บทที่ 11 ตอนที่11
“เห้ย!!!”เสียงร้องด้วยความตกใจคนที่ยืนอยู่ด้านหลังฉันร้องอุทานขึ้นหลังจากที่ฉันกราดยิงร่างของชายบึกลึนนับสิบคนนอนล้มตายกันเกลื่อนพื้น
“จิตใจโหดเกิ๊น!”เขาเอ่ยขึ้นพลางถอยหลังหนีฉัน ฉันก็กระตุกรอยยิ้ม
พรึบ
“นี่สำหรับที่แกทำให้คอของฉันเสียโฉม!!”ฉันโยนกระบอกปืนพกทั้งสองกระบอกลงไปบนร่างของไอ้คนตัวเหม็นนั้นพลางเอ่ยบอกมันไปด้วยนำ้เสียงโกรธแค้น
“นี่คุณ!”เสียงเรียกและแรงสะกิดแขนฉัน ทำให้ฉันหันไปมองเขา เขาที่มีสีหน้าตื่นตกใจและสะดุ้งเล็กน้อยหลังจากที่เราสองคนสบสายตาเข้ากัน
“อะไร?”
“ทำไมคุณเก่งจัง?”
“ฉันเคยยิงแต่ปืนของปลอมไม่คิดว่าของจริงไกมันจะแข็งขนาดนี้”ฉันบอกเขาไปพลางค่อยๆเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนฟุตบาทข้างทางอย่างคนหมดแรง
“เป็นอะไรอ่ะคุณ?”เขารีบเดินเข้ามาหาฉันพลางเอ่ยถามฉันด้วยความตกใจ
“ฉันกำลังจะเป็นลม”ฉันบอกเขาไปด้วยนำ้เสียงและสายตาที่อิดโรย
“เห้ย!เมื่อกี้เห็นยังเก่งอยู่เลยนะ!!”
“แต่ฉันเจ็บแผลมากเกินไป”ฉันบอกเขาไปตามความจริง
“เจ็บแผล?”เขามองฉันด้วยสายตาแปลกใจและสงสัยเขามองสำรวจร่างกายฉันเพื่อหาบาดแผลที่ฉันบอก
“ผมไม่เห็นบาดแผลของคุณตรงอื่นนอกจากที่คอ”เขาบอกฉันมาพลางทรุดตัวลงนั่งยองๆตรงหน้าฉัน
“ฉันรู้สึกเจ็บที่ตรงนี้”ฉันเอ่ยบอกเขาไปพลางใช้มืออีกข้างจับชายเสื้อสูทของเขาให้พ้นออกไปจากไหล่ข้างขวาของฉัน
“เลือด!”ทันทีที่ชายเสื้อสูทหลุดออกจากไหล่ออกฉันก็ปรากฏรอยเลือดสดมากมายไหลออกมาจากหัวไหล่ฉัน
“คุณโดนยิงที่ไหล่?”เขายื่นมือไปจับแขนฉันเพื่อดูบาดแผล
“คงเป็นตอนที่ฉันเล่นท่าเยอะไปหน่อย จนลืมระวังตัวพวกมันยิงสวนกลับมา”ฉันบอกเขาไปและหันหน้าหนีบาดแผลตัวเอง
“เอ้า!”
“ฉันเจ็บฮืฮๆๆๆๆ”ฉันปล่อยโฮนำ้ตาไหลออกมา เกิดมาไม่เคยโดนยิงเลย เจ็บอะไรขนาดนี้
“เห้ย!คุณ”
“ฮืฮๆๆๆ”
“ทำไมผู้หญิงมันอ่อนแอขนาดนี้ว่ะเนี่ย!!”เขาบ่นอุบด้วยความหงุดหงิดและเขาก็ลุกขึ้นถอดเสื้อเชิ้ตตัวสีชาวของตัวเองออกมาจนเผยให้เห็นแผงอกสุดเซ็กซี่ขาวยิ่งกว่าสีเผือกอีกน่ะเนี่ย ทั้งขาวทั้งเนียน
“เช็ดน้ำลายด้วย”
“ซู๊ด อีตาบ้า!!”ฉันซูดน้ำลายกลับเข้าไปในปากพลางร้องด่าเขาและนั่งร้องไห้ต่อเพราะเขาใช้เสื้อของเขาอีกออกเป็นเส้นยาวๆเพื่อเอามารัดบาดแผลฉัน
พรึบ
“ขึ้นหลังผม ผมจะพาไปหาหมอ!”เขาบอกฉันหลังจากที่เขามานั่งยองๆลงตรงหน้าฉันแล้วหันหลังเปลือยเปล่าโชว์ฉัน
“มันจะดีเหรอ?”
“มาหวงเนื้อหวงตัวอะไรตอนนี้กันคุณ!!”เขาโวยใส่ฉันเสียงดัง ฉันจึงสะดุ้งและกระโดดขี่หลังเขาอย่างไว
พรึบ
“เกาะไว้ดีๆระวังตก!”เขาบอกฉัน ฉันก็เอื้อมมือไปคว้าคอเขาและเอนใบหน้าซบลงไปบนไหล่กว้างของเขา กลิ่นกายหอมๆลอยปะทะเข้าจมูกฉัน หอมจัง
“ผู้ชายอะไรตัวห๊อมหอม^_^”ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับอมยิ้มเอาใบหน้าซุกลงไปกับซอกคอหอมๆของอีตานี่ หอมจริงๆน่ะ มันบรรยายเป็นกลิ่นเฉพาะไม่ได้แต่มันหมอมากจริงๆ
“โรคจิตว่ะคุณ!!”เขาเอ่ยขึ้นแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรฉัน
“แล้วทีคุณล่ะ จับก้นฉันและบีบอีก!”ฉันก็โวยใส่เขาไป ก็มันจริงหนิ อีตาบ้านี่ให้ฉันขี่หลังเขาและส่วนมือก็จับก้นฉัน
“ผมช่วยพยุงไม่ให้คุณตกหรอกน่ะ!!”เขาเถียงฉัน แต่ฉันขี้เกียจฟังหลับตาลงเพราะฉันจะได้ไม่เจ็บถ้าฉันหลับ
“อย่าพูดมาก ฉันจะนอน!”ฉันบอกเขาไปและเขาก็พึมพำอะไรๆไม่รู้เบาๆ เขาพาฉันเดินไปตามทางที่เขาพาฉันวิ่งมา ฉันว่ากว่าเขาจะพาฉันไปถึงโรงพยาบาลมีหวังเลือดฉันออกหมดตัวแน่!
ซาโนะ มิซาโนะ....
เพนท์เฮ้าส์ซาโนะ
“ลูกสาวของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ?”เสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของคนเป็นพ่อทำให้ผมลุกขึ้นยืนและหันไปโค้งศีรษะให้ท่านนายกตามธรรมเนียม ถึงผมจะยังไม่ค่อยเชื่อใจและไว้ใจเขาแต่ผมก็ไม่คิดว่าเขาน่าจะเลวร้ายอะไร เพราะผมเห็นว่ามีคนลอบทำร้ายเขากับลูกของเขาจริงๆตามจดหมายที่เขาเขียนส่งมาขอความช่วยเหลือจากผม
“ยังไม่ฟื้นเลยครับ”ผมตอบท่านมิซานไปตามความจริง เขาเดินมาพร้อมกับพ่อของผม ผมจึงหันไปมองพ่อของผมและโค้งตัวให้ท่านด้วยความเคารพ
“ผมขอเข้าไปดูลูกสาวของผมได้ไหมครับ?”ท่านมิซานหันมาเอ่ยถามผมด้วยสีหน้าเศร้าๆหน้าตาและเเววตาของเขาดูไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไร
“เชิญครับ”ผมผายมือเชื้อเชิญให้ท่านมิซานได้เข้าไปในห้องนอนที่มีร่างของโยโกะจังนอนหลับอยู่ กระสุนถูกฝังเข้าไปในหัวไหล่ของเธอทำให้กระดูกได้รับความเสียหายมากแต่หมอได้ผ่าเอาลูกกระสุนออกมาแล้ว ที่นี้ก็แค่รอดูว่าข้อหัวไหล่เธอจะเป็นยังไงบ้าง แต่หมอให้เข้าเฝือกไว้ก่อนเพื่อให้กระดูกต่อกันติดง่ายขึ้น
“ขอบคุณครับ^_^”ท่านมิซานโค้งตัวให้ผม ผมก็โค้งตัวกลับไปให้เขา เขาก็เดินเข้าไปในห้องนอนโดยมีลูกน้องของผมคอยเปิดประตูให้เขาเข้าไป
“เฮ้อ บ้านเมืองคงไม่สงบเหมือนเดิมแล้วลูก”เสียงพ่อของผมเอ่ยขึ้นด้วยความเหนื่อยใจที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ ผมจึงหันไปมองท่านความสงสัย
“หมายความว่ายังไงครับพ่อ?”ผมเอ่ยถามพ่อไปในขณะที่ท่านทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาขนาดใหญ่ ผมจึงนั่งลงฝั่งข้างๆกับท่าน
“มิซานน่ะ เป็นเพื่อนพ่อตอนเรียนมหาลัยด้วยกันและแม่ของหนูโยโกะก็เป็นเพื่อนกับแม่ของปลายฟ้าทำให้เราสองคนรู้จักกันและสนิทกันมากขึ้น”พ่ออธิบายให้ผมฟัง ผมก็พยักหน้าฟังพ่อ
