บทที่ 2 ชะตาลงทัณฑ์

ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาภายในบ้าน เขาทอดกายนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับจ้องมองไปยังทั้งคู่ เขาชะงักเมื่อพบว่าหนึ่งในสองคนนั้นคือสาวที่เขาเคยให้ความสนใจ แต่เขาไม่มีความปราณีให้ใคร เมื่อไมเคิลบังอาจเล่นตลกกับเขา ก็จะไม่ปราณีต่อหลานสาวของมันเช่นกัน

“พวกคุณเป็นใครจับเรามาทำไม?” พินอาภาถามเขาเสียงสั่น

ปรางค์ปรียานั่งมองหนุ่มหน้าตาคมเข้มนัยน์ตาสีฟ้าดุจน้ำทะเล หากเธอเห็นตามท้องถนน คงคิดว่าเขาเป็นนายแบบแน่นอน แต่สถานการณ์ตอนนี้ เธอกลับไม่คิดว่ามันเป็นเช่นนั้นเพราะสายตาที่เขาส่งมามันทำให้เธอรู้สึกกลัว

“พิน...พวกเขาต้องการอะไรถึงพาตัวเรามา” หญิงสาวกระซิบถามเพื่อน

ลุคส์หรี่ตามองเมื่อได้ยินเสียงกระซิบของหญิงสาว พวกเธอเป็นคนไทย... เขามีเรื่องมากมายอยากจะถาม แต่ไม่คิดว่าตัวเองใจดีพอที่จะไม่ทำอะไร หากต้องเค้นถามกันก็จะทำ เพราะเขาไม่สนว่าจะเป็นหญิงหรือชาย หากทำให้เขาไม่พอใจก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเหมือนกัน

“พวกเธอเข้าไปทำอะไรกันที่บ้านหลังนั้น” เขาถามเสียงเย็น

พินอาภาหน้าซีดปากสั่น  แววตาของเขา ทำให้เธอรู้สึกกลัวจับใจ แข้งขาสั่นและอ่อนแรง มือไม้แทบยกไม่ขึ้น

“อย่าให้ฉันถามซ้ำครั้งที่สอง เพราะไม่อย่างนั้นเธออาจจะไม่มีปากไว้ตอบฉันอีกก็ได้!” เสียงกร้าวตามมา

“ฉันไปหาลุง บ้านหลังนั้นเป็นของลุงฉัน!” เธอรีบตอบ

“เธอสินะที่เป็นหลานไอ้ไมเคิล!”ลุคส์เปรยแล้วสบตากับพินอาภา คนถูกสบตาหวาดกลัวร่างกายสั่นเทา

ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับสาวเท้ามาหยุดตรงหน้าพินอาภา คว้าท่อนแขนกระชากร่างเข้ามาหาตนเอง ปรางค์ปรียาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ รีบถลาเข้าขวาง

“อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉัน!” เธอตวาดเขาลั่น

ชายหนุ่มมองสายตากร้าว ผลักร่างหญิงสาวจนล้มลงกระแทกพื้นอย่างไม่แยแส ออกแรงบีบท่อนแขนพินอาภาไว้แน่น แล้วโน้มใบหน้าเข้าหา สั่งเสียงกร้าว

“ติดต่อลุงเธอซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เธอได้ลิ้มรสความกลัวจนถึงขั้วหัวใจเลยล่ะ!”

พินอาภารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลุง ใบหน้าเธอซีดเซียวมือสั่น แต่มันไม่ได้ผล เครื่องถูกปิด

“ติดต่อลุงเธอได้ไหม?”เขาถามแล้วยิ้มเหี้ยมออกมา

“ฉะ...ฉันติดต่อไม่ได้ค่ะ”หญิงสาวตอบเขาน้ำตาคลอ

เขาถอนหายใจแล้วยิ้มออกมาราวกับปีศาจ คนกลัวมองหน้าน้ำตาไหลริน ลุคส์จับท่อนแขนเธอไว้แน่น แล้วลากให้ร่างของพินอาภา หญิงสาวรีบขืนตัวเอาไว้ แต่เรี่ยวแรงกลับสู้เขาไม่ได้เลย ลูกน้องลุคส์ยืนดูเงียบ

ปรางค์ปรียารีบวิ่งตามเพื่อนไป โถมกายกระแทกจนชายหนุ่มเซ

“ปล่อยเพื่อนฉันนะไอ้สารเลว!”ปรางค์ปรียาตวาดเขา สายตาจ้องไปอย่างไม่เกรงกลัว

ชายหนุ่มขบกรามแน่น มองหญิงที่เคยประทับใจ มันหมดแล้วความรู้สึกนั้น จับปลายคางแล้วบีบแน่น จนหญิงสาวเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ปากดีนักนะ อยากช่วยเพื่อน เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ อยู่เฉยๆ ก็ไม่มีปัญหาแล้วแส่หาเรื่องดีนัก!”เขาบอกแล้วสะบัดมือออกจากปลายคางมน ก่อนหันไปสนใจพินอาภาอีกครั้ง

