บทที่ 14 พบอดีต
หกปีผ่านไป ....
ร่างสูงใหญ่เอนกายลงนอนบนเก้าอี้ที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสของสายการบิน เขากำลังขยายธุรกิจรถยนต์เข้าสู่เมืองไทย จำต้องเดินทางไปติดต่องานที่นั้น เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ทว่าเขาไม่อาจหลงลืมใบหน้าแสนสวยของหญิงสาวชายไทยได้เลย ปรางค์ปรียาหากโชคชะตาสองเรามีอันต้องบรรจบ เขาขอให้ได้พบเธออีกสักครั้งก็ยังดี
หญิงสาวในชุดทำงานยืนอยู่ด้านหน้าประตูบ้าน มือจูงมือเด็กชายผมสีบลอนด์ เด็กคนนี้คือลูกของเธอ ลูกที่เกิดมาจากความผิดพลาด ผมและดวงตาทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนไทย เธอต้องอดทนต่อคำนินทามากมายจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ แม้รู้สึกเจ็บปวดแต่เมื่อได้เห็นหน้าบุตรชาย มันทำให้รู้สึกเหมือนโลกที่แบกไว้มลายลงไป
“แม่ครับ วันนี้ไทม์ไม่อยากไปโรงเรียนเลยครับ...” เด็กชายบอกแววตาหม่น
“ทำไมล่ะครับ?”เธอทรุดกายลงพร้อมกับจ้องมองใบหน้าลูกด้วยความสงสัย
“เพื่อนล้อผมทุกวันเลยครับแม่ ว่าผมเป็นลูกฝรั่งที่ไหนก็ไม่รู้ ผมไม่ชอบเลยครับ”
หัวใจกำลังเต้นตุบๆ ยิ่งเห็นหน้าลูกยิ่งสงสาร เธอเองรู้ดีว่ามันคงเป็นเช่นนี้อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง มือบางลูบศีรษะบุตรชายเบาๆ แล้วรั้งร่างเล็กมาโอบกอดไว้ ไทม์ลูกของเธอไม่เหมือนใค รแค่เพียงเดินผ่านก็สามารถมองออกว่าบิดาไม่ใช่คนไทย และนี้เป็นเหตุผลให้ทุกคนต่างคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงส่ำส่อน ไปเที่ยวเมืองนอกมีอะไรกับฝรั่งแล้วท้องไม่มีพ่อ
“ไทม์ต้องอดทนนะครับลูก ถ้าน้องไทม์ไม่เรียนหนังสือ เวลาไทม์โตขึ้นไทม์จะไม่มีงานทำเลี้ยงแม่นะครับ”
เด็กชายมองหน้ามารดาแล้วถอนหายใจออกมา ไม่นานรถโรงเรียนก็มาจอดหน้าบ้าน เขายอมละจากอ้อมกอดมารดา แล้วโบกมือให้ขึ้นรถไปโรงเรียน มองลูกขึ้นรถลับหายจากสายตา ในอกรวดร้าว สงสารลูกจับใจ รถยนต์จอดเทียบหน้าบ้านแทนรถโรงเรียน หญิงสาวจำต้องคลายเศร้าแล้วยิ้มให้แทน
เจ้าของรถชะโงกหน้าออกมา “ปรางค์ไปเร็วเดี๋ยวจะสาย วันนี้เห็นว่าจะมีการประชุมเรื่องรถนำเข้ายี่ห้อใหม่ซะด้วย” กวินภพเร่งเพื่อน
“รู้แล้ววิน”
ร่างบางเปิดประตูรถแล้วรีบนั่งลงข้างคนขับ เวลาผ่านมาเนิ่นนานแต่เธอไม่สามารถตกลงปลงใจกับกวินภพได้ เธอต้องนอนฝันซ้ำๆ ถึงชายใจร้าย หากเรื่องในอดีตอันแสนเศร้ายังไม่จางหาย เธอเองก็ไม่อาจลากเพื่อนที่แสนดีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเป็นอันขาด
“ปรางค์...แต่งงานกับวินเถอะนะ”กวินภพเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบภายในรถ
ปรางค์ปรียาก้มหน้านิ่งจำต้องแอบซ่อนความรู้สึก ที่ตัวเองต้องทนทุกข์ทรมานมานานแสนนาน เธอไม่อยากให้กวินภพต้องมารับเคราะห์ในเรื่องนี้ด้วย
“ล้อเราเล่นอีกแล้วนะวิน”หญิงสาวบอกพร้อมกับแสร้งยิ้มออกมา
“เราไมได้ล้อเล่นปรางค์เราพูดจริง!”
แววตากวินภพมีความจริงใจ เธอไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรให้เขาเข้าใจดี ภายในรถจึงกลายเป็นบรรยากาศที่ชวนอึดอัด
เขารู้ดีว่าเธอผ่านเรื่องอะไรมา เรื่องทุกอย่างปรางค์ไม่ใช่คนผิด เขายินดียอมรับทุกอย่างเพราะรักเธอมาก และหวังร่วมสร้างครอบครัวกับเธอ เวลาผ่านมานานมากแล้ว เขาไม่อยากรออีก
“แต่งงานกับเราเถอะนะปรางค์... ปรางค์ก็รู้ว่าเราไม่เคยรังเกียจเรื่องของปรางค์ แล้วเราก็รักไทม์มากด้วย”
ริมฝีปากบางสั่นระริก หัวใจกำลังสั่นอย่างช่วยไม่ได้ ภาพวันเก่าๆ มันย้อนกลับมาเล่นงาน และสิ่งนั้นมันทำให้เธอต้องลุกขึ้นมายามค่ำคืนบ่อยครั้ง เธอลืมชายคนนั้นไม่ได้เลยไม่รู้ว่าทำไม หากเธอต้องนอนเคียงข้างชายอีกคนแต่ฝันถึงอีกคนเธอคงทำไม่ได้
“ไม่ได้หรอกวิน... วินควรได้เจอผู้หญิงที่ดีกว่าปรางค์ ปรางค์อยากให้วินได้เจอผู้หญิงดีๆ สักคนที่ไม่ใช่ผู้หญิงที่มีราคีอย่างปรางค์”เธอบอกเขาเสียงเครือ
“เราไม่สน! ปรางค์ไม่ได้เป็นคนทำ ผู้ชายคนนั้นต่างหากที่ทำให้ปรางค์ต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้ เราไม่อยากเห็นปรางค์ต้องเป็นขี้ปากชาวบ้านอีกแล้ว ไทม์จะได้ไม่ต้องโดนเด็กคนอื่นมาล้อเลียนอีก”
มือบางกำแน่น น้ำใสๆ เริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตา เจ็บปวดกับคำพูดของคนทั่วไปที่มองเธอเป็นผู้หญิงส่ำส่อนแต่เธอก็ไม่โทษใคร ไม่ว่าใครจะมองยังไง เธอก็ยังสามารถกัดฟันทนเลี้ยงลูกมาจนถึงทุกวันนี้ ไทม์เติบโตและมีความคิดเกินเด็ก เธอไม่เคยลำบากใจที่เลี้ยงลูกคนนี้เลย และรู้สึกเป็นสุขที่ไทม์มาเติบเต็มชีวิต หากเหตุการณ์ครั้งนั้นมันโหดร้ายจนยากจะลืมลง แต่อย่างน้อยสิ่งที่ทำให้เธอยิ้มได้ คือเขาได้ฝากของขวัญอันมีค่าไว้ให้เธอนั้นเอง
“เราทนได้วินและไทม์ก็ทนได้... เราขอโทษนะวิน แต่เรารับความหวังดีของวินไม่ได้หรอก” ปรางค์ปรียาตัดใจบอกความรู้สึกออกไป เธอไม่อยากให้เขามารออีกแล้ว
“ปรางค์ไม่เคยรักเราเลยเหรอ หรือว่าปรางค์รักผู้ชายคนนั้น!”
“เปล่าวินเราไม่ได้รักเขา แต่เราแค่ไม่อยากเอาเปรียบวินก็เท่านั้นเอง...”
“เราไม่รับคำปฏิเสธของปรางค์หรอกนะ เราจะรอวันที่ปรางค์ยอมรับเรา”เขาบอกพร้อมกับเร่งเครื่องยนต์
