บทที่ 3 จับมัน! ฉันจะสั่งสอนอีเด็กกำพร้า

“นี่มันเกินไปแล้วนะ” มะลิฉัตรเอ่ยด้วยสีหน้าแดงก่ำ

“ฉันก็ขอโทษแล้วไงมะลิ ฉันไม่ได้ตั้งใจจ้ะ คิกๆๆ” กุ๊กไก่บอกพลางหัวเราะคิกคัก

“เธอตั้งใจสาดใส่ฉัน!” มะลิฉัตรว่าก่อนจะวางกระเป๋าที่เปียกน้ำแดงลงใกล้ๆ กับโต๊ะติดผนัง

“อ้าวพูดแบบนี้! จะหาเรื่องฉันเหรอ?” กุ๊กไก่ถามกลับเสียงดัง

“ฮะ! ใครกันแน่ที่หาเรื่อง” คนที่ทำใจเย็นมาตลอด ตอกกลับอย่างไม่ยอม

“ทำไม? แกจะทำอะไรฉันเหรอนังมะลิ” กุ๊กไก่ท้าอย่างถือดี เพราะป้าของเธอนั้นอยู่มานานจนผู้จัดการยังต้องเกรงใจ ต่อให้เธอจะทำอะไรมะลิฉัตร เธอก็ไม่มีทางเดือดร้อน

“ก็ทำแบบนี้ไง” มะลิฉัตรยิ้มก่อนจะสาดกาแฟใส่อีกฝ่ายคืน

ซ่า!

“กรี๊ดดดดด” กุ๊กไก่กรีดร้องขึ้นอย่างตกใจ ไม่ทันได้ตั้งตัว

“กุ๊ก!” สายไหมช็อกไปชั่วขณะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำ

“อุ๊ย! ขอโทษนะ เราไม่ได้ตั้งใจ” มะลิฉัตรบอกด้วยน้ำเสียงเดียวกับที่อีกฝ่ายบอกเธอเมื่อก่อนหน้า

“จับมัน! ฉันจะสั่งสอนอีเด็กกำพร้าให้รู้ว่าการที่มายุ่งกับคนอย่างกุ๊กไก่จะต้องเจอกับอะไรบ้าง” กุ๊กไก่บอกพลางปัดน้ำสีน้ำตาลอ่อนที่เกาะตามเนื้อตัวออก

“ดะ...”  ได้เลย สายไหมยังไม่ทันได้พูดจบ อยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกกระชากออกอย่างแรง

พลั่ก!

“มึงจะสั่งสอนใครเหรออีกุ๊ก!” พิมาลาถามด้วยสีหน้าตึงๆ พร้อมกับมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง

“พิ!” มะลิฉัตรเรียกคนที่เพิ่งมาถึงอย่างตกใจ

“ทำไมเปียกแบบนี้!” พิมาลาหันมามองเพื่อน ขณะที่อารมณ์เดือดพล่านพุ่งขึ้นจากเดิมอีกเท่าตัว หลังจากได้ยินคำพูดก่อนหน้าของกุ๊กไก่ ที่บอกว่าจะตบสั่งสอนอีเด็กกำพร้าเข้าเต็มๆ สองหู

“กุ๊กสาดน้ำแดงใส่เรา เราเลยสาดกาแฟกลับน่ะ” มะลิฉัตรบอก

“อ้าว! แบบนี้ก็สวยสิ” พิมาลามองหน้าสองสาวกลับอย่างไม่ยอม ‘ตายเป็นตาย! วันนี้จะขอตบอีลูกมีพ่อมีแม่ดูสักครั้งเถอะ!’

“กูสวยอยู่แล้ว!” กุ๊กไก่บอกพร้อมกับยกยิ้มมุมปากขึ้นนิดๆ

“นี่มึงรวบรวมความกล้านานไหม ที่จะบอกว่าตัวเองสวยด้วยท่าทางมั่นใจแบบนี้น่ะ” พิมาลาถามกลับพร้อมกับมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหยียดๆ ตั้งแต่หัวจดเท้า

“เดี๋ยวฉันตบอีพิให้ เธอจัดการอีมะลิได้เลย”

สายไหมกระซิบบอกเพื่อนพร้อมกับตั้งท่าจะเปิดศึกกับสองสาว

“ได้!” กุ๊กไก่พยักหน้ารับ เตรียมจะตรงเข้าไปกระชากแขนของ  อีกฝ่ายมาตบ แต่ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้ง

พลั่ก!

“นี่-มัน-เกิด-อะ-ไร-ขึ้น!” สิรันถามพลางกวาดตามองสี่สาวอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา กับสภาพพื้นห้องที่เปียกไปด้วยกาแฟและน้ำแดง

“เอ่อ... ก็มะลิน่ะสิคะหัวหน้า! อยู่ๆ ก็เอากาแฟสาดใส่กุ๊กไก่ค่ะ” สายไหมรีบรายงาน

“พวกเธอทุกคน! ตามฉันไปที่ห้อง เดี๋ยวนี้!” สิรันบอกเสียงเข้มก่อนจะเดินออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ ทำเอาสี่สาวรีบเก็บของใส่ล็อกเกอร์แล้วตามหัวหน้าแผนกไปติดๆ

แผนกต้อนรับ...

“เอาละมีใครจะเป็นคนเล่าก่อน” สิรันถามขึ้นเมื่อสี่สาวเข้ามานั่งกันจนครบ

“หนูค่ะ” กุ๊กไก่รีบยกมือขึ้น

“เชิญ” สิรันบอกพร้อมกับจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายอย่างสำรวจ

“กุ๊กกับไหมกำลังจะเดินออกจากห้องสแกนนิ้ว มันเป็นจังหวะเดียวกับที่มะลิเดินเข้ามา แล้วชนกับแก้วน้ำแดงที่หนูถือเข้า เลยทำให้เปียกอย่างที่เห็น หนูพยายามขอโทษ และบอกว่าไม่ตั้งใจ แต่มะลิก็ไม่ฟัง เขาคิดว่าหนูตั้งใจทำ เลยเอากาแฟสาดใส่หนูค่ะ” กุ๊กไก่เล่าทั้งน้ำตานองหน้า  ผิดไปจากท่าทีก่อนหน้าลิบลับ

“โห... จบการแสดงมาเปล่าเนี่ยแม่คุณ” พิมาลาถึงกับอึ้งในความสามารถของอีกฝ่าย ที่เรียกน้ำตาได้ทันทีทันใดอย่างไม่น่าเชื่อ

“พิมาลา!” สิรันเอ่ยปรามคนที่ขัดจังหวะ

“ขอโทษค่ะหัวหน้า” พิมาลายกมือขึ้นไหว้หัวหน้าแผนกทันใด

“เล่าต่อ” สิรันหันไปพยักหน้าให้ดาราเจ้าบทบาทพูดต่อ

“เอ่อ... พอพิมาลาเข้ามาเห็นว่ามะลิเปียกเท่านั้นค่ะ ก็คิดว่าถูกหนูกับสายไหมแกล้ง ฮึก! ถะ... ถ้าเมื่อกี้หัวหน้าเข้ามาไม่ทันหนูกับเพื่อนอาจจะโดนสองคนนี่ทำร้ายร่างกายแล้วค่ะ ฮึก...”

