บทที่ 10 ตอนที่10
หมับ
“นี่แกมาจับฉันทำไม?!”ฉันหันไปเอ่ยถามมือดำๆใหญ่ของคนที่ฉันชนเมื่อกี้นี้ด้วยความไม่พอใจและขยะแขยงกลิ่นตัวแรงมากไม่เห็นหอมเหมือนกับอีตาบ้าที่ยืนทำหน้าโหดๆอยู่ตรงหน้าฉัน
“อุ๊ย!เล่นของแหลมซะด้วย”ฉันเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงตื่นเต้นที่รู้สึกเย็นๆที่ต้นคอด้านหน้าของฉันตรงคอหอยอ่ะ เพราะไอ้คนตัวเหม็นมันมาโอบตัวฉันไว้และใช้มีดจ่อคอฉัน
“เห้ย!อย่าทำอะไรยัยนี่น่ะเว้ย!”ตาบ้านั้นร้องเอ่ยห้ามไอ้คนที่มันเอามีดจ่อฉัน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจเขายกมือขึ้นมาห้ามไม่ให้ไอ้นี่ทำอะไรฉัน
“แกต้องการอะไรจากฉัน?”ฉันเอ่ยถามมันไปอย่างไม่เกรงกลัว ฉันน่ะไม่ได้จะตายเพราะโดนมีดบาดคอหรอกน่ะแต่จะตายเพราะกลิ่นตัวเหม็นๆของมันนี่แหละ!
“ไม่ใช่เรื่องที่แกจะต้องรู้ แกมีหน้าที่ไปเจอนายฉันแค่นั้นพอ”มันตอบฉันมาฉันนี่แทบจะเป็นลม กลิ่นตัวแรงไม่พอกลิ่นปากแรงมากกว่ากลิ่นตัวอีก
“คุณฉันกำลังจะตายแล้ว”ฉันเหลือบตาไปมองอีตาหน้าหล่อรอยสักเต็มต้นคอและหน้าอกด้วยสายตาเศร้าๆเขาก็มองมาที่ฉันแววตาของเขาสื่อถึงความห่วงใย
“มันยังไม่ได้เอามีดกรีดคอคุณเลยน่ะ คุณจะตายแล้วเหรอ?”เขาเอ่ยถามฉันพลางขมวดคิ้วจนจะผูกกันเป็นปม
“มันใช่เวลามากวนไหม ฉันจะตายเพราะกลิ่นตัวกับกลิ่นปากมันเนี่ย เหม็นชิบอ๊าย!!”ฉันเอ่ยเสร็จพร้อมกับย่นจมูกและทำท่าพะอืดพะอมจะอ้วกเต็มทน
“อ้าวเหรอ เห้ยมึงก็บอกมาว่าต้องการยัยตัวคุณหนูนี่ไปทำอะไร?”เขาเอ่ยถามไอ้กล้ามโตบึกบึนที่โอบร่างฉันไว้ด้วยสายตาจริงจัง
“กูบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องของมึง!”มันตอบนายนั้นไป
“คุณไม่ต้อถามมันมากแล้ว ฉันเหม็นจนจะไม่อยากหายใจอยู่แล้วเนี่ย!!”ฉันตะโกนแหกปากบอกหมอนั้นไป
เฉือก
“โอ้ย!”ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บ เมื่อรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบที่แล่นลงไปลนลำคอของฉันและความเย็นของปลายมีดที่คมกริบ
“เห้ย!มึงฆ่ามันไม่ได้น่ะเว้ย เดี๋ยวมึงก็โดนนายฆ่าตายหรอก!!”เสียงเพื่อนของมันอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงตกใจ
“เห้ยคุณ!!”ตานั้นเอ่ยเรียกฉันพลางทำสีหน้าตกใจ ฉันก็มองเขาพลางเบะปากเหมือนจะร้องไห้
“เจ็บเหรอ?”เขาเอ่ยถามฉัน
“เปล่า”ฉันก็ตอบเขาไป เขาก็ยิ่งขมวดคิ้วงุนงงขึ้นไปอีก
“แล้วร้องทำไม?”
“กลัวเสียโฉม”ฉันบอกเขาไปตามความจริง เขาก็ทำสีหน้าเบื่อโลกใส่ฉันพลางผ่อนลมหายใจอย่างแรงออกมา
“เอาตัวมันไป!!”เสียงสั่งการของเพื่อนมันเอ่ยขึ้น ทำให้ไอ้ร่างยักษ์ที่คงอยู่ในความตกใจที่ทำฉันบาดเจ็บได้สติ
พรึบ
ฉันเอื้อมมือมาตวัดจับมือที่ไอ้ดำมันถือจ่อมีดไว้ที่คอฉันและออกแรงหักมือมันให้ปล่อยจากฉันและฉันก็ใช้ร่างกายเบนตัวออกมาทำให้ฉันหลุดจากการจับกุมของมันได้
“แกคิดว่าทำฉันเสียโฉมแล้วฉันจะปล่อยพวกแกไปง่ายๆอย่างงั้นเหรอ?”ฉันเอ่ยถามขึ้นด้วยนำ้เสียงเดือดจัด พวกมันสิบกว่าคนทำสีหน้าตกใจและทุกคนก็หยิบปืนพกออกมาจากที่เก็บจ่อมาที่ฉัน
“เห้ยคุณ!”นายนั้นเอ่ยเรียกฉันด้วยนำ้เสียงตกใจ
“คุณคอยดูไว้ล่ะกัน อย่าพลาดกระพริบตาเลย”ฉันหันหน้าไปมองอีตาบ้านั้นพลางเอ่ยบอกเขาให้จับต่ดูฉันไว้ให้ดีๆเขาก็ทำสีหน้าตกใจ ฉันจึงส่งจูบให้เขาทำสายตาเซ็กซี่และหันกลับมาให้ความสนใจกับชายชุดดำที่อยู่เบื้องหน้าฉันต่อ
“เห้ยๆอย่ายิงน่ะเว้ย ไม่งั้นนายเอาพวกเราตายหมดแน่”
“นายพวกแกเป็นใคร?”ฉันเอ่ยถามพวกมันไปด้วยความสงสัยฉันเพิ่งจะมาอยู่ที่นี้เองน่ะ ยังไม่รู้จักใครสักคนแม้กระทั่งไอ้คนที่พาฉันวิ่งหนีฉันยังไม่รู้จักชื่อเขาเลย
“เป็นใครก็ได้ที่แกไม่จำเป็นต้องรู้!”หนึ่งมนชายชุดดำร่างบึกบึนและกลิ่นตัวเหม็นแรงเอ่ยบอกฉันมา ฉันก็พยักหน้าเข้าใจ
“แสดงว่าพวกแกจะไม่บอกฉันใช่ไหม?”
“ใช่!”พวกมันพร้อมใจกันผสานเสียงเป็นเสียงเดียวกัน ฉันจึงกรีดรอยยิ้มเยือกเย็นขึ้นมาสายตาของฉันจับจ้องไปที่ด้านหน้าของขอบกางเกงของไอ้ร่างบึกบึนที่ขอบกางเกงของมันมีปืนพกสั้นสองกระบอก
“มองอะไรว่ะ!”มันเอ่ยถามฉันมาพลางยื่นมือไปปิดเป้ากางเกงของมันอย่างไว
“เปล่าหนิ ฉันพร้อมแล้วเข้ามาจับฉันสิ”ฉันบอกมันไปพร้อมกับยื่นแขนทั้งสองข้างของตัวเองไปข้างหน้าเพื่อให้มันมาจับฉันไป
“คุณจะบ้าป่ะเนี่ย ทำอะไร!!”อีตาบ้านั้นหลังจากที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยตะโกนถามฉันมาด้วยนำ้เสียงตื่นตะหนก แต่ฉันไม่ได้สนเขากลับเดินมุ่งตรงไปยังกลุ่มชายชุดดำนั้น
พรึบ แกร๊ก แกร๊ก
ฉันมุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างไวและไม่รอช้ายื่นมือทั้งสองข้างไปหยิบปืนพกที่ขอบกางเกงของไอ้ร่างบึกบึนนั้นและจ่อปืนเล็งยิงไปที่กลุ่มชายชุดดำพร้อมกับกราดยิงปืนทั้งสองกระบอกไปพร้อมๆกันโดยที่ฝ่ายมันยังไม่ทันได้ตั้งตัว
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พรึบ ตุ๊บ
“เอือกกกก”
