บทที่ 1 แรกรักผลิบานดั่งหลานฮวา ภายหลังดุจปุยดอกหลิ่วปลิวมลาย 1

บทนำ

...หานฉงหรงยังคงจดจำวันแรกที่แต่งงานเข้าสกุลฉางได้ดี...

ฉางซื่อหลางเป็นมือปราบในศาลประจำเมืองจี๋หลิน ส่วนเขาเป็นบุตรสาวของอาจารย์ที่เปิดสถานศึกษาเล็กๆ การพบกันของพวกเขาเหมือนหน้าหนึ่งของนิยายประโลมโลก ดุจดั่งหน้าม่านของอุปรากรอันเลื่องชื่อ ฉางซื่อหลางช่วยเหลือหานฉงหรงประหนึ่งฉากวีรบุรุษช่วยเหลือสาวงาม นานวันต่างฝ่ายต่างเกิดจิตปฏิพัทธ์จึงคบหาดูใจอยู่นานนับปี สุดท้ายจึงได้แต่งงานกัน

พวกเขาใช้ชีวิตเรียบง่ายสงบสุขได้ไม่นานนักหนึ่งปีต่อมามีการประกาศรับสมัครจอหงวนฝ่ายบู๊ทั่วแผ่นดิน หานฉงหรงเห็นว่าอีกฝ่ายมีความสามารถ จึงไม่ลังเลที่จะชักชวนให้ฉางซื่อหลางสมัครสอบไป สามีของเขามีท่าทีลังเลในคราแรก ทว่าไม่นานก็ตอบตกลง โดยที่บิดาของหานฉงหรงจะเป็นผู้สอนในคัมภีร์ต่างๆ ที่ใช้สอบ

เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพเพียงรอลมบูรพาทิศ ฉางซื่อหลางออกเดินทางในวันฤกษ์ดีวันหนึ่งก่อนถึงเวลาสอบหนึ่งเดือนด้วยเผื่อเวลาเดินทาง ทั้งสองล่ำลากันด้วยน้ำตา ฉางซื่อหลางให้คำมั่นว่าถ้าสอบได้จอหงวนบู๊ เขาจะกลับรับภรรยาไปอยู่ด้วยกัน หรือถ้าสอบตก เขาก็จะกลับมาช่วยพ่อตาสอนหนังสือ ใช้ชีวิตสงบสุขดังเดิม

เวลาผ่านไปหนึ่งปี ในจี๋หลินเกิดโรคระบาด คร่าชีวิตบิดาของหานฉงหรงไป ความเป็นอยู่ในสกุลเริ่มลำบากยากแค้น ในใจฉงหรงนึกห่วงสามีที่ยังไม่กลับบ้าน ในขณะที่กลังจะเก็บข้าวของออกเดินทางไปยังเมืองหลวง เกี้ยวคันงามหลังหนึ่งก็มาจอดยังหน้าบ้านของนาง ระบุว่าต้องการเชิญฮูหยินของจอหงวนบู๊คนใหม่

แม้จะแปลกใจที่ฉางซื่อหลางไม่มารับด้วยตนเอง แต่สุดท้ายก็ยอมนั่งเกี้ยวเดินทางมายังเมืองหลวง เกี้ยวของหานฉงหรงหยุดเบื้องหน้าเรือนสี่ประสานอันสวยสดงดงาม ทว่าป้ายหน้าประตูทางเข้ากลับเขียนเอาไว้ว่า

"จวนราชบุตรเขย"

หานฉงหรงยืนนิ่ง ตัวชาเหมือนถูกน้ำเย็นราดรดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เมื่อสอบถามบุรุษที่ดูท่าทางเหมือนขันทีคนหนึ่งจึงได้ความว่า ขณะที่สามีของนางแสดงความสามารถต่อเบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้ในรอบสุดท้ายนั้น เป็นที่พอพระทัยของฮ่องเต้ รวมไปถึงองค์หญิงเวินอี๋ธิดาสุดรักที่ตกหลุมรักเขานับตั้งแต่แรกเห็นยิ่งนัก ทำให้ฮ่องเต้ที่ทานทนพระราชธิดารบเร้าไม่ไหวจึงมอบสมรสพระราชทานให้นางกับฉางซื่อหลาง

ฉางซื่อหลางพยายามทูลคัดค้านว่ามีภรรยาอยู่ที่บ้านเกิดแล้ว แต่ว่าก็ไร้ผล ฉางซื่อหลางกลายเป็นราชบุตรเขยไปในที่สุด แต่เขาก็ไม่อยากเป็นอย่างเฉินซื่อเหม่ยที่หลอกลวงเบื้องสูงทอดทิ้งภรรยาเอกที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาได้ จึงได้ส่งคนไปรับหานฉงหรงที่บ้านเกิดเพื่อมาอยู่ด้วยกัน

หลังจากตั้งสติได้ หานฉงหรงได้แต่แค่นยิ้มสมเพชให้กับตนเอง วันดีคืนร้ายจากที่เป็นภรรยาของสามัญชนคนธรรมดากลับต้องมาอยู่ในฐานะเดียวกับฉินเซียงเหลียงภรรยาของเฉินซื่อเหมยที่สามีกลายเป็นจอหงวนผู้งามสง่าทรงเกียรติ ได้สมรสกับองค์หญิงผู้มียศถาบรรดาศักดิ์สูงเทียมฟ้า ต่างกันตรงที่ในอุปรากรนั้น เฉินซื่อเหม่ยปกปิดเรื่องมีครอบครัวแล้วกับองค์หญิงแล้วส่งคนมาฆ่าภรรยาเก่ากับลูกๆ ส่วนนางนั้นมิใช่ แม้มิต้องหนีการตามล่าหรือตกตายอย่างน่าเวทนา แต่ก็ขมขื่นอัปยศอดสูไม่แพ้กัน

เป็นเมียเอกแล้วอย่างไรเล่า องค์หญิงเวินอี๋แม้แต่งเข้ามาทีหลังทว่าสถานะสูงส่ง เป็นนางเสียอีกที่ต้องคุกเข่าทำความเคารพ เรื่องบัดซบที่ให้หลวงเคารพน้อยจะให้นางทานทนได้อย่างไรกัน! หานฉงหรงจึงตัดสินใจในทีแรกว่าจะกลับบ้านเกิดแล้ว ถ้าฉางซื่อหลางไม่รั้งตัวเขาไว้ก่อน

ฉางซื่อหลางโอบเอวบางพาหานฉงหรงเข้ามายังจวน ชายหนุ่มเตรียมเรือนหลังงามให้กับหานฉงหรงไว้รอท่า แยกออกจากจวนขององค์หญิงโดยสิ้นเชิง ชายหนุ่มมีสีหน้าลำบากใจอย่างยิ่งเมื่อเอ่ยถึงการแต่งงานกับองค์หญิงจนนางเองเริ่มรู้สึกใจอ่อน ฉางซื่อหลางยังคงเป็นฉางซื่อหลางคนเก่าที่นางรู้จัก เป็นคนซื่อสัตย์และอ่อนโยนยิ่งนัก อีกฝ่ายคงไม่มีทางหลอกนางอย่างเด็ดขาด

ฉางซื่อหลางอยู่เป็นเพื่อนหานฉงหรงจนถึงเช้าเพื่อรำลึกความหลังแสนหวาน ก่อนที่จะจูงมือพาหานฉงหรงไปยังจวนองค์หญิงเวินอี๋เพื่อทำความเคารพด้วยกัน องค์หญิงเวินอี๋ผิดจากที่หานฉงหรงคิดไว้มาก แม้จะสูงศักดิ์แต่ก็ไม่หยิ่งผยองถือตัว ซ้ำยังเคารพนางกลับและบอกว่านางมาทีหลังสมควรเคารพหานฉงหรงถึงจะถูก

หลังจากนั้นหานฉงหรงพบว่านางกับองค์หญิงนั้นเข้ากันได้ดีกว่าที่คิด มีข้าวของเครื่องใช้ดีๆ จากวังหลวงก็นำมาให้นาง ทั้งสภาพความเป็นอยู่ของนางนั้นไม่ด้อยไปกว่าองค์หญิง ซ้ำสามีก็ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ทำให้หานฉงหรงค่อยๆ กลับมามีความสุขอีกครั้ง

และความสุขนั้นก็พลันครบถ้วนบริบูรณ์ยิ่งขึ้นเมื่อหานฉงหรงตั้งครรภ์

บทถัดไป