บทที่ 4 ตอนที่4

“ลงไปกันเถอะลูก^_^”ท่านมิซานเอ่ยบอกฉัน ฉันก็ขยับตัวนั่งตัวตรงและมองออกไปข้างนอกก็พบกับบรรดานักข่าวนับร้อยคนและชาวเมืองที่อีกนับพันมารอต้อนรับท่านนายกรัฐมนตรี

“ฉันต้องทำยังไงบ้างคะ?”

“แค่ลูกไม่คิดหนีก็พอ^_^”ท่านมิซานเอ่ยขึ้นเป็นเชิงขอร้องฉันไปในตัว

“จะหนีได้ไงเงินติดตัวสักบาทยังไม่มี”ฉันพูดเสร็จก็เปิดประตูลงจากรถสุดหรูราคาหลายล้านลงอย่างไวโดยไม่ได้สนใจคนในรถว่าเขาจะรู้สึกยังไงกับการกระทำและคำพูดที่เฉยชาของฉัน ใจลึกๆฉันก็รู้สึกไม่ดีแต่พอนึกถึงการกระทำที่เขาทำกับฉันและแม่ของฉันแล้ว ฉันให้อภัยเขาไม่ลงจริงๆ

พรึบๆๆๆๆๆๆ

“ลูกสาวของท่านนายกรัฐมนตรีหรือคะเนี่ย สวยสง่าจริงๆค่ะ^_^”

“สวยมากเลยนะ^_^”

“เธอไปเป็นดาราได้สบายๆเลยน่ะเนี่ย^_^”เสียงเอ่ยชมฉันดังกึกก้องไปทั่วทั้งหน้างานพร้อมกับเสียงร้องต้อนรับท่านนายกด้วยความดีใจของชาวเมืองนี้ ฉันจึงก้มหน้าลงเพื่อหลบแสงแฟลชจากกล้องราคาแพงที่พากันรุมถ่ายรูปฉัน

“สวัสดีครับทุกๆท่าน”เมื่อท่านมิซานเดินลงมาจากรถแล้วเขาก็ก้มหัวพร้อมกับเอ่ยคำทักทายชาวเมืองเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ฉันจึงโค้งตัวทำตามท่านมิซานและเขาก็เดินนำหน้าฉันเข้าไปในงานโดยมีฉันเดินตามหลังท่านไปอย่างเงียบๆโดยตลอดทางจะได้ยินเสียงปรบมือและเสียงโห่ไชโยของชาวเมืองนับพันที่ยืนและนั่งรอตามจุดเดินพรมแดงเหมือนฉันเป็นดาราจริงๆเลยน่ะเนี่ย มีการเดินพรมแดงด้วย น่าขำสิ้นดี

“ท่านมิซาน มิยาชิตะ ยินดีต้อนรับสู่การเมืองเต็มตัวครับ”เสียงทักทายที่ฟังดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่เอ่ยทักท่านมิซานในขณะที่เขาเดินเข้ามาภายในตัวของอาคารแล้ว

“ขอบคุณท่านโมโมจิ ที่ให้การต้อนรับผมในครั้งนี้^_^”ท่านมิซานเอ่ยด้วยนำ้เสียงเป็นมิตรและโค้งตัวให้กับชายวัยกลางคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับท่านมิซาน

“นี่คุณอาโมโมจิ ส่วนนี่ลูกสาวคนเดียวของผมครับ ซาโยโกะ”ท่านมิซานเอ่ยแนะนำฉันให้ท่านโมโมจิได้รู้จักและเขาก็แนะนำท่านโมโมจิให้ฉันได้รู้จักเช่นกัน ฉันก็โค้งตัวให้ความเคารพท่านโมโมจิอย่างนอบน้อม

“ท่านมิซานท่านโมโมจิ^_^”เสียงของคนมาใหม่เอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงร่าเริงแจ่มใส ทั้งสองท่านก็ต่างพากันมองไปยังผู้มาเยือนใหม่ก็พบกับชายวัยกลางคนอีกสองคนที่เดินคู่มาพร้อมกันทั้งสองแต่งตัวคล้ายกันเหมือนคู่แฝด ทั้งคู่มองหน้าเกรงขามและน่าเกรงกลัวเพราะข้างหลังของพวกเขามีบอดี้การ์ดนับสิบคนเดินตามหลังพวกเขามา

“ท่านเคนโด้ ท่านซาโอะสองตระกูลผู้ยิ่งใหญ่^_^”อาโมโมจิเอ่ยทักทายผู้ชายสองคนนั้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาพวกเขา โดยมีคุณพ่อของฉันที่เดินตามหลังอาโมโมจิไปด้วย

“สวัสดีท่านทั้งสอง เป็นเกียรติอย่างมากที่พวกท่านมาให้ความต้อนรับผม^_^”ท่านมิซานโค้งตัวให้ทั้งสองท่านอย่างดีใจ ฉันจึงต้องโค้งตัวให้ท่านทั้งสองตามที่ท่านมิซานทำ

