บทที่ 1 EP.1 คุณชื่ออะไร
1. คุณชื่ออะไร
เสียงเบสกระแทกจังหวะของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สะเทือนไปทั่วผับหรูใจกลางเมืองหลวง พื้นขัดเงาสะท้อนแสงไฟนีออนหลากสีระยิบระยับ ผู้คนแต่งตัวจัดจ้านเดินกันขวักไขว่ แต่มุมหนึ่งของโซฟากึ่งวีไอพีกลับถูกจับจ้องจากหลายคู่สายตา
ไลลา อลิสา คุณหนูคนโตจากบ้าน อลิษาเวศ ตระกูลของนักการเมืองใหญ่ เธอนั่งไขว่ห้างจิบไวน์แดงกับกลุ่มเพื่อนอย่างมีชั้นเชิง เธอแต่งกายด้วยเดรสสายเดี่ยวสีดำ ผ่าข้างสูงระดับต้นขา เผยสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบไม่ต่างจากดาราตัวท็อป และชุดนั้นคงกลายเป็นแค่ชุดธรรมดา หากไม่ถูกสวมโดยร่างบางแต่ทรงพลังอย่างเธอ
ใบหน้าเรียวได้รูป ผสานผิวขาวจัดจนสะท้อนแสง ใต้ไฟหลากสี ทั้งดวงตาที่กลมโตรับกับริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัส เธอไม่ใช่แค่สวยและน่ารัก แต่ไลลามีความ 'สง่า' ทุกอิริยาบถ ไม่ต่างจากนางพญาอยู่กลางสนามล่า
แม้จะยิ้มหรือพูดคุยกับเพื่อน เสียงหัวเราะของเธอก็ยังคงแฝงความระวัง ไม่เปิดโอกาสให้ใครเข้าถึงได้ง่าย ๆ ผู้ชายในผับหลายคนมองเธอเหมือนเห็นของล้ำค่า ที่มันน่าหลงใหลแต่จับต้องไม่ได้ และเธอรู้ตัว… ว่าทุกสายตาต่างมองเธอ
บนชั้นลอยของผับ เจ้าของพื้นที่ส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ โต๊ะหรูสำหรับลูกค้าระดับเจ้าของธุรกิจหรือคนที่ 'ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ'
เทลวิน วาเรนโซ่ ทายาทคนเล็กของตระกูล วาเรนโซ่ แก๊งมาเฟียผู้ทรงอิทพลในยุโรป เจ้าของใบหน้าเย็นเฉียบไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม ดวงตาสีเทาเข้มจ้องผ่านกระจกลงไปด้านล่างในจังหวะที่คู่สนทนากำลังอธิบายรายงานธุรกิจเกี่ยวกับสายส่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลี่ยงภาษี
"ถ้าเราขยายสายไปทางภาคตะวันออก จะได้พื้นที่รีสอร์ตของนักการเมืองกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งรับตำแหน่งมา…" เสียงนั้นยังคงอธิบายต่อ แต่เทลวินกลับไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
เพราะสายตาของเขา...จับจ้องอยู่ที่เธอ ผู้หญิงในเดรสสีดำที่นั่งอย่างสง่าบนโซฟาชั้นล่าง ราวกับเจ้าหญิงหลุดออกมาจากโลกที่ไม่ควรมาเหยียบที่แบบนี้
ดวงตาของเขาหรี่ลง จ้องอย่างพิจารณา
"ลูกสาวรัฐมนตรีใหญ่ ชื่อไลลา อลิษาเวศ" เฮียไช้ เจ้าของผับสังเกตุเห็นว่าคนตรงหน้าให้ความสนใจเป็นพิเศษเลยรีบเล่าออกมา ก่อนจะถูกสายตานิ่งเฉียบตวัดมองจนต้องหุบปากลง
"คุณหนู...อลิษาเวศ" เทลวินพูดเสียงเบา ริมฝีปากยกยิ้มจาง ๆ ในแบบที่คนรู้จักเขาเท่านั้นจึงจะเข้าใจว่ามันคืออะไร
"นางพญาในรังหมา น่าสนุกดี" เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง 187 เซนติเมตร และในจังหวะนั้นลูกน้องคนสนิทก็ถามขึ้น
"บอสจะกลับเลยไหมครับ?"
