บทที่ 1 พรหมลิขิตนำพา

เขาคือผู้ชายที่ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนจนอายุล่วงเลยมาถึงเลข 3

ครอบครัวซึ่งต้องการทายาทมาสืบสกุลเริ่มจะไม่สบายใจจึงได้จัดหาผู้หญิงเพื่อมาให้เขาดูตัว แต่ก็ไม่มีใครเลยที่คฑานักธุรกิจหนุ่มไฟแรงจะให้ความสนใจ

"ไปทานข้าวกับแม่อีกสักครั้งนะลูก"

"งานผมยังเยอะไม่พอใช่ไหมครับแม่" ชายหนุ่มพูดออกไปด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว จริงๆ เขาก็เป็นคนที่พูดไม่ค่อยเพราะอยู่แล้ว ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงไม่เจรจาเลยด้วยซ้ำ แต่นี่คือแม่ผู้ให้กำเนิด

"ถ้าลูกมัวทำแต่งานอยู่แบบนี้แล้วเมื่อไรแม่จะได้อุ้มหลาน"

"เรื่องนั้นแม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ อยากจะได้กี่คนบอกผมมาเลย"

ก๊อกๆ "บอสคะ" ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูจากผู้ช่วยเลขาหน้าห้อง

"เข้ามา" สิ้นเสียงอนุญาตประตูห้องทำงานก็ได้ถูกเปิดเข้ามา

"เอกสารที่บอสต้องการค่ะ"

"เอามาให้ผมเลย" ชายหนุ่มสั่งเลขาที่ไม่กล้าเอาเอกสารเดินเข้ามาใกล้ เพราะคงเกรงใจที่เห็นเขากำลังคุยกับแม่อยู่

หญิงสาวร่างระหงก้าวเดินเข้ามาแล้วยื่นเอกสารส่งไปให้กับท่านประธานที่นั่งอยู่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง

แต่แทนที่เขาจะรับแฟ้มเอกสารที่เธอยื่นมาให้ ชายหนุ่มกลับคว้ามือของเธอให้นั่งลงไปบนตัก

"??" คนตัวเล็กตกใจจนตัวแข็งแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรออกมา

"คฑาลูกทำอะไร!!" ผู้เป็นแม่ถึงกับตกใจลุกขึ้นจากเก้าอี้แบบลืมตัว

"ต่อไปนี้คุณไม่ต้องกินยาคุมแล้วนะ แม่ผมอยากจะอุ้มหลาน"

"????" เธอยังคงงงกับการกระทำของเขา

"แม่ไม่ต้องการแบบนี้สักหน่อย!" ถึงแม้ว่านางอยากจะอุ้มหลาน แต่ไม่ได้ต้องการแม่พันธุ์เป็นผู้หญิงคนไหนก็ได้แบบนี้

อัญชัญคว้าเอากระเป๋าแบรนด์เนมราคาที่คนธรรมดาจับต้องไม่ได้เดินออกมาจากห้อง โดยที่ไม่หันกลับไปมองลูกชาย และตอนนี้ใบหน้าของเขาเริ่มมีรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าตัวเองยั่วอารมณ์ของผู้เป็นแม่ได้สำเร็จ

"จะลุกได้หรือยัง" คฑาพูดโดยที่ไม่ได้มองหน้าคนที่ดึงเข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าเธอจะคิดอย่างไร

"คะ?" ถึงแม้จะสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่หญิงสาวก็ต้องได้รีบลุกขึ้นก่อน

"ออกไปได้" จนถึงตอนนี้เขาก็ไม่คิดจะมองหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะสายตาคมนั้นได้มองทอดออกไปนอกห้องกระจกแบบใช้ความคิด

"ค่ะ" คนตัวเล็กก้าวเดินออกมาจากห้องทำงานสุดหรูด้วยความงงงวย

"ทำไมถึงเอาเอกสารเข้าไปนานจัง"

"พี่ริน..คือ.."

"เกิดปัญหาอะไรหรือเปล่า"

"เปล่าค่ะ"

"อย่าสร้างปัญหาเด็ดขาด" รินหรือรรินธร คือพี่สาวของเธอ

รรินธรต้องหาเลขาใหม่มาฝึกงานและทำงานแทนในระหว่างที่ลาคลอด เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนแล้ว

เธอก็เลยเลือกน้องสาวของตัวเอง มารับตำแหน่งเลขาส่วนตัวของท่านประธานในระหว่างที่ลาคลอด เพราะถ้าให้คนอื่นมาทำแล้วเกิดถูกใจท่านประธาน การกลับมาทำงานหลังคลอดของเธออาจจะมีอุปสรรค เพราะเอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่แล้วยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว

วันต่อมา..

รรินธรก็ยังฝึกงานให้น้องสาวอย่างหนักเหมือนเดิม เพราะทุกอย่างน้องสาวต้องทำแทนให้ได้ภายในไม่ถึงหนึ่งเดือน

เย็นวันนั้น.. ถึงแม้ว่าท่านประธานจะกลับไปแล้ว แต่รรินธรกับน้องสาวก็ยังคงอยู่

"พยายามเอาทุกอย่างที่พี่สอนเข้าสมองให้ได้"

"พี่ทำงานเยอะขนาดนี้เลยเหรอ" เริ่มจะสงสารพี่สาว เพราะกว่าจะส่งเธอเรียนจบ ต้องตรากตรำทำงานหนักถึงเพียงนี้เลยหรือ

"จริงๆ ก็ไม่ได้ทำเยอะแบบนี้หรอก งานค่อยๆ ทยอยมา แต่พี่ไม่มีเวลาสอนเรามาก"

เธอจบเลขานุการมาเหมือนกับพี่สาว และคนที่ส่งเรียนก็คือพี่สาวเพราะทั้งสองมีกันอยู่แค่สองคน

ที่จริงแล้วความฝันของเธอไม่ได้เป็นแบบนี้เลย เธออยากทำงานอิสระไม่ต้องมากดดัน แต่เพราะชีวิตไม่เอื้ออำนวย พี่สาวให้ทำอะไรก็เลยต้องได้ทำตาม

สามวันผ่านไป..

"คุณรินขอกาแฟด้วย"

"ค่ะ" รรินธรมองไปดูน้องสาวที่นั่งอยู่อีกโต๊ะหนึ่งใกล้ๆ กัน ผู้เป็นน้องก็รู้ได้ในทันทีว่าต้องทำอะไรต่อ

ก๊อกๆ ประตูห้องทำงานถูกเปิดเข้ามาทันทีที่เคาะส่งสัญญาณ

"กาแฟค่ะ" หญิงสาวร่างระหงค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาแล้ววางกาแฟลงตรงหน้า

"มองอะไรเสร็จแล้วก็ออกไปสิ" ถึงแม้คฑาจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาก็รู้ว่าเธอกำลังมองเขาอยู่

"ขะ..ขอโทษค่ะ" หญิงสาวถึงกับสะดุ้งและกำลังจะทำตาม แต่ทันใดนั้นประตูห้องก็ได้ถูกเปิดเข้ามาแบบถือวิสาสะ เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่เอาแต่ก้มหน้าทำงานก็ได้เงยขึ้นมองไปที่ประตู

มือหนาเอื้อมไปคว้าแขนของผู้หญิงคนที่เขาเพิ่งจะไล่ออกจากห้องไว้แบบอัตโนมัติ

"??" เธอถึงกับทำอะไรไม่ถูก..ตกลงเขาจะให้ออกหรือจะให้อยู่ต่อ

"พี่ได้ยินแค่แม่พูดให้ฟังไม่คิดว่าเราจะ..." สายตาของคนที่พูดกรอกมองมาที่ผู้หญิงอีกคนแบบพิจารณา

"พี่เข้ามามีธุระอะไร"

"เย็นนี้ที่โรงแรมมีงานเลี้ยง พี่ก็เลยมาชวนเราไปร่วมงานด้วย"

"ผมต้องดูก่อนว่าจะว่างไหม เผอิญแม่อยากจะอุ้มหลานเร็วๆ" จบประโยคคำพูดเขาก็ดึงคนที่ยืนตัวแข็งให้ลงมานั่งที่ตักพร้อมกับยื่นริมฝีปากเข้าไปใกล้ซอกคอ "..คืนนี้ต้องลำบากคุณอีกแล้วนะครับ"

เขียนโดยชะนีติดมันส์

บทถัดไป