“มะลิ! ถึงตาเธอเล่าแล้ว” สิรันส่ายหน้าอย่างเพลียๆ ก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งเงียบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น

“ค่ะหัวหน้า! ก่อนที่หนูจะเข้าไปในห้องสแกนนิ้ว หนูได้ยินเสียงของสายไหมพูดว่า มาแล้วๆ และทันทีที่หนูเปิดประตูเข้าไป กุ๊กไก่ก็สาดน้ำแดงใส่หน้าหนู แล้วบอกว่า อุ๊ยตาย! โทษนะ ไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นกุ๊กไก่กับสายไหมก็หัวเราะใส่หนูค่ะ”

“เธอเลยสาดกาแฟใส่กุ๊กไก่คืน” สิรันถามแทรกขึ้นทันใด

“ค่ะ! หนูทำแบบเดียวกับที่เขาทำกับหนูทุกอย่าง ทั้งบอกว่าไม่ได้ตั้งใจและขอโทษ แต่หนูไม่ได้หัวเราะใส่เขาเท่านั้นค่ะ” มะลิฉัตรบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“พิมาลา! พอเธอเข้ามาแล้วเธอทำอะไร” สิรันถามต่อ

“หนูไปเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นที่ห้องสแกนนิ้ว หนูวิ่งเข้าไปแล้วทันได้ยินกุ๊กไก่พูดว่า จับมัน! ฉันจะสั่งสอน  อีเด็กกำพร้าให้รู้จักว่าการที่มายุ่งกับคนอย่างกุ๊กไก่ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง” พิมาลาบอกพร้อมกับจ้องหน้าสองสาวที่นั่งฝั่งตรงข้าม

“ไม่จริง! กุ๊กไม่ได้พูดแบบนั้นนะคะหัวหน้า” กุ๊กไก่บอกพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างลืมตัว

“กุ๊กไก่!” สิรันปรามพร้อมกับชี้ให้อีกฝ่ายนั่งลง

“ขอโทษค่ะ แต่กุ๊กไม่ได้พูดจริงๆ นะคะหัวหน้า” กุ๊กไก่บอกย้ำเพราะกลัวหัวหน้าแผนกจะไม่เชื่อตน

“เล่าต่อ!” สิรันพยักหน้าให้พิมาลา

“หนูก็ถามกุ๊กว่าจะสั่งสอนใครเหรอ แล้วหัวหน้าก็เข้ามาค่ะ”

“หัวหน้าคะ สองคนนี้จะพูดยังไงก็ได้ เพราะในห้องสแกนนิ้วไม่มีกล้อง หนูยืนยันได้ว่าหนูไม่มีความคิดที่จะกลั่นแกล้งมะลิอย่างเด็ดขาด” กุ๊กไก่รีบออกตัว

“เดี๋ยวนะ! ใครบอกเธอว่าห้องสแกนนิ้วไม่มีกล้องวงจรปิด”

สิรันถามพร้อมกับมองหน้าสองสาวนิ่ง

ผลัวะ!

จันจิราที่ผลักประตูห้องเข้ามาเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ หลังจากที่ทราบว่าหลานสาวของตนถูกเพื่อนในแผนกเดียวกันสาดกาแฟใส่

“เธอสองคนใช่ไหมที่ทำหลานฉัน”

“ค่ะ! หนูเป็นคนเอากาแฟสาดใส่กุ๊กเอง” มะลิฉัตรยอมรับ

“ไล่ออก! ให้สองคนนี้ออกจากงานเลยนะคุณสิรัน” จันจิราบอกเสียงดังอย่างเอาเรื่อง

“เอ่อ... สิเข้าใจนะคะว่ากุ๊กเป็นหลานของคุณจิรา แต่เราควรให้ความเป็นธรรมกับทุกคนค่ะ” สิรันบอกอีกฝ่ายอย่างใจเย็น

“หลานฉันโดนขนาดนี้ ฉันจะเอาเรื่องเด็กนั่นให้ถึงที่สุด” จันจิราบอกเสียงดังจนเล็ดลอดออกไปด้านนอกห้อง

“แจ้งความเลยไหมคะ? พอดีหนูมีเบอร์ผู้กำกับฯ อยู่ เดี๋ยวโทร.ให้เลยค่ะ” พิมาลาบอกพลางทำท่าจะล้วงมือถือออกจากกระเป๋าเสื้อ

“พิมาลา!” สิรันเอ่ยปรามก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่

บทก่อนหน้า
บทถัดไป