"อืม"
"งั้นเชิญทางด้านนี้เลยครับ" อดีนมือขวาคนสนิทผายมือไปทางประตูฉุกเฉินส่วนตัวสำหรับผู้บริหาร
"ฉันจะไปทางนี้" ร่างสูงโปร่งเดินล้วงกระเป๋าลงบันไดที่ใช้กันปกติ ทุกก้าวล้วนเต็มไปด้วยการระวังตัว คืนนี้เขามาที่นี่โดยการไม่มีบอดี้การ์ดนับสิบ ไม่ใช่เพราะเขาประมาท แต่เพราะเขา ‘มั่นใจ’ ว่าไม่จำเป็นต้องมี
เทลวินเดินลงมาท่ามกลางสายตาของเหล่าพนักงานที่หลบทางให้โดยอัตโนมัติ เขาจงใจเดินผ่านโต๊ะโต๊ะหนึ่งไปทางไลลาแบบไม่ให้ใครรู้เจตนา
จังหวะเดียวกับที่ชายแปลกหน้าร่างท้วมเริ่มเดินเข้าหาเธอ…
"เธอมากับใครน่ะ คนสวย?"
ไลลาหันไปมองด้วยสายตาเย็นเยียบ มือข้างหนึ่งยกไวน์จิบอีกคำแล้ววางลงช้า ๆ เธอไม่ได้ตอบ เพราะไม่เห็นค่าพอจะตอบด้วยซ้ำ
แต่ชายคนนั้นไม่ถอย กลับยิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้น มือข้างหนึ่งเอื้อมจะจับแขนเธอ เทลวินที่เดินผ่านในระยะประชิดหันไปเพียงนิด เขาปรายตาไปยังเหตุการณ์ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ
"ไปล้วงกันที่อื่น เกะกะ"
คำพูดนั้นเหมือนมีดกรีดลงกลางใจไลลา เธอเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา แล้วโต้กลับทันที
"ตาบอดไม่พอยังจิตใจต่ำตมอีกต่างหาก!"
เทลวินหยุดกึก! ใช้มือส่งสัญญาณห้ามอดีนที่กำลังจะเข้าชาท ก่อนเขาจะหันกลับมาเผชิญหน้าเธอโดยตรง แต่ในวินาทีนั้นคนเมาก็ใช้จังหวะที่เธอเผลอ ดึงเสื้อของเธอแรงจนขาด
แกว่ก!!!
ผ้าสีดำแหวกออกหลุดลุ่ยข้างหนึ่ง เผยเนินอกขาวเนียนลนทะลักบรา เสียงร้องตกใจจากโต๊ะใกล้ ๆ ดังขึ้น แต่ไลลาไม่ถอยและไม่มีทีท่าจะหวาดกลัว เธอเอื้อมมือไปหยิบขวดเบียร์ขึ้นฟาดหัวมันด้วยความโกรธจัดแทน
เพล้ง!!!
"สมควร นี่ค่าเสียหาย" มือเล็กล้วงเงินปึกใหญ่ในกระเป๋าฟาดใส่ร่างชายผู้นั้นอย่างไม่แยแส ก่อนจะหันไปสนใจชายอีกคนที่ทำให้เธออารมณ์เดือดไม่ต่างกัน
"สนุกไหมที่เห็นคนถูกลวนลามต่อหน้าต่อตา แล้วไม่ทำห่าอะไรเลย!?"
คนถูกจ้องมองตาขวางเดินเข้ามาใกล้ จ้องเธอกลับราวกับนักล่าที่เพิ่งเจอเหยื่อถูกใจ
"เธอไม่ใช่คนอ่อนแอ ฉันไม่จำเป็นต้องช่วยอะไรคนที่จัดการเองได้"
"แต่คุณจะดูถูกคนอื่นด้วยคำพูดแบบนั้นไม่ได้!"
"แล้วจะให้พูดว่าอะไรล่ะ?"
เทลวินโน้มใบหน้าลงมาหาเธอ เสียงลมหายใจของเขาร้อนจัด กลิ่นน้ำหอมแพงเจือด้วยกลิ่นบุหรี่จาง ๆ สะกิดปลายจมูกเธอ
"ให้พูดว่า...เธอน่าเย็....ดีนะเวลาโกรธ แบบนี้ดีมั้ย?"
ไลลาเบิกตากว้าง อ้าปากค้างด้วยความตกใจ คำพูดของเขาอุกอาจแต่แฝงความเร้าใจในแบบที่เธอไม่เคยเจอจากผู้ชายคนไหน
"หึ~ น้ำหน้าอย่างคุณเนี่ยนะ" ริมฝีปากสีสดยกยิ้มมุมปาก แต่สายตาที่มองนั้นกลับแฝงไปด้วยความท้าทาย
เทลวินยืนนิ่งไร้การโต้ตอบ แต่ก่อนที่เขาจะเดินผ่านไป คนตัวสูงก็หันมาเอ่ยทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงมั่นใจ และดวงตาที่เปล่งประกายลึกซึ้ง
"น่าสนุกดี ฉันชอบ"
ไลลายืนตัวแข็งไปครู่หนึ่ง ดวงตาคมเฉียบยังจ้องเขม็งไปยังชายตรงหน้า แต่ไม่ได้มีแค่โทสะ หากยังเจือไปด้วยความอยากรู้ และแปลกใจในความกล้าหน้าด้านของเขา
เธอสูดลมหายใจเบา ๆ ยกคางขึ้นอย่างถือดี แล้วถามเสียงเรียบ
"คุณชื่ออะไร?"
คำถามนั้นทำให้เทลวินยิ้ม มุมปากกระตุกขึ้นอย่างพอใจเล็กน้อย แม้คำถามจะธรรมดา แต่ในความคิดของเขา มันคือสัญญาณแรกที่บอกว่า เธอเองก็ไม่ต่างจากผู้หญิงพวกนั้น พวกที่อยากรู้อยากลองกับเขา ทั้งที่ปากแข็งนักหนา
"เทลวิน" เขาตอบโดยไม่แม้แต่จะหลบสายตา ดวงตาสีเทาเข้มมองเธอราวกับนักล่าที่พอใจในเหยื่อดื้อด้านตรงหน้า
ไลลาเลิกคิ้วข้างหนึ่งอย่างเหยียดหยัน แล้วเดินเข้ามายืนตรงหน้าเขา ใกล้พอให้เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นกายหอมเย็นจากน้ำหอมกลิ่นกุหลาบดำและวานิลลา กลิ่นที่น่าหลงใหลแต่แฝงพิษไว้ทุกหยด
ก่อนริมฝีปากอวบอิ่มจะขยับช้า ๆ โดยไม่เปล่งเสียง
"ไอ้เหี้ย เทลวิน"
"...." เทลวินมองการเคลื่อนไหวของริมฝีปากเธอชัดเจน ทุกคำ ทุกพยางค์
และแทนที่จะโกรธ เขากลับรู้สึกบางอย่างพุ่งวาบในอก ความตื่นเต้น ความอยากได้ และความรู้สึกเหมือนโดนท้าทายอย่างรุนแรง
ดวงตาของเขาไม่ละจากใบหน้าเธอแม้แต่นิดเดียว จิตใจเหมือนมีคลื่นไฟฟ้าไหลพล่านอยู่ใต้ผิวหนัง ร่างกายของเขาตื่นตัวทุกตารางนิ้ว ไม่ใช่แค่เพราะรูปลักษณ์เธอ แต่มันคือพลังบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัวเธอ รวมถึงแรงพยศที่อยากให้ใครสักคนจับกดให้ยอมศิโรราบ
เขาโน้มตัวลงเล็กน้อย ยกมือแตะเบา ๆ ที่คางของคนตัวเล็กกว่า ปลายนิ้วเย็นจัดไล้ผ่านผิวเธอแค่ชั่วแวบ แต่พอจะทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
"เร้าใจชะมัด"
หลังจากคำพูดนั้นหลุดออกมาจากปาก มือของเขาก็ถูกปัดทิ้งอย่างไม่ใยดี พร้อมกับร่างบางที่หมุนตัวกลับอย่างไม่สบอารมณ์นัก แต่นั่นกลับทำให้เทลวินรู้สึกว่า...ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ
