บทที่ 2 บทนำ [2]

เสียงของฉันอื้ออึงก่อนจะเงียบหายไปทันทีเมื่อถูกคนของโอยามะเดินที่เข้ามายืนอยู่ด้านข้างเตียงของฉันตั้งแต่แรกเอื้อมมือมาปิดปากเอาไว้ ซึ่งไม่ว่าฉันจะพยายามดิ้นยังไงก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากมือคนพวกนี้ไปได้เลย ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ ฝ่ามือหนาก็ยิ่งกดลงมาแรงมากขึ้นจนฉันหายใจไม่ออก แถมยังรู้สึกแสบที่ข้อมือเพราะแรงเสียดสี จนสุดท้ายฉันก็ต้องยอมนิ่ง หากแต่สายตายังคงจ้องมองไปที่ไดสึเกะด้วยความเคียดแค้นชิงชัง

ผู้ชายที่เพิ่งจะเดินมาปรากฏตัวตรงหน้าฉันชื่อไดสึเกะ หนึ่งในสมาชิกของแบล็กสกอร์เปี้ยน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเขาเป็นถึงหลานชายแท้ๆ ของโอซึนซึเกะ ผู้ก่อตั้งและเป็นประธานของแบล็กสกอร์เปี้ยนรุ่นก่อน หากแต่ไดสึเกะกลับไม่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้นำและผู้สืบทอดแบล็กสกอร์เปี้ยนในรุ่นต่อมา แต่กลับกลายเป็นโอยามะที่ได้ตำแหน่งนั้นไปครองทั้งที่เป็นแค่เด็กที่โอซึนซึเกะเก็บมาเลี้ยง

“ฉันจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบล็กสกอร์เปี้ยนกับเสือขาว รวมถึง...พี่ชายของเธอ”

กึก!

ทันทีที่ได้ยินคำว่าพี่ชายที่โอยามะพูดออกมา ร่างกายของฉันก็กระตุกเกร็งขึ้นอีกครั้งเพราะความแค้นในใจที่มันอยากจะปะทุออกมา

“ฉันจะเว้นโทษตายให้เธอก็แล้วกัน”

“คิดว่าฉันกลัวตายมากนักรึไง” ฉันถามออกไปอย่างไม่ยี่หระ หากแต่คำถามของฉันกลับทำให้โอยามะแสยะยิ้ม แววตาของเขาแสดงออกถึงความเลือดเย็นสมกับเป็นมาเฟียที่ไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย

“ฉันรู้ว่าเธอไม่กลัว และฉันเองก็ไม่ได้คิดจะปล่อยให้เธอตายไปง่ายๆ หรอกนามิ ความผิดที่เธอกับพี่ชายของเธอทำเอาไว้ ฉันไม่มีทางให้อภัย และจะทำให้เสือขาวต้องชดใช้ให้กับแบล็กสกอร์เปี้ยนอย่างสาสม”

โอยามะยังคงพูดเรื่อยๆ เหมือนเรากำลังพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระ แต่ทุกคำที่เขาพูดออกมากลับสะกดให้ทุกคนในห้องนิ่งงันราวกับถูกเขาตรึงเอาไว้ด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด

ฉันนอนนิ่งเพื่อรอให้เขาพูดให้จบ แม้ไม่ได้อยากจะรับฟังแต่ทุกอย่างในตอนนี้ก็บังคับให้ฉันต้องทำอย่างนั้น ทั้งที่ความรู้สึกทุกอย่างกำลังเดือดปุดๆ อยู่ในอก ฟันในปากขบแน่นจนรู้สึกตึงไปทั้งใบหน้า สองมือของฉันที่ถึงแม้ว่ามันจะถูกมัดติดกับเตียงกำแน่นเมื่อทุกรูขุมขนอัดแน่นไปด้วยความแค้น

“และในเมื่อพี่ชายของเธอชิงลงมือฆ่าตัวเองตายไปซะก่อน”

หัวใจเจ็บปวดจนยากจะบรรยายเมื่อได้ยินคำนั้นหลุดออกมาจากปากของโอยามะ ไอ้คนสารเลวที่ทำให้พี่ฉันต้องตาย พวกมันนั่นแหละที่ทำให้พี่โยชิดะต้องตาย!

“เธอก็ต้องรับผิดชอบแทน ในฐานะที่เธอเป็นน้องสาวของมัน และมีตำแหน่งประธานของเสือขาวคนต่อไป” โอยามะยังคงพูดเสียงเรียบต่อไปเรื่อยๆ สายตาที่มองมาดูสงบนิ่งต่างจากฉันที่รู้สึกว่าเบ้าตาทั้งสองข้างร้อนผ่าวไปหมดและมันคงกำลังสั่นมาก หากแต่ไม่ได้สั่นเพราะความกลัว มันกำลังสั่นเพราะความเกลียดต่างหาก

“เข้าใจที่ฉันพูดมั้ย...นามิ” โอยามะทิ้งท้ายด้วยคำถามที่ฉันรู้ดีว่าคำตอบคืออะไร

นามิคือชื่อของฉันเอง ฉันเป็นน้องสาวของพี่โยชิดะ ซึ่งถึงแม้เราจะคนละแม่ แต่เราก็รักกันเหมือนพี่น้องแท้ๆ หลังจากที่แม่ของฉันเสียไปตั้งแต่ฉันยังเด็ก พี่โยชิดะก็ดูแลฉันมาตลอด เขาคือทุกอย่างในชีวิตของฉัน และก็เพราะพวกมันทำให้ฉันต้องสูญเสียเขาไป

ฟุ่บ!

หลังจากที่โอยามะทิ้งคำถามมาที่ฉัน เขาก็มองไปที่คนของเขาพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ เพียงครั้งเดียว คนของเขาที่ปิดปากฉันเอาไว้แน่นมาตลอดก็ปล่อยมือออก ทำให้ริมฝีปากของฉันได้รับอิสระอีกครั้ง ทำราวกับว่าเขาอนุญาตให้ฉันพูดเพื่อตอบคำถามของเขา เพียงแต่ว่าฉันไม่มีคำตอบอะไรจะให้ทั้งนั้น

“ถ้าไม่ตอบ ฉันจะถือว่าเธอได้ยินและเข้าใจ รวมถึงยินดีที่จะรับผิดชอบกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น”

“จะเอายังไงก็ว่ามา” ฉันถามกลับไปเสียงแข็ง ก่อนจะละสายตาออกจากใบหน้าของโอยามะมองไปที่ไดสึเกะ ที่ตั้งแต่เขาเดินเข้ามา ฉันยังไม่ได้ยินเขาพูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว

“ฉันจะให้เธอแต่งงานกับไดสึเกะ!”

จากที่กำลังจ้องมองไดสึเกะ ฉันก็ต้องหันกลับไปมองโอยามะอีกครั้งในทันทีเมื่อคิดว่าน่าจะได้ยินอะไรผิดไป

“นายว่าไงนะโอยามะ”

ฉันเองก็กำลังจะถามแบบนั้นเหมือนกัน แต่ติดตรงที่ไดสึเกะชิงถามออกมาซะก่อน

“ฉันจะให้นายแต่งงานกับนามิ”

“แกอย่ามาเพ้อเจ้อ”

ไดสึเกะพูดแทนฉันได้ทุกคำจริงๆ นี่มันเรื่องเพ้อเจ้อ!

“หรือไม่ แกก็ต้องเป็นคนไปรายงานเรื่องทั้งหมดกับคุณโอซึนซึเกะด้วยตัวเอง และถ้าแกเลือกข้อนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” โอยามะพูดเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรกับความหมายของสิ่งที่เขาพูดมันออกมาเลยสักนิด ต่างจากไดสึเกะที่ถึงกับกัดฟันกรอด ใบหน้าของเขาตึงเปรี๊ยะแต่กลับไม่พยายามที่จะปฏิเสธอีกเลย ทั้งที่ฉันดูออกว่าเขากำลังรู้สึกยังไง เพราะมันคงไม่ต่างจากที่ฉันกำลังรู้สึก

เขาเกลียดฉันมากพอๆ กับที่ฉันเกลียดเขานั่นแหละ!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป