บทที่ 2 ตอนที่2

“ผมจะได้ไปเคลียร์ทางให้นาย”คิวะเอ่ยถามผมด้วยนำ้เสียงเป็นห่วง เพราะตอนนี้ตระกูลของผมได้กลับไปยิ่งใหญ่กว่าเดิมทั้งธุรกิจด้านในและนอกประเทศ ทำให้ผมมีศัตรูเยอะขึ้นอีกเท่าตัว

“ฉันไม่ค่อยอยากไป รู้สึกไม่ค่อยดี”ผมบอกไปตามความรู้สึก ถ้าจะมีลางร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ผมจะรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี และตอนนี้งานทุกอย่างของไอ้ริวก็ตกเป็นของผมเพราะผมให้มันเลือกระหว่างเมียผู้เป็นที่รักของมันกับงานที่เป็นทุกอย่างในชีวิตมันว่ามันจะเอาอะไร และคำตอบของไอ้ริวก็เป็นไปอย่างที่ผมหวัง เพราะมันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อไปดูแลปลายฟ้า ที่ผมทำเเบบนี้เพราะผมอยากให้มันและปลายฟ้าอยู่อย่างมีความสุขไม่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงทุกวันผมไม่อยากเห็นน้องสาวของผมต้องร้องไห้ทุกๆวันในตอนที่สามีออกไปทำงานข้างนอก และเราก็ไม่รู้เลยว่าจะว่าจะมีชีวิตกลับมาหาครอบครัวรึเปล่า ผมจึงต้องเลือกทุกอย่างให้น้องผมได้อยู่อย่างสุขสบายและไอ้ริวมันก็ยอมทุกอย่างเพื่อปลายฟ้า

“ครับนาย งั้นผมจะโทรไปเรียนท่านนายกให้นะครับ”

“ขอบใจมาก ฝากด้วยนะ”

“ครับ ผมขอตัว”คิวะตอบผมและเขาก็ก้มหัวให้ผมอย่างเคารพและเดินออกไปจากห้องทำงานของผม ผมเมื่อคิวะออกไปแล้ว ก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่พร้อมหลับตาลง และทุกครั้งที่ผมหลับตาลงแบบนี้ใบหน้าของผู้หญิงที่ผมรักหมดหัวใจก็ลอยเข้ามาในความคิดผม ภาพความทรงจำเก่าๆประมวลให้ผมเห็นในวันเวลาที่ผมได้ใช้ชีวิตอยู่กับเธออย่างมีความสุขแต่แล้วผมก็ต้องตื่นจากความฝัน เพราะเธอคนนั้นทิ้งผมไปแล้ว และไม่มีวันที่เธอจะกลับมาหาผม ไม่สิ เธอเคยบอกผมหนิว่าถ้าผมโด่งดังมีชื่อเสียงและร่ำรวยเธอจะกลับมาหาผม และตอนนี้ผมก็มีทุกอย่างไม่ว่าจะชื่อเสียงเงินทองและไม่มีสิ่งไหนที่ผมอยากได้และไม่ได้มัน! ผมรีบหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของผมกดโทรหาซาต้าอย่างไวทันทีที่คิดได้

ติ๊ดดดด

(ฮะฮัลโหลครับนายน้อย)เสียงทุ้มและสั่นเครือของลูกน้องคนสนิทฝั่งซ้ายของผมเอ่ยตอบกลับมาหลังจากที่ผมรอสายมันอยู่พักหนึ่ง มัวทำอะไรอยู่กว่าจะรับได้

(ใครกันเหรอคะ?)เสียงหวานของผู้หญิงไทยเอ่ยสวนขึ้นมาทำให้ผมถึงกับส่ายศีรษะไปมาอย่างนึกรำคาญใจ

(เอ่อ...คือเสียงผมน่ะครับนาย)มันโกหกผมเหมือนผมโง่!

“จะเสียงใครก็ช่าง งานที่ฉันสั่งแกให้ทำไปถึงไหนแล้ว?”ผมกดเสียงต่ำทำเป็นเข้มและดุดันใส่ไอ้ซาต้าไป เสียงมันล่อกแล่กๆเหมือนกลัวว่าผมจะดุด่ามันและตามด้วยเสียงกุกๆกักๆเหมือนซาต้ามันกำลังเดินไปที่ไหนสักแห่ง

“ใกล้ได้เรื่องแล้วครับนาย ตอนนี้ผมกำลังหาข้อมูลอยู่ครับ”เสียงกุกๆกักๆหายไปพร้อมกับเสียงของซาต้าตอบผมกลับมา ทำให้ผมรู้ว่ามันคงจะเดินออกมาจากผู้หญิงคนนั้นเพื่อมาคุยโทรศัพท์กับผม มันจะเดินออกมาเพื่อ?ทั้งๆที่การสนทนาของเราเป็นภาษาญี่ปุ่น

“หาข้อมูลอะไร?”ผมถามไอ้ซาต้าไปอย่างทันควัน

“ก็หาข้อมูลผู้หญิงของนายยังไงละครับ”ไอ้ซาต้าตอบผมกลับมาด้วยนำ้เสียงภาคภูมิใจ ผมกลอกตามองบนด้วยความเวอร์ของมัน

“แล้วไปหากับผู้หญิงกลางคืน?”ผมถามมันไปอย่างสงสัยและรู้ทันมันไปในตัว

“เปล่าครับนาย ที่ผมต้องลงทุนเปลืองเนื้อเปลืองตัวก็เพื่อข้อมูลใหม่ของนายหญิงเลยนะครับ”ไอ้ซาต้าเอ่ยกลับมา ทำให้ผมยิ่งขมวดคิ้วงุนงงเข้าไปอีก มันพูดเรื่องอะไรของมัน? มินตราไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับผู้หญิงกลางคืน?

“ฉันไม่เข้าใจ”

“งั้นเอาเป็นว่าอีกสองวัน ผมจะติดต่อกลับไปหานายนะครับนายรอฟังข่าวดีได้เลย สวัสดีครับนาย”ไอ้ซาต้าเอ่ยเสร็จมันก็วางสายใส่ผมอย่างไว

“ไอ้ห่านี่!”ผมโวยขึ้นอย่างนึกขัดใจและสายตาของผมก็เหลือบไปมองกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของผม ในรูปนั้นมีผู้หญิงผมยาวตัวเล็กกำลังยืนส่งยิ้มให้ผมอยู่

พรึบ

“อีกไม่นาน ผมจะทำให้คุณกลับมาอยู่กับผมอีกครั้งมินตรา”ผมหยิบรูปของมินตรามาพลางเอ่ยบอกคนในรูปถ่าย เธอคือผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ผมรักและเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมคิดถึงได้มากมายขนาดนี้ เรื่องของเรามันเกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน ตอนที่ผมไปเรียนที่มหาลัยที่ประเทศไทยเพื่อจะคอยดูแลน้องสาวคนเดียวของผมได้ถนัดมอบความรักความอบอุ่นให้เธอ และผมก็ได้เจอกับผู้หญิงไทยที่แสนดีอ่อนหวานน่ารักอย่างมินตรา เธอทำให้ผมอยากจะขอเธอแต่งงานและชวนมาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยกัน แต่ในตอนนั้นผมต้องปิดบังสถานะของตัวเองเพื่อศึกษาเรียนให้จบหลักสูตรของมหาลัยตามคำสั่งของพ่อผม

“และในครั้งนี้ ผมไม่ใช่เด็กแว่นอ่อนแอคนนั้นอีกแล้ว แล้วพบกันว่าที่นายหญิงของซานโต้^_^”ผมพูดขึ้นและเอารูปถ่ายเมื่อสิบปีก่อนของมินตรามาไว้ในอ้อมกอดของผมด้วยความคิดถึง นานแล้วที่เราห่างกัน นานแล้วที่

เราไม่ได้เจอกัน

“ผมคิดถึงคุณ มินตรา...”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป