บทที่ 2 chapter 2

มันน่าสงสัยอยู่นะ เพราะคุณป๋าขี้เหนียวจะตาย ทุกครั้งที่เธอขอเงิน ต้องอ้างโน่นอ้างนี่สารพัด หรือไม่ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน แล้วทำไมวันนี้ถึงได้ใจดี ยอมให้เงินเธอเที่ยวละ อย่างนี้ต้องมีอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนหรือเปล่า แต่ก็ช่างเถอะ มีเงินเที่ยวแล้ว เอาไว้ก่อนดีกว่า จะได้ไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าตัวเอง

“ขอบคุณค่ะ คุณป๋าของน้ำผึ้งน่ารักที่สุดเลย” รีบเอาใจอีกฝ่ายไว้ก่อน สองมือเล็กประนมและกราบบนอกกว้างก่อนคลายออกแล้วสอดเข้ากอดแขนใหญ่ เขย่งเท้าเล็กน้อยทาบจมูกโด่งได้รูปบนแก้มอวบอูมทั้งสองข้าง ดวงตากลมโตเป็นประกายใสแจ๋วราวกับลูกแก้วสะท้อนแสงไฟ

“แล้วคุณป๋าจะให้เท่าไหร่คะ” หยุดพูดเล็กน้อย นัยน์ตาพราวระยับอย่างเจ้าเล่ห์นิดๆ

“บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินใช่ไหมคะ ว้าว...คุณป๋าน้ำผึ้งใจดีที่สุดเลย” ลากเสียงหวานนุ่มพลิ้วหวาน กระโดดโลดเต้นเป็นเด็กๆ วงหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มหันรีหันขวางอย่างรู้สึกแปลกๆ มันเหมือนกับว่าเธอกำลังถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ ที่ไม่รู้ว่ามาจากทิศทางใด เล่นเอาขนตามเรือนกายลุกชัน

ไม่ใช่จะคิดเข้าข้างตัวเอง ถึงเธอไม่สวยเตะตา รูปร่างอวบอั๋น อกผลมะพร้าว เอวคอดกิ่ว สะโพกดินระเบิดก็เถอะ แต่หน้าตาสดใสน่ารักเรียกสายตาหนุ่มๆ ให้ต้องเหลียวมองซ้ำรอบสองกันเกือบทั้งนั้น แล้วมาต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้ มีหรือจะไม่มีคนมองน่ะ

“เอาแบบนั้นเลยหรือเจ้าตัวดี แต่ไหนเมื่อกี้ใครกันนะ บอกจะไม่พูดกับคุณป๋าห้านาที นี่ยังไม่ครบเลยนะ” เอ่ยถามเสียงกลั้วหัวเราะในลำคอ สองมือทาบบนพวงแก้มใสและนุ่มราวกับแก้มก้นเด็ก ไล้คลึงหยอกเย้าอย่างไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่มองมาอย่างอิจฉา ผู้ชายวัยกลางคนอวบอ้วนพุงพลุ้ยนิดๆ มีสาวน้อยหน้าใสหวานเคียงข้างคอยพูดจ๊ะจ๋าให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ

มธุรสยิ้มจนเห็นฟันขาวสะอาดที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม สอดมือจับแขนป้อม “ก็น้ำผึ้งน่ารักนี่นา แล้วคุณป๋าก็รักมากด้วย แล้วอย่างนี้จะให้สาวน้อยแสนน่ารักคนนี้งอนคุณป๋าผู้ใจดีได้หรือคะ” กระแซะอ้อนเสียงใสแจ๋วอย่างคนช่างพูดเอาตัวรอด

“ที่นี่ลมแรงจัง เรารีบเข้าไปข้างในกันดีกว่าค่ะ” มือเล็กยกขึ้นทาบทับบนศีรษะกดหมวกที่พยายามจะหลุดออกไปแต่ก็ไม่ทัน หมวกใบโปรดได้หลุดและปลิวไปตามกระแสลม

“อุ๊ย!! คุณป๋าไปเช็กอินก่อนนะคะ น้ำผึ้งขอไปเก็บหมวกก่อน” มธุรสบอกเสียงใสนุ่มหวาน รีบวิ่งตามไปเก็บหมวกใบโปรดที่หลุดปลิวออกจากศีรษะเพราะสายลมแรงๆ ที่พัดมาอย่างไม่ฟังคำทัดทานจากภาวัติ

มือหนาสอดล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เท้าพาร่างแกร่งเดินวนไปเวียนมาด้วยความอึดอัดจากยายจอมจุ้นที่ได้แรงยุจากคนใกล้ชิด คอยพาตัวเองมาวอแววนเวียนเอาใจ แทนที่จะทำให้เขารู้สึกดีกับการมีผู้หญิงหน้าตาสะสวยน่ารักมาคอยเอาใจใส่ กลับกลายเป็นรำคาญเสียมากกว่า

คนที่ไม่ใช่ ต่อให้พยายามเท่าไหร่ก็ยังไม่ใช่อยู่ดี จนเขาต้องหาทางเลี่ยงหลบหนีออกมายืนสงบสติอารมณ์กับธารน้ำกว้างใหญ่สีน้ำเงินให้ช่วยผ่อนคลายความเครียด แต่กลับมีภาพร่างบอบบางสะท้อนกับแพน้ำใสแจ๋วที่กำลังลิ่วล้อเล่นกับแสงแห่งพระอาทิตย์ คล้ายมีเพชรดาษดื่นเรียกความสนใจให้ต้องเหลียวไปมอง

เธอเป็นใคร?

แปลก...แม้หนทางห่างไกล อะไรก็ไม่ชัดเลยสักนิดเดียว แต่ทำไมหัวใจซึ่งมีกำแพงล้อมรอบอย่างแข็งแกร่งแน่นหนา ผู้ซึ่งอยู่ผ่านร้อนผ่านหนาว เพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบอายุสามสิบห้าปีไปหมาดๆ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง เกิดอาการที่เรียกว่ากระตุกวูบอย่างไม่มีเหตุผล จนผู้เป็นเจ้าของถึงกับแปลกใจในความรู้สึกที่แล่นลิ่ว ตรงเข้าหาเหมือนกระสุนตรงเข้าเป้า

“บ้าจริงๆ ไกลจนมองเห็นไม่ชัดเลย” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ ขณะเพ่งมองไป แต่ก็เห็นเพียงด้านข้างของร่างบอบบางในเสื้อผ้าบางเบา มีเข็มขัดสีขาวเน้นเอวเล็กคอดกิ่วที่คิดว่าใช้สองมือกำรอบ กางเกงผ้าขาสั้นสีน้ำตาลไม่ได้สั้นมากมายเสริมให้น่ารักแต่ก็แอบเซ็กซี่นิดๆ เรียกว่าเย้ายวนใจจนในทรวงเขาถึงกับเต้นกระหน่ำรัวเร็ว ไหนจะปลีขาเสลาเรียวยาวเหมือนลำเทียนคู่นั้นอีกเล่า

‘เกิดอะไรขึ้นกับเขานี่?’

คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ทั้งที่รอบตัวเขามีผู้หญิงสวยๆ รายล้อมมากมาย แต่ทำไมถึงได้ไปสะดุดใจอยากเห็นหน้าเธอคนนั้นเสียจริง ชายหนุ่มพยายามมองลอดหมวกปีกกว้างและแว่นตาสีดำอันใหญ่ที่ปกปิดใบหน้าไปเสียครึ่งหนึ่ง มองเห็นก็ไม่ชัด ทำให้เขาอยากรู้จนเป็นร้อนรนกระวนกระวาย แต่ถึงจะร้อนรุ่มพลุ่งพล่านราวกับไฟเผาสักเพียงใดก็ต้องข่มกลั้นไว้ เพราะสาวน้อยนางนั้นไม่ได้มาเพียงคนเดียว

เธอ...มากับชายวัยกลางคน ที่โอบประคองทะนุถนอมอย่างกับกลัวดอกไม้กลีบบางจะบอบช้ำ ท่าทีหวานซึ่งมีให้กันเหมือนต้องการประกาศให้กับผู้ชายหลายคนที่เหลียวมองรู้ว่า เธอมีเจ้าของและเขาทั้งรักทั้งห่วงอีกทั้งหวงสุดหัวใจ

แวบหนึ่งในหัวใจปวดหนึบราวกับถูกคมหินตะปุ่มตะป่ำบาดเฉือน ทำไมเขาถึงเป็นอย่างนี้...ไม่เข้าใจกับความรู้สึกแปลกๆ นี่เสียจริง ทว่าชายหนุ่มก็รีบสลัดทิ้งไปอย่างเร็ว ถึงแม้รูปกายภายนอกของหญิงสาวถูกใจเขามากโข แต่ถ้าต้องทำศึกแย่งผู้หญิงจากผู้ชายคนอื่นเขาไม่นิยม

“เฮ้อ! ดันมีเรื่องทำให้เสียอารมณ์อีกจนได้” จากที่คิดว่าจะยืนรับลมผ่อนคลายความเครียดและกังวลอยู่อีกสักครู่ แต่สิ่งที่เห็นเป็นอะไรที่ชวนขัดลูกหูลูกตา พานให้หงุดหงิดร้อนรนไปทั้งใจจนทนยืนอยู่ไม่ได้

ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจออกจากปอดแรงๆ สอดมือล้วงเข้าในกระเป๋ากางเกง เมื่อหมดอารมณ์ดูความสวยงามของสถานที่และคิดเรื่องงานที่มีปัญหาค้างคาไม่จบ...

แก้ไขเรื่องหนึ่งเสร็จสิ้นก็มีอีกเรื่องให้ต้องตามแก้ไขอีก ถ้ามีแค่ปัญหาเดียวเขาก็ไม่ต้องมายืนกลุ้มอย่างนี้ แต่นี่รุมเร้าเข้ามาในคราวเดียว จนไม่รู้ว่าจะตั้งหลักอย่างไร ควรเริ่มแก้ไขปัญหาไหนก่อนดี แล้วก็มีอะไรบางอย่างแวบเข้ามา แม้ต้องคิดเพิ่มเติมแต่ก็น่าจะพอใช้ได้อยู่

ร่างหนาด้วยไหล่กว้างได้มาตรฐานหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องทำงาน ขณะนั้นเองก็มีหมวกใบโตปลิวมาทำให้ต้องยกมือขึ้นรับโดยอัตโนมัติ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป