บทที่ 3 ตอนที่3

คฤหาสน์ มิยาชิตะ

15:30น.

ต้นฝน ซาโยโกะจัง...

พรึบ ตุ๊บ ตั๊บ

“หึ!”ฉันหัวเราะขึ้นหลังจากที่จัดการล้มบอดี้การ์ดคนที่สิบของพ่อได้สำเร็จ

“เหอะนี่น่ะเหรอบอดี้การ์ดของท่านนายกรัฐมนตรี!”ฉันพูดขึ้นอย่างนึกสมเพชและเริ่มมองหาทางออกและก็พบกับประตูบานเหล็กข้างรั้วอันใหญ่ ฉันยิ้มขึ้นมาอย่างมีความหวัง ถ้าฉันออกไปจากบ้านหลังนี้ได้ชีวิตของฉันก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม!

“เห้ย!คุณหนูจะหนีแล้ว!!”เสียงของลูกน้องคุณพ่อเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังฉัน ฉันจึงหันไปมองด้วยความตกใจและรีบวิ่งใส่เกียร์หมาไปยังประตูเหล็กดัดบานนั้นแต่เมื่อไปถึง

แกร๊ก ตึงงๆๆๆๆ

“ประตูล็อค!!”ฉันพูดขึ้นอย่างหัวเสียและเริ่มมองหาหนทางทางหนีทางอื่นแต่แล้วเมื่อรู้ตัวอีกทีก็รู้ว่าร่างของฉันโดนโอบล้อมไปด้วยชายชุดดำนับร้อยคนซะแล้วสิ

“หมดเวลาเล่นสนุกแล้วค่ะคุณหนู”มาม่าซังเดินออกมาจากกลุ่มชายชุดดำมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันด้วยสีหน้าเป็นเชิงดุๆฉันจึงเบะปากใส่ท่านและเดินไปกอดแขนท่านอย่างออดอ้อน

“คริๆๆ^_^”ฉันแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนมาม่าซังก็ส่ายศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจในตัวฉันที่ดื้อรั้นแต่ทำไงได้ล่ะก็ฉันไม่อยากอยู่ที่นี้นี่น่า

“ไปอาบนำ้แต่งตัวได้แล้วค่ะ เดี๋ยวคุณท่านจะกิ้วเอานะคะ”

“ค่ะ”ฉันจำใจตอบมาม่าซังไปและจำใจต้องเดินคอตกกลับขึ้นคฤหาสน์ไป

“จะกลัวอะไรเดินตามคุณหนูไปสิ!”มาม่าซังเอ่ยสั่งชายชุดดำที่โดนฉันกระทืบไปด้วยน้ำเสียงดุๆ ฉันจึงหันไปกรีดรอยยิ้มให้คนพวกนั้นที่ทำสีหน้าหวาดกลัวฉัน ฉันจึงทำท่าบิดคอหักนิ้วไปมาด้วยความเมื่อยล้า นี่แค่หยอกนิดๆหน่อยๆเองนะ

“คืนนี้เขาจะพาหนูไปไหนอีกคะมาม่าซัง?”ฉันเอ่ยถามมาม่าซังไปในขณะที่นั่งอยู่ในอ่างอาบนำ้กลางแจ้งขนาดใหญ่บรรยากาศรอบๆเต็มไปด้วยต้นไม้สวยงามแล้ว

“งานเลี้ยงแต่งตั้งท่านมิซานเป็นท่านนายกรัฐมนตรีค่ะ เพราะท่านมิซานเพิ่งจะได้รับการเลือกตั้งจากชาวเมืองเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาและท่านยังต้องเดินทางไปขอบคุณชาวเมืองอีกด้วยนะคะ”มาม่าซังตอบออกมาพร้อมกับสายตาชื่นชมเมื่อพูดถึงคุณพ่อของฉัน ใช่แต่ฉันไม่นับเขาเป็นพ่อหรอกนะ พ่ออะไรทิ้งลูกทิ้งเมียเพื่อหนีไปหาความสุขสบายคนเดียว ปล่อยให้ฉันกับแม่ต้องทนลำบากมากันแค่สองคน อดมื้อกินมื้อแถมฉันยังเกือบจะโดนแฟนใหม่แม่ข่มขืนอีกนะ แต่ที่น่าจะเจ็บปวดที่สุดคือแม่ของฉันไม่เชื่อฉันว่าไอ้เลวนั้นมันคิดจะทำระยำกับฉัน ฉันโดนแม่ทั้งตบทั้งตีหาว่าฉันไปใส่ร้ายสามีของเขา พูดมาตั้งเยอะ ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยเนอะ

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อต้นฝน ชื่อจริงนางสาวหฤทัยนาศ พิมพ์ฤชัย ส่วนชื่อญี่ปุ่นไม่ต้องแนะนำนะ เพราะฉันไม่ชอบและฉันก็ไม่อยากมีสัญชาติเป็นคนญี่ปุ่นด้วย ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบประเทศนี้ แต่ฉันแค่ไม่ชอบพ่อของฉัน ผู้ชายแบบนี้น่ะเหรอที่จะมาปกครองประเทศ ผู้ชายที่ทิ้งลูกทิ้งเมียเพื่อหนีมามีชีวิตที่สุขสบายคนเดียว หึ!และฉันก็เพิ่งจะมาอยู่ที่นี้ได้ไม่ถึงอาทิตย์แต่ทุกวันฉันก็จะหาทางหนีทุกครั้งที่มีโอกาส และที่ฉันเตะต่อยเก่งเพราะฉันทำงานอยู่ที่ค่ายมวยและเป็นนักชกหญิงมือเอกเลยนะ ฉันก็ลงชกหลายเวทีแล้วด้วย และที่สำคัญฉันชนะได้ที่หนึ่งเสมอมาเลยยังไงล่ะถ้าครั้งไหนฉันไม่โดนจ้างให้ล้มมวย

“ลูกของพ่อวันนี้สวยสง่าไม่มีที่ติ ลูกสวยเหมือนแม่ของลูกจริงๆ^_^”ท่านมิซานเอ่ยชมฉันในขณะที่เราสองนั่งอยู่บนรถลีมูซีนสีขาวสุดหรูที่กำลังจะเดินทางไปยังงานเลี้ยงที่จัดไว้ต้อนรับท่านนายกรัฐมนตรี ฉันก็เบนหน้าจากวิวนอกหน้าต่างมองตรงไปยังเบื้องหน้าและใช้หางตามองไปที่ท่านมิซานที่วันนี้เขาแต่งตัวด้วยชุดสูทสีน้ำเงินพร้อมกับสวมเสื้อกั๊กที่สแกนคำว่ารักท่านมิซานเพื่อเอาใจชาวเมืองหึ!ผู้ชายสองหน้า

“อ้อเหรอคะ”ฉันตอบไปอย่างไร้หางเสียงและนำ้เสียงห้วนๆ ท่านมิซานก็เงียบลงใบหน้าถอดสีแต่ท่านก็ยังคงยิ้มอบอุ่นมาให้ฉันอยู่อย่างนั้น

“พ่อดีใจนะที่เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ตอนนี้ลูกของพ่อโตเป็นสาวแล้วคงไม่กลัวความมืดแล้วสินะ?”

“ไม่ใช่ว่าไม่กลัวหรอกคะ แต่มันชินซะมากกว่า”ฉันตอบเขาไปพร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดอก เมื่อนึกถึงความลำบากที่ฉันกับแม่เจอ แม่ฉันจะกลับบ้านดึกๆทุกวันเพราะท่านไปเล่นการพนันที่บ่อนเถื่อนแถวบ้านและจะกลับมาพร้อมกับอาการมึนเมาจากแอลกอฮอล์ทุกวัน

“ลูกคงจะลำบากมากสินะ”

“หึ!อย่าใช้คำว่าลำบากเลยค่ะ เพราะมันเกินจะบรรยายมาเป็นคำพูดได้!”

“พ่อขอโทษ”

“หยุดพูดขอโทษสักทีเถอะค่ะ เพราะว่ายังไงฉันก็ไม่มีวันยกโทษให้ผู้ชายที่ทิ้งลูกกับเมียไป!”

“โยโกะ”เสียงของท่านมิซานเอ่ยเรียกฉันด้วยนำ้เสียงแผ่วเบา ฉันถอนหายใจและหยิบหูฟังไร้สายขึ้นมาสวมใส่หูทั้งสองข้างพร้อมกับหลับตาลงเพื่อทำให้เขารู้ว่าฉันไม่อยากพูดคุยกับเขา ฉันไม่มีทางยกโทษให้เขาแน่นอน และฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไปรับฉันมาอยู่ที่นี้กับเขาทั้งๆที่เขาหายไปเป็นสิบๆปี แล้ว วันนี้ฉันอยู่ในชุดราตรียาวสีทองอร่ามที่เป็นเกาะอกโชว์เนื้อเนินอกสีขาวอวบของฉันและกระโปรงยาวถึงข้อเท้าและสวมรองเท้าส้นสูงสีทองปล่อยผมที่ยาวสลวยของตัวเองไปปกปิดแผ่นหลังขาวเนียนของตัวเอง

“ถึงแล้วลูก”เสียงเรียกและเเรงสะกิดเบาๆที่ต้นแขนฉันทำให้ฉันลืมตาขึ้นมาและตวัดสายตามองไปที่เจ้าของมือและเจ้าของเสียงที่เรียกฉัน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป