บทที่ 3 ตอนที่ 6

“แต่พี่ดรากอนไม่มีงานนี่ครับ” น้องเล็กสวนขึ้นทันควัน ทั้งที่รู้จักพี่ชายดี เขาอยากแกล้งคนเก่ง

“ชู้ว...” มังกรปรามน้องชายจอมแส่ หางจิ้งจอกเริ่มโผล่คิดงาบหัวพี่ชายรอมมะล่อ อินทรีแสบไม่ต่างจากเขาซะด้วย ด้วยนิสัยส่วนตัวอินทรี ขี้เล่น ทะเล้น น่ารัก น้องเล็กจึงครองตำแหน่งยอดดวงใจทุกคนในบ้าน

โดยเฉพาะมารดา โอ๋อินทรีจนเหลิง นิสัยชอบกลั่นแกล้งพี่ชายพอๆ ที่เขาชอบแกล้งคืนน้องเท่าเทียมกัน ไม่ว่าชอบกลั่นแกล้งกันแค่ไหน พวกเขามักช่วยเหลือกันดีเสมอๆ ทั้งยามทุกข์ สุข เศร้า ต่างไม่ทอดทิ้งกัน รวมทั้งในยามคับขันด้วย ต่อให้เผชิญกับปัญหามากมาย พวกเขาไม่มีวันทิ้งกัน เมื่อคนใดคนหนึ่งประสบปัญหา

สามคนที่เหลือพร้อมยื่นมือเข้าไปช่วยทันใด ร่วมใจกันถากถางปัญหานั้นได้จบสิ้นไป ศัตรูหน้าไหนจึงไม่กล้าแตะต้องเหล่าสี่มังกร มังกรรอดจากรถไฟชนกันอยู่หลายครั้ง เพราะอินทรียื่นมือเข้าไปช่วย พวกเขาสองคนพี่น้อง สนิทกันยิ่งกว่าเพื่อนสนิท เข้าขากันดีในเรื่องสับหลีก อินทรียิ้มละไมเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาทอประกาย สมใจได้แกล้งพี่ชาย ศัตรูต่อสตรี ผละห่างจากสาวลูกครึ่ง ไม่กี่นาทีเท่านั้น อีกกสาวรีบโทรหาไม่ว่างเว้น เฮ้อ...อาจโดนรถไฟชนตายสักวัน

“ไว้วันหน้านะครับชินา รับรองผมไม่ทำให้ชินาผิดหวังแน่” คำสัญญาง่ายๆ ที่หลุดจากปาก สร้างความหวังให้กับสาวหน้าใหม่ เช่นชินาเป็นอย่างมาก หากหล่อนคิดหมายมั่นกับเขา เกมล่าคงได้เริ่มต้นอีกครั้ง ชินายิ้มเพื่อเฝ้ารอ

“ชินาก็หวังว่าตัวเองคงไม่ผิดหวัง อย่างที่...” หล่อนเว้นว่างให้ชายหนุ่มเติมมันลงไปในส่วนที่เจ้าตัวกล่าวไม่จบประโยค คิดแล้วให้เสียวซ่านหัวใจ “คุณมังกรว่าไว้” เธอเติมให้จบ แต่ไม่ใช่ที่ใจคิด ชินาควรไว้ตัว เพื่อดักผู้ชายสมบูรณ์แบบคนนี้

“แน่นอนสิครับ” เขาว่าพลางส่งตาพราว หันไปทางน้องชาย ฝ่ายนั้นรีบส่งสายตายียวนกวนประสาทกลับให้บ้าง มังกรปรามน้องชายในที ห้ามแกว่งปากแส่ก่อกวน พี่น้องคู่นี้ชอบปล้ำฟัด หยอกล้อกันตามประสาผู้ชายแมนๆ เพราะต่างรู้ไส้รู้พุงกันดี อินทรีไม่เกรงพี่ชายสักนิด ในเมื่อมังกรมีความลับมากมายที่ตนกุมไว้ อินทรีถือตนได้เปรียบ อีกฝ่ายกลับไม่กลัวความลับรั่วสักนิด สองคนนี้จึงพอฟัดพอเหวี่ยงกันไปซะทุกอย่าง

มังกรถือโอกาสตัดสายก่อนคู่สนทนาสาวผู้หมายตารายล่าสุด หมุนกายไปกระแทกก้นลงนั่งข้างน้องชาย ด้วยท่าทีอารมณ์ดี แต่กลับแอบพรูลมหายใจราวกับเจอเรื่องหนักอกมาหมาดๆ ซะอย่างนั้น หลากอารมณ์จริงไรจริง พ่อหนุ่มคนนี้

“ทำอย่างกับกลัดกลุ้ม”

“นิดหน่อย”

“ชิชะ คนอย่างคุณชายรองแห่งสกุลเฉิน ที่วันๆเอาแต่ควงสาวเข้าโรงแรมนั้นออกโรงแรมนี้ มีเรื่องให้กลุ้มใจด้วย ว่าแต่เรื่องอะไรกันเหรอ” ท้ายน้ำเสียงคนถาม ช่างยียวนกวนประสาทชะมัด ทั้งไอ้ท่ายักคิ้วนั้นด้วย ไอ้คิ้วหนุมาน หลอกล่อพิเพกยักษ์ศรีให้ตบะแตกอินทรีถนัดนัก

“เริ่มกลัวผู้หญิงแล้วว่ะ” ฝ่ายกลัดกลุ้มเปรยความกลัวหลุดจากปากดั่งคนละเมอ เจอแต่ละคนไฟแรงสูงทั้งนั้น ยังไม่อ้าปากจีบพวกหล่อนก็บุกเขาก่อน ทอดสะพานเสริมเหล็กสิบชั้นกันหักกันแตก คนต้องการเดินข้ามสะพานนั้น ชอบอยู่แล้ว ไยเล่าต้องปล่อยปลาเนื้ออร่อยที่ว่ายเข้ามาหาอวนเองให้หลุดมือไป

“หา...คุณชายรอง กลัวผู้หญิง โม้เห็นๆ” คนที่เห็นพี่ชายคนรองเอาแต่ เฉิดฉายในแวดวงรายล้อมด้วยสาวๆ พ่นคำนี้ออกจากปาก ที่มักหิวโหยอิสตรีไม่เคยว่างเว้น ริมฝีปากอิ่มหยักได้รูป ดวงตาพราวไปด้วยรอยเสน่ห์ บาดใจสาวๆนักหนา “ปกติคุณชายรองก็มัดผู้หญิงให้อยู่ในกำมือทุกราย รายที่ควงๆอยู่นี่ มัดยากอย่างนั้นหรือ”

“เรียกร้องน่ะสิ ยิ่งเหมือนแพร แล้วด้วย”

“ควงมาสักพักแล้วนี่เหมือนแพรกับลาน่าแม่สาวลูกครึ่งไฟแรงนั่นน่ะ”

“เมื่อกี้ มาอีกหนึ่งสิ”

“ใครล่ะ”

“ชินา เจอกันที่ห้างฯ”

“ถึงไหนกันแล้วล่ะ”

“ยัง เพิ่งรู้จักกัน”

“อย่ากังวลสิงานยังไม่เข้าซะหน่อย”

“ว่างั้นแหละ”

“กะอีแค่สาวล้นฮาเล็ม คุณชายรองถึงกับกังวล ไม่ใช่วิสัยมังกรซะหน่อย ล้อเล่นน่า” คนไม่เชื่อก็ยังคงล้อพี่ชายอย่างสนุกปาก

“มันไม่ใช่อย่างนั้นสิ” มังกรอยากบอกน้องชายเหลือเกิน ถึงภาวะหัวใจในตอนนี้ บางสิ่งเกิดคลื่นแปรปรวนก่อกวนในใจ มโนจิตนึกถึงแต่ใบหน้ายายขี้เหร่พนักงานห้างฯแผนกชุดชั้นใน บางครั้งเขามักเหม่อลอย ขาดสมาธิในการทำงาน ทั้งที่ยัยนั่นไม่ใช่ความชอบโดยปกติของเขาสักหน่อย ที่สำคัญคงมีผู้หญิงเช่นหล่อนคนเดียวที่ไม่หลงเสน่ห์ในตัวเขาสายตาพนักงานสาว ทองมองมายังเขา ราวเกลียดชังนักหนา

สองหนุ่มคุณชายรองกับคุณชายเล็กแห่งสกุลเฉิน สนทนาตลกโปกฮากันพักใหญ่ จึงแยกย้ายกลับห้องส่วนตัว

รัญชน์เล่นชวนหัวอยู่กับหลานสาวตัวน้อย ลูกสาวสุดที่รักของเอนีสกับพยัคฆ์ หลานสาววัยกำลังน่ารัก ขวบเศษๆ เมื่อเอ่ยถึงหลานคนนี้นับได้เป็นความภาคภูมิใจของเฉินเทียนลู่ ผู้เป็นทวด เพราะท่านจัดการให้คนทั้งคู่ได้สมหวังชู้ชื่น เฉินเทียนลู่ มีโอกาสได้เห็นหน้าเหลนคนแรกชัดๆ หนูน้อยมีดวงตาเหมือนพยัคฆ์ สวยจิ้มลิ้มดั่งมารดา พยัคฆ์เคยพาลูกสาวตัวน้อยยอดดวงใจที่เกิดจาก กามเทพอุ้มสม เพื่อเยี่ยมทวดถึงบ้านสวน

เมื่อสมหวังได้เห็นหน้าเหลนคนแรก ชายชราผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสิบฝนหลายสิบหนาว จึงจากลาโลกด้วยอาการสงบแห่งวัยด้วยโรคชรา ในอีกสองเดือนต่อมา สร้างความอาลัยแก่ลูกหลาน บริวารในบ้าน ท่านจากไปด้วยรอยยิ้มและอาการหมดห่วง ร่างไร้วิญญาณของเฉินเทียนลู่ บุรุษแห่งตำนาน ถูกฝันไว้ที่สุสาน จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสุสานบรรพบุรุษ

“อารมณ์ดีหรือยังรัญชน์ได้เล่นกับหลาน”

“นิดหน่อยล่ะเอนีส”

“ยัยน้องหนูหยกมณี ช่วยให้น้ารัญชน์อารมณ์ขึ้นได้ สุดยอดฝีมือเลยนะ ตกลงเล่าให้ฉันฟังได้หรือยัง อารมณ์เสียมนมาจากไหน” เอนีสคาดคั้น ตั้งแต่มุดรั้วเข้ามา รัญชน์พกแก้มป่อง คิ้วมุ่น กระฟัดกระเฟียดอยู่นานสองนาน ให้เล่นกับหนูน้อย อารมณ์ตึงจึงคลายลง

“ที่ทำงานนั่นล่ะ พอดีเจอพวกชอบอวด”

“ไหนเล่ามาซิ”

หลังกลับจากที่ทำงานรัญชน์ ต้องใช้เวลาปรับอารมณ์อยู่นาน โดยมีหนูน้อยวัยขวบเศษๆ ทำให้ความกรุ่นในอารมณ์ดีขึ้น ดูเหมือนง่ายดายด้วยสิ เอนีสเพิ่งพาหนูน้อยกลมกลิ้งขึ้นไปนอนบนห้องเด็ก โดยให้ป้าศิ ช่วยเลี้ยงดูแทน ส่วนพยัคฆ์นั้นนั่งสะสางงานอยู่ในห้องทำงาน หากคิดนินทาน้องชายเขา คงต้องให้พี่ชายเขาหลบไปก่อน รัญชน์มองซ้ายแลขวา เมื่อรอบกายโล่ง จึงเริ่มเข้าเรื่องเล่าให้เอนีสฟัง การถูกกล่าวหาให้เป็นยัยขี้เหร่มันเจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจ รวมทั้งเขาจำเธอไม่ได้นี่สิ บาดลึก

“เจอโจทก์เก่าแต่เขาจำเธอไม่ได้เหรอ เรื่องมันผ่านมาปีกว่าแล้วนี่นะ”

“นั่นสิ ว่าแต่สภาพฉันตอนนี้ ฉันขี้เหร่มากหรือเอนีส อีตาศัตรูต่อสตรี ถึงจำฉันไม่ได้” รัญชน์หมุนกายกางแขน ให้เอนีสช่วยติดสิน

“จำไม่ได้ดีแล้วนี่ เขาจะได้ไม่เอาคืน ตอนเธอกระทืบเท้าเขา ในวันแต่งงานของฉัน ส่วนเธอในตอนนี้ ต่างจากตอนนั้นนิดหน่อย ฉันสาบานได้มันนิดๆ อย่าถือสาคุณมังกรเลย รายนั้นรสนิยมสูงเรื่องผู้หญิง ไม่เปรี้ยว ไม่ไวไฟ เขาไม่ชายตาแลหรอก” คุณสมบัติทั้งมวลของน้องชายฝาแฝดสามี เอนีสรู้จากปากคุณสามีสุดที่รักทั้งหมด

“ธรรมดาคนเจ้าชู้” ปลงล่ะสิที่พูดอย่างนั้น

“ใช่ ฉะนั้นเธอเองปักใจเกลียดคนแบบนั้นเข้าไส้ อย่าไปสนใจให้อารมณ์เสียเลยน่า” เอนีสหาข้อกล่าวอ้างให้กำลังใจเพื่อนรัก  รัญชน์น่ารักสดใส ยิ้มหวานละลายใจ เสียอย่างเดียวจริงจังกับชีวิตมากไปหน่อย โดยเฉพาะเรื่องคู่ รัญชน์เกลียดคนเจ้าชู้มากรักเข้ากระดูกดำ ทั้งที่ส่วนใหญ่ผู้ชายที่เข้ามาเกี่ยวพันจีบรัญชน์ ประเภทที่รัญชน์เกลียดทั้งนั้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป