บทที่ 9 EP.9 เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละ
EP. 9 เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละ
หลังจากการปรากฏตัวของอดีน พร้อมกับมือถือรุ่นใหม่และรองเท้าเต็มคันรถ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เพื่อนสาวจะซักไซ้แบบไม่เว้นจังหวะ
"ไลลา แกต้องเล่าความจริงออกมาให้หมดแล้วหล่ะ" ณดายื่นมือถือให้ดู หน้าจอแสดงภาพผู้ชายชุดดำที่อยู่ในคลิปไลฟ์ของไลลาวันนั้น เทียบกับภาพอดีนตอนเดินเข้าคาเฟ่เมื่อกี้
"นี่มันคนเดียวกันชัด ๆ" แพทตี้เสริม
"เขาคือคนของคุณเทลวินแน่นอน!" ณดาพูดต่อแทบไม่เว้นช่องว่างให้ไลลาได้แก้ตัว
คนถูกจับผิดหลบสายตาเบา ๆ ริมฝีปากเม้มแน่น ก่อนถอนหายใจและพูดอย่างจำยอม
"ก็ได้...เขาคือคนของนายนั่น...คุณเทลวินจริง ๆ"
"แล้วไงต่อ?" ณดากอดอกเอียงคอมอง
"เขาทำมือถือฉันพัง แล้วก็ทำรองเท้าฉันหาย นี่เขาก็แค่เอามาชดใช้คืนให้ ก็แค่นี้" ไลลาพูดเรียบ ๆ ราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อย
"แกเจอเขาที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไมไม่เคยเล่าให้พวกเราฟัง?"
"จริง แล้วแกทำอะไรกับเขา ทำไมเขาถึงทำรองเท้าแกหายได้?" แพทตี้ถามต่อทันควัน
ไลลาชะงักนิดหนึ่ง สีหน้ากลายเป็นจริงจังขึ้นนิด ๆ ก่อนจะเบนสายตาไปทางหน้าต่างอย่างครุ่นคิด
"เจอวันไหนไม่รู้ ไม่ได้จำ แล้วก็ไม่ได้ไปไหน...มันมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยน่ะ รู้ตัวอีกทีส้นสูงฉันก็หายไปแล้ว" เธอเว้นจังหวะหายใจเล็กน้อยก่อนพูดต่อ
"เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้เห็นว่าคุณเทลวินอะไรนั่นจะน่าสนใจตรงไหนเลย ฉันก็เลยไม่ได้เก็บมาใส่ใจ"
เพื่อนสองคนสบตากัน สลับกับมองหน้าไลลาอีกครั้ง สีหน้าคล้ายเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง
"สรุป...มันใช่แค่นั้นจริงเหรอ เขาไม่ได้เข้ามาหลอกแกเพื่อหวังผลประโยชน์อะไรแน่นะ!"
"จะให้พูดยังไง ฉันดูเหมือนคนที่จะโดนหลอกง่ายเหรอ?" ไลลาหัวเราะนิด ๆ
"ไม่แน่ แฟนเก่าแกก็เคยหลอกให้แกเปย์มันเป็นล้านแล้วนี่" ณดายักไหล่
"อีณดา!!" ไลลาตวัดตามองทันที หน้าแดงอย่างกลั้นความอับอายไม่ทัน
"โอ๊ย ล้อเล่นน่า" ณดาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องในที่สุด เพราะรู้ว่าไลลาคงไม่เล่าอะไรให้มากกว่านี้อีกแล้ว
หลังแยกย้ายกันจากแก๊งเพื่อนสาว ไลลาก็ขับรถกลับบ้านโดยไม่ไปไหนต่อ คนตัวเล็กนั่งพิงพนักโซฟาเมื่อรู้สึกเพลียจนร่างแทบพัง
"คุณหนูคะ แล้วรองเท้าพวกนี้ จะให้จัดการยังไงดีล่ะคะ?" เสียงเปิดประตูห้องนั่งเล่นดังเบา ๆ ก่อนที่แม่บ้านคนสนิทจะเดินตรงเข้ามาพร้อมน้ำเสียงครุ่นคิด
บนพื้นพรมหรูมีถุงใส่รองเท้ากว่าร้อยถุงวางซ้อนเรียงราย บางถุงยังไม่แกะฉลากที่ห้อยระย้าเหมือนตั้งใจให้เป็นของขวัญสำหรับใครสักคน
ไลลานั่งกอดเข่าบนโซฟาหนังสีครีม เบือนสายตาไปทางกองของราคาแพงลิบ ก่อนถอนหายใจเงียบ ๆ
"เอาไปทิ้งซะ"
"ทิ้งเลยเหรอคะ! รองเท้าร้อยกว่าคู่เลยนะคะคุณหนู บางคู่พี่แป๋วดูแล้วแพงกว่าค่ารักษาตัวทั้งปีของพี่แป๋วอีกค่ะ"
"ถ้าเสียดาย จะเอาไปทำอะไรก็เชิญเลยค่ะ" ไลลาสะบัดหน้าขึ้นเล็กน้อย สบตากับแม่บ้านอย่างนิ่งเฉียบ
"ก็...ถ้าอย่างนั้น พี่แป๋วขอแบ่งไปให้เด็ก ๆ แถวนี้เถอะนะคะ ใส่ไม่ได้ก็เอาไปขายมือสอง เขาคงดีใจกันแย่เลย"
"อืม" ไลลาตอบรับเรียบ ๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบมือถือเครื่องใหม่ที่ถูกวางไว้อย่างสง่างามบนเคาน์เตอร์ห้องรับแขก
เธอเปิดเครื่องด้วยนิ้วเรียวยาว หน้าจอสว่างขึ้นทันที พร้อมเสียงแจ้งเตือนจากแอปต่าง ๆ ยังไม่ถึงห้านาที เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นทันที
"ว่าไง?" ไลลารับสาย เสียงยังคงเฉยชาแบบที่เป็น
"คืนนี้ไปดื่มกันเถอะแก เบื่อมาก อยากเปลี่ยนคู่นอน อุ๊ย! อยากเปลี่ยนบรรยากาศ"
"ไหนว่ากำลังจะลดหุ่นไง?"
"ลดจิตสำนึกมากกว่ามั้งตอนนี้!" เสียงหัวเราะร่าเริงของเพื่อนสาวดังลอดสาย ไลลาเงียบไปครู่ ก่อนจะยิ้มมุมปากเบา ๆ
"โอเค...รอฉันแต่งตัวแป๊บ"
ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา ไลลาก็ยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องแต่งตัว เดรสสายเดี่ยวผ้าซาตินสีขาวเนียนนุ่มแนบกับผิวทุกสัดส่วน เส้นผมยาวกลางหลังถูกรวบไว้ครึ่งศีรษะ ปล่อยปลายไหลลงแนบแผ่นหลัง เธอแต่งหน้าแบบไม่จัดนัก แต่ทุกเส้นทุกสีคมกริบอย่างมืออาชีพ ริมฝีปากแดงไวน์เซ็กซี่พอให้ผู้ชายหายใจติดขัดได้ในพริบตา
ร่างสมส่วนเดินลงมาด้านล่าง ก่อนจะเห็นลียายืนอยู่ริมประตูบ้าน กอดตุ๊กตาหมีตัวโปรดไว้ในอ้อมแขน
"แม่ถามถึงพี่นะ หนูเลยบอกว่าพี่สบายดีเหมือนเดิม"
"เหมือนเดิม?" ไลลาชะงัก หันมามองน้องสาวด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
"ก็ยังชอบทำหน้าตึง ยังแต่งหน้าจัด แล้วก็ยังเที่ยวเตร่เหมือนเดิมเลย"
"ลียา!" ไลลาขึ้นเสียงเล็กน้อยก่อนจะถลึงตาใส่น้อง "พูดมากนักนะเรา เดี๋ยวยึดมือถือซะเลยนี่"
"ก็แม่ถาม หนูตอบความจริง"
ไลลาสะบัดกระเป๋าใบเล็กขึ้นบ่า แล้วเดินตรงไปที่รถของตัวเอง ก่อนเครื่องยนต์จะคำรามเบา ๆ ลียาเพียงยืนมองพี่สาวที่ขับรถออกไปด้วยคนความเหงา
"ลืมบอกเรื่องนั้นเลย!" เด็กสาวพึมพำเบา ๆ ได้แต่มองไฟท้ายรถสปอร์ตคันหรูหายไปลับตา
เสียงเบสกระแทกลงตรงอกจนรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ไลลาก้าวลงจากรถสปอร์ตคันโปรดท่ามกลางแสงไฟนีออนหน้าผับดังใจกลางกรุงเทพมหานคร
ผู้คนมากมายแต่งตัวจัดจ้านเบียดเสียดเข้าคิว แต่สำหรับเธอกับเพื่อนสามคน ไม่ต้องรอคิวให้เหนื่อย แค่เพียงเจ้าหน้าที่เห็นหน้าก็โค้งรับแล้วพาเข้าไปด้านในทันที
และทันทีที่ประตูเปิดออก...โลกอีกใบก็เริ่มต้น
ภายในผับตกแต่งด้วยไฟ LED หลากสีที่ไล่เฉดกัน แสงสีน้ำเงินฉาบทับบนร่างนักเต้นที่ขยับตัวอย่างไร้จังหวะแต่เร้าใจ เครื่องพ่นควันไอน้ำพ่นฟุ้งเป็นระยะตามจังหวะดนตรี EDM ที่เปลี่ยนบีตอย่างไม่มีพัก
กลิ่นแอลกอฮอล์เจือกลิ่นน้ำหอมราคาแพงปะปนกับควันบุหรี่ลอยกรุ่นอยู่ในอากาศ ผู้คนโยกตัวตามจังหวะไฟสลัว ร่างกายแนบชิดแทบจะกลืนกันเป็นหนึ่งเดียว
ไลลากับเพื่อนเดินไปยังโซนวีไอพีที่ถูกจองไว้แล้ว โซฟานุ่มสีดำขลับวางรายล้อมโต๊ะหินอ่อนวาววับที่วางเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายขวดรออยู่ก่อนหน้า
หญิงสาวหยิบแก้วมาร์ตินีขึ้นจิบเบา ๆ รสขมอมหวานแตะปลายลิ้น ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้เพื่อนในท่าทีที่ดูผ่อนคลายมากกว่าทุกครั้ง ต่างจากปกติที่มีหน้ากากความหยิ่งทระนงสวมอยู่ตลอด
สายตาคนในผับเหลือบมองโต๊ะวีไอพีสาวสวยอย่างไม่อาจละสายตา และแล้ว...ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินตรงเข้ามา
เขาสูงพอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป ชุดสูทลำลองสีดำสนิทเน้นให้รูปร่างดูดีไปหมด หน้าตาคมเข้ม ผิวสีน้ำผึ้ง ดวงตาคู่สวยแฝงรอยเจ้าเล่ห์ ยิ้มมุมปากขณะยื่นแก้วเหล้าส่งให้
"สำหรับสาวสวยที่ทำให้ทั้งผับหยุดหายใจได้ในค่ำคืนนี้"
ไลลามองเขานิ่ง ไม่รับแก้ว ไม่ยิ้ม แต่ก็ไม่ปฏิเสธ เธอเอนตัวเล็กน้อย พลิกมือหยิบแก้วของตัวเองขึ้นมาแทน
"ฉันไม่รับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า…โดยเฉพาะคนที่มั่นหน้าว่าตัวเองหล่อ"
"งั้นแนะนำตัวหน่อยดีไหม จะได้ไม่แปลกหน้าแล้ว" เขาหัวเราะเบา ๆ ไม่รู้สึกโกรธกับประโยคแรกของคนสวย แต่กลับชอบใจจนอยากสานต่อความสัมพันธ์
ไลลาวางแก้วลง หรี่ตาเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบาง ๆ
"ก็ได้ แต่แค่ชื่อพอ เดี๋ยวคุณจะตกหลุมรักฉันแล้วไปทำชีวิตพังเอา"
เขาหัวเราะออกมาอีกครั้ง แล้วขยับเข้ามาใกล้ ส่วนไลลาเองก็ไม่ได้ถอยหนี ก่อนทั้งคู่จะเริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้น แต่อยู่ในระดับที่คนถือเนื้อถือตัวอย่างไลลาจะยอมให้เป็น
"เขาดูดีนะ ว่าไม่ได้" ไลลาวางแก้วลง มองตามร่างสูงที่เพิ่งเดินแยกออกไปท่ามกลางแสงสีวิบวับ
"แหงสิยะ! นั่นมันคุณเดล ลูกชายเจ้าของสายการบิน เขาดูแลดีลธุรกิจฝั่งเอเชีย เขาไม่ได้แค่หล่อ แต่คือทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งโคตรจะเนื้อหอม!" ณดาผู้หยั่งรู้เอ่ยขึ้นอย่างละเอียดตามเคย
"โอ๊ยยย ขนาดเดินยังดูรวย...แล้วบนเตียงจะขนาดไหนเนี่ย!" แพตตี้พูดขึ้นพลางเอนตัวพิงเบาะอย่างเว้าวอน
"แกก็รู้ดีจังเลยนะณดา ส่วนแกแพทตี้ เบาได้เบาลงบ้างนะเรื่องบนเตียงน่ะ" ไลลาหัวเราะเบา ๆ เอียงแก้วไวน์จิบอย่างมีจริต
"เรื่องแบบนี้ใครเขาเบากันล่ะไลลา" แพทตี้หัวเราะลั่น ตราบใดที่แหวนยังไม่สวมลงที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างหวังว่าจะหยุดคนอย่างแพทตี้ได้
"ว่าแต่แกเถอะ กะจะซิงอยู่แบบนางพญาไปถึงเมื่อไหร?"
"เฮ้ย! ใครบอกฉันซิง…" ไลลาแสร้งทำหน้าตกใจแล้วเอามือปิดหน้าแก้มร้อนผ่าว
"โอ๊ย ไม่ต้องมา! พวกฉันก็อยู่กับแกมาตั้งกี่ปี! แต่บทจะเสียตัวก็ดันไปคบเกย์ซะงั้น ถามจริงมันเคยจูบแกมั้ย" เสียงหัวเราะระลอกใหม่ดังขึ้นในกลุ่ม ก่อนที่พนักงานหญิงชุดดำจะเดินเข้ามาอย่างสุภาพ ก้มตัวเล็กน้อยพร้อมถือกระดาษโน้ตพับเรียบร้อยหนึ่งแผ่นไว้ในมือ
"ขออภัยนะคะ...คุณไลลาใช่ไหมคะ?"
หญิงสาวเหลือบตามองอย่างระแวงนิดหน่อย "มีอะไรเหรอ?"
"มีแขกท่านหนึ่ง...รอคุณอยู่ที่ชั้นรูฟท็อปค่ะ เขาฝากกระดาษใบนี้ให้คุณ"
เสียงเพลงในผับยังคงดังอยู่ แต่ในหัวไลลาเงียบสนิท เธอชะงักนิ่งจังหวะหัวใจเต้นแรงแปลก ๆ และก่อนจะเอ่ยอะไร ณดาก็ชะโงกหน้ามาแย่งกระดาษไปอ่านก่อนจะอุทาน
"อยากพบคุณอีกครั้ง"
