บทที่ 2 EP 01 ทาง [ที่ต้อง] เลือก [1]
ความเงียบที่ปกคลุมอยู่รอบตัว ความรู้สึกแรกหลังจากที่เริ่มได้สติคือมีอาการปวดหัวตุบๆ เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างกระดอนไปมาอยู่ในหัว
ซ่า
สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เมื่อถูกคลื่นน้ำละลอกใหญ่สาดเข้าเต็มใบหน้า หนำซ้ำน้ำที่ว่ายังเย็นจนสั่นสะท้าน สองตาเบิกโพลงขึ้นโดนอัตโนมัติ
ปั่ก!
ถังน้ำใบนั้นถูกวางกระแทกลงกับพื้น ฉันพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณ แต่ร่างกายถูกพันธนาการติดกับเก้าอี้เอาไว้ด้วยเชือกเส้นโต ริมฝีปากถูกผ้าสีดำคาดปิดเอาไว้แน่น
ฉันทำได้เพียงกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความหวาดกลัว จำได้ว่าก่อนหมดสติไป ฉันถูกโอยามะบีบคอเหมือนจะพยายามฆ่าฉันให้ตาย
โอยามะ! นึกถึงชื่อนี้ขึ้นมาแล้วก็รู้สึกว่าลำคอพลันแห้งผากขึ้นมากะทันหัน
ครืดดด
เสียงเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ถูกลากมาตั้งตรงหน้า ห่างออกไปประมาณสองถึงสามเก้า ก่อนที่คนลากจะหันมามองฉันด้วยท่าทีเรียบเฉย แต่กลับเรียกความหวาดกลัวให้ตื่นขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจฉันได้เป็นอย่างดีทันที
ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่คือที่ไหน แต่มั่นใจว่ามันไม่ใช่ห้องชุดหรูของโอยามะที่ฉันแอบย่องเข้าไปแน่นอน เพราะดูจากสภาพซอมซ่อ มีกลิ่นเหม็นอับ แถมยังสกปรกแบบนี้ มันผิดกับที่นั่นลิบลับ
และแล้วประตูด้านข้างก็ถูกผลักเข้ามาโดยผู้ชายคนหนึ่ง จากนั้นก็มีผู้ชายอีกหลายคนเดินตามเข้ามา และคนแรกที่สะดุดตาฉันมากก็คือผู้ชายตัวสูงๆ ที่กำลังเดินเข้ามาหาฉันด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย เพราะเขาคือ...โอยามะ!
โอยามะเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าฉัน ด้านหลังของเขามีบอร์ดี้การ์ดเดินตามเข้ามาสมทบอีกหลายคนเพียงแต่สายตาของฉันถูกสะกดโดยร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงหน้าตั้งแต่วินาทีที่เห็นเขาเดินเข้ามา
สายตาคมเข้มที่โอยามะมองมาทำเอาฟันในปากของฉันเริ่มกระทบกันอีกรอบ เห็นว่าเขาหันไปสบตากับบอร์ดี้การ์ดคนหนึ่ง จากนั้นนายคนนั้นก็เดินตรงมาหาฉัน พร้อมกับหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท
สองตาของฉันเบิกโพลงขึ้นทันทีเมื่อเห็นปลายแหลมของมีดแหลมคมดีดขึ้นมาจากฝัก
ฟึ่บ!
ปลายมีดที่ถูกยื่นมาใกล้ใบหน้าทำให้ฉันรีบหลับตาปี๋ ก่อนที่เสียงตวัดปลายมีดจะทำให้ฉันสะดุ้งและรู้สึกเสียวแปลบที่แก้มทันทีเมื่อถูกปลายมีดพับอันนั้นบาด
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉันตัวสั่นเพราะความกลัวหรือเป็นเพราะนายคนนั้นมือไม่นิ่ง จากที่จะตัดผ้าที่ปิดปากฉันออกก็เลยกลายเป็นสร้างรอยแผลไว้บนแก้มฉัน
“ใครส่งเธอมา”
เขาถามแล้วจ้องหน้าฉันราวกับกำลังใช้สายตาคู่นั่นค้นหาคำตอบ แต่ความเงียบเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันสามารถตอบเขาได้
“ฉันจะถือว่าเธอสละสิทธิ์ในการมีชีวิตอยู่ก็แล้วกัน” โอยามะพูดเสียงเรียบพร้อมกับลุกขึ้นยืนทันที ครั้งนี้เขาไม่ให้โอกาสฉันแม้แต่สักวินาทีเดียว
ชีวิตฉันมีค่าแค่คำตอบเดียวงั้นสินะ
เสียงฝีเท้าของโอยามะดังเข้ามาใกล้เมื่อเขากำลังเดินตรงมาหา ใบหน้าที่ล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีดำไม่มีท่าทีอ่อนโยนกับฉันเลยสักนิด และทันทีที่เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาของเขาก็หรี่แคบลง ก่อนจะทำให้ฉันตกใจด้วยการยกมือขึ้นมาบีบแก้มฉันแรงๆ ปวดเหมือนกระดูกกราวจะหัก
“โอ๊ย!”
“ก็พูดได้นี่”
หลังจากที่โอยามะทำให้ฉันเปล่งเสียงออกไปได้สำเร็จ เขาก็สะบัดใบหน้าของฉันออกแรงๆ จนคอฉันแทบเคล็ด น้ำตาไหลพรากเพราะไม่สามารถโกหกตัวเองได้อีกต่อไปว่าไม่กลัว
“ถ้าเป็นคนอื่น ฉันอาจใช้วิธีตามจับตัวประกัน แต่ดูเหมือนวิธีนั้นคงใช้ไม่ได้ผลกับเธอสินะ...ฮานะ”
เขารู้จักชื่อของฉันแล้ว
เหตุผลที่เขาบอกว่าวิธีการจับตัวประกันไม่ได้ผลนั่นก็เพราะเขาน่าจะสืบจนรู้หมดแล้วว่าฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน
“ตอบ”
ความดุดันในน้ำเสียงของเขาทำให้ฉันสั่นระริกไปทั้งตัว
แกร๊ก!
แล้วโอกาสสุดท้ายของฉันก็มาถึงเมื่อโอยามะหันปลายกระบอกปืนที่เขาเพิ่งจะรับมันมาจากมือของบอร์ดี้การ์ดคนขึ้นมาจ่อที่กลางหน้าผากฉันอีกรอบ
“นับถึงสาม”
คำถามเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวของฉันตอนนี้ก็คือเวลากระสุนในปืนกระบอกนี้ฝังลงกลางหน้าผากฉัน มันจะเจ็บแบบนี้รึเปล่า ภาวนาให้ฉันไม่ทันได้รู้สึกเจ็บหรือทรมานก็แล้วกัน