พินอาภาตัวสั่น  ลุคส์ก้าวเข้าหา หญิงสาวรีบถอยหนี ทว่าไม่ทันได้ดั่งใจลุคส์กระชากร่างบางเข้าหา เธอกรีดร้องดิ้นทุรนทุรายด้วยความหวาดกลัว ปรางค์ปรียามองหน้าเพื่อนด้วยความสงสารริมฝีปากบางเม้มแน่น

หญิงสาวใช้เท้าที่ว่างอยู่ยันไปที่เขา ส่งผลให้ร่างสูงใหญ่เซลงไปเล็กน้อย ชายหนุ่มชะงักเพราะไม่ทันตั้งตัวเขาหันไปมองด้วยความโกรธ

“ไม่เข็ดเลยใช่ไหม!”เขาตวาดลั่น

พินอาภารีบรั้งท่อนแขนเพื่อนไว้ แต่คนอย่างปรางค์ปรียาไม่กลัวอะไรอยู่แล้วชีวิตเธอไม่มีอะไรจะเสีย แต่สำหรับพินอาภาชีวิตของเพื่อนเธอยังมีคนมากมายที่รออยู่ และเธอก็เป็นหนี้ชีวิตเพื่อนคนนี้มากมายจนแทบชดใช้ไม่หมด เธอจะไม่มีวันยอมให้เพื่อนเป็นอะไรเป็นอันขาด หากมีคนต้องตายเธอควรเป็นคนแรก

“แกมันโง่ หลานลุงไมเคิลคือฉันไม่ใช่เพื่อนของฉัน!”

คำพูดที่ออกมาจากปรางค์ปรียาทำให้เขาหยุดชะงักไปชั่วครู่  จ้องมองคนพูดทันที

“เธอเป็นหลานของไอ้ไมเคิล แล้วยังกล้าดีมาหลอกฉันอย่างนั้นเหรอ!”ชายหนุ่มตวาด

ร่างบางถูกกระชากให้ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเขา

เพียะ!

ฝ่ามือเขาฟาดลงไปบนแก้มเนียนจนนูนขึ้นเป็นรอยนิ้วทั้งห้า ปรางค์ปรียาทรุดกายลงกับพื้นตามแรงฝ่ามือของเขา

“ปรางค์!”พินอาภาร้องเรียกเพื่อนตนเองแล้วรีบผวาเข้ามาหา

“อย่าทำร้ายเพื่อนฉัน เขาไม่ใช่หลาน...”

“หยุดนะพิน!”หญิงสาวตวาดลั่นเพื่อป้องกันไม่ให้พินอาภาเปิดเผยเรื่องที่ ต้องการปกปิดออกมา

“ปรางค์...”

หญิงสาวส่ายหน้า สบตาเพื่อน เธอยินดียอมรับโชคชะตานี้

“ฉันจะปล่อยเพื่อนเธอไป แต่เธอต้องอยู่กับฉัน ฉันจะจัดการให้เธอยอมเปิดปากเรื่องไมเคิลเอง!”

มาติชรีบลากพินอาภาออกไป หญิงสาวดิ้นรนทั้งน้ำตา

“อย่าทำแบบนี้ปรางค์ เราไม่ได้ต้องการให้ทำแบบนี้...”พินอาภาสะอื้นออกมาอย่างหนัก สายตาของเธอจดจำได้แค่เพียงสีหน้าของเพื่อนที่หันมายิ้มให้ ก่อนโดนลากออกมาจากห้องนั้น

ลุคส์สั่งให้บอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดออกจากห้อง ห้องทั้งห้องเหลือเพียงความเงียบงัน ปรางค์ปรียากัดฟันแน่น เธอต้องข่มความรู้สึกของตนเองแม้กายกำลังสั่นสะท้านด้วยความกลัวก็ตาม ชายหนุ่มหรี่ตามองหยิบปืนที่เหน็บอยู่ออกมาจอ

“บอกฉันมาซะว่าลุงของแกอยู่ที่ไหน!”เขาตวาดกร้าวเป็นภาษาที่เธอเข้าใจ

เธอนั่งนิ่งไม่ยอมเปิดปากพูดอะไร พูดก็ตาย ไม่พูดก็ตาย หากเป็นเช่นนั้นเธอขอไม่พูดมันออกมาจะดีกว่า เพราะไม่ว่าเลือกทางไหน ก็ไม่รอดอยู่ดี

“จะบอกหรือไม่บอก!”เขาขู่

“ไม่! ฉันไม่มีวันบอกอะไรกับคนอย่างแก ต่อให้ฉันรู้ก็ตาม”เธอจ้องมองเขาด้วยสายตาไม่เกรงกลัว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป