป็นชายปากร้ายนิสัยไม่ดีแห่งหมู่บ้านหวงเป่ยแห่งนี้ เฉิงคุณเดินมาที่ตลาดค้าทาสหลังจากขายของป่าเสร็จแล้ว
เขามาเจอเข้ากับสองแม่ลูกที่กำลังลากลี่ถิงที่อาการไม่สู้ดี เฉิงคุณมองดูอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเดินออกมา ซูเหมยที่เห็นว่าชายหนุ่มกำลังเดินไปทางตลาดค้าทาสจึงได้ดักหน้าเขาเอาไว้
“พี่ชายท่านนี้ ท่านจะไปที่ใดเจ้าคะ”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า ข้ากับเจ้าไม่รู้จักกัน หลีกไปอย่าขวางทางข้า”
“พ่อหนุ่ม เจ้าต้องการซื้อทาสหรือไม่ พอดีสามีข้าเพิ่งจะเสียข้าไม่มีเงินทำศพเขา จึงได้ตัดสินใจขายลูกสาวคนโต พ่อหนุ่มอย่าเห็นว่าหน้าตานางบวมปูดเช่นนี้นางจะขี้ริ้วนะนางสวยมากและสามารถทำงานในไร่ได้ มันเป็นความผิดของข้าเองตอนที่พวกเราออกจากหมู่บ้านมาไม่ทันระวังทำให้ลูกสาวของข้าลื่นล้มลงไปข้างทางน่ะ พ่อหนุ่มจะว่าอย่างไร”
หยางเฉิงคุณที่มองดูไป๋ลี่ถิงที่หน้าตาบวมปูดและซีดเซียวแล้ว เขาไม่ใช่คนโง่แม่นางคนนี้ไม่ได้ลื่นล้มเองแต่นางถูกทำร้ายต่างหากล่ะ
ไม่รู้เพราะเหตุใดหลังจากที่เฉิงคุณมองใบหน้าที่ดูไม่ออกมาสวยหรือขี้ริ้วแต่แววตาที่นางมองมาที่เขาด้วยสายตาอ้อนวอนทำให้ใจของชายหนุ่มอดกระตุกไม่ได้ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง
“5 เหรียญเงิน”
“ห๊ะ พี่ชายท่านนี้ท่านล้อเล่นหรือ”
“ไม่ได้ข้าก็ไม่ซื้อข้ามีเงินเท่านี้จะเอาไม่เอาก็แล้วแต่พวกเจ้า อีกอย่างซื้อคนใกล้ตายแบบนี้กลับไปด้วยเงิน 5 เหรียญเงิน ก็ถือว่ามากมายแล้ว”
สองแม่ลูกที่เห็นลี่ถิงจะไม่ไหวแล้วจึงรีบตกลงและรับเงินจากชายหนุ่มทันทีจากนั้นทั้งสองคนก็รีบกลับไปประหนึ่งโดนหมาป่าไล่ล่า
หยางเฉิงคุณที่ไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือคิดผิดที่ซื้อแม่นางคนนี้มา แต่ซื้อมาแล้วก็คงต้องพากลับไปบ้านด้วย ก่อนอื่นคงต้องพาไปหาหมอเสียก่อน
เมื่อชายหนุ่มพาหญิงสาวมาถึงโรงหมอ ไป๋ลี่ถิงก็อ่อนล้าเต็มทีและนางได้เสียชีวิตไปในตอนที่หมอชราให้การรักษาและขับพิษงูออกจากร่างกายนาง
และในตอนนั้นเอง ชลดาที่บังเอิญเสียชีวิตดวงวิญญาณก็ถูกดูดมาที่แห่งนี้และเข้าไปอยู่ในร่างของไป๋ลี่ถิงโดยที่ชลดาไม่ได้รับรู้เลยว่าหลังจากเธอลืมตาตื่นขึ้นมาชีวิตจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะคาดคิดได้