“นี่คงเป็นหนูซาโยโกะจัง?”ท่านหนึ่งในคนที่แต่งตัวฝาแฝดเอ่ยพร้อมกับผายมือมาที่ฉัน

“อ้อใช่ครับท่าน”ท่านมิซานหันมายิ้มให้ฉันพร้อมกับตอบคนนั้นไป

“ตอนนั้นเจอยังเล็กอยู่เลย พอเจออีกทีโตเป็นสาวสวยซะแล้ว^_^”

“ขอบคุณครับท่านซาโอะ”

“เดี๋ยวอาจะแนะนำลูกชายอาให้หนูโยโกะจังได้รู้จักนะ”

“ไม่ดี”ฉันกำลังจะตอบปฏิเสธท่านซาโอะไปแต่ก็ไม่ทันเพราะเขาหันหลังไปมองหาใครสักคนแล้ว

“ไหนซาโนะ?”ท่านซาโอะหันไปถามชายชุดดำที่ยืนกุมมือทั้งสองไว้ด้านหน้าด้วยความเรียบร้อย

“ไปคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอกครับนายใหญ่เดี๋ยวนายน้อยคงจะตามเข้ามา”ชายชุดดำตอบท่านซาโอะไป ฉันเมื่อได้ฟังแบบนั้นก็แอบถอนหายใจออกมา เพราะฉันไม่ชอบการจับคู่ของผู้ใหญ่เป็นที่สุด มันโบราณคร่ำครึเกิ๊น

“งั้นเดี๋ยวไว้ค่อยไปแนะนำที่โต๊ะทานอาหารก็ได้เนอะ”ท่านซาโอะหันมาบอกฉันกับท่านมิซาน ท่านมิซานก็หันมายิ้มให้ฉัน ฉันจึงต้องจำใจยิ้มให้เขาไปเพราะเดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันไม่ทำตัวดีๆ

“เชิญข้างในดีกว่าครับท่านเคนโด้ท่านซาโอะ”ท่านมิซานเอ่ยชักชวนท่านทั้งสองด้วยความเคารพท่านทั้งสองก็หันมองหน้ากันและหันมาพยักหน้าให้ท่านมิซานและออกตัวเดินนำหน้าท่านมิซานไปโดนมีชายชุดดำเดินประกบข้างหลังไปติดๆยังกับมาเฟียเลย

“ช้าอีกแล้วนะคะริว!”เสียงหวานที่พยายามจะทำให้เสียงของตัวเองดูแข็งแกร่งเอ่ยขึ้นด้วยความรีบร้อน ฉันจึงหันกลับไปมองยังประตูหน้างานก็พบกับชายหญิงคู่หนึ่งที่ทั้งสองมีหน้าตาที่สง่างาม ผู้หญิงก็สวยราวกับนางฟ้าส่วนผู้ชายก็หล่อปานเทพบุตร พวกเขาทั้งคู่ดูเหมาะสมกันเหลือเกิน

“กูขอโทษ!”ผู้ชายหน้าหล่อที่โอบเอวผู้หญิงเอ่ยขึ้นถึงนำ้เสียงเขาจะดูแข็งกร้าวแต่หน้าตาเขาออดอ้อนมาก ฉันจึงเผลอยิ้มออกมากับท่าทางที่น่ารักของทั้งคู่ แต่เอ๊ะ?เมื่อกี้ผู้ชายคนนั้นเขาพูดกูเหรอ? ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ผู้ชายพูดมึงกูกับผู้หญิง

“อ้าวแล้วนี่คุณพ่อหายไปไหนกันแล้ว?”

“ด้านในครับคุณปลายฟ้าคุณริว”

“เห็นไหมกูบอกมึงแล้วว่าพวกเขาไม่รอมึงหรอก”ผู้ชายหน้าหล่อหันไปบอกผู้หญิงหน้าสวยและท่าทางอ่อนหวานคนนั้น เธอก็หันมามองค้อนใส่ผู้ชายของเธอ

“โยโกะ”เสียงเรียกของท่านมิซานเอ่ยเรียกฉันทำให้ฉันสะดุ้งและหันกลับไปมองท่านมิซานที่ยืนอยู่ข้างๆฉันทันที

“ไม่เข้าไปข้างไหนเหรอลูก?”

“พอดีอยากเข้าห้องน้ำ ขอไปเข้าห้องนำ้ก่อนนะ”

“ไม่หนีหรอก ไม่มีเงินสักบาท!”ฉันบอกท่านมิซานไปพลางทำสีหน้าเบื่อหน่ายเพราะเขาคงไม่เชื่อใจฉันว่าฉันจะไม่หนีเขา

“ก็ได้ลูก งั้นพ่อไปรอที่โต๊ะนะ”

“อืม”ฉันพยักหน้าตอบท่านมิซานไปและรีบเดินไปยังห้องนำ้ที่อยู่ฝั่งซ้ายของประตูทางเข้างานเมื่อพ้นสายตาของท่านมิซานแล้ว ฉันก็รีบเดินออกไปยังประตูทางออกทันที

“กูบอกให้มึงพาตัวมินตรามาให้กูแล้วนี่มึงทำอะไร ปล่อยให้คนอื่นมาตัดหน้าแย่งเธอไปจากกู!!!”เสียงหงุดหงิดของผู้ชายดังขึ้นเป็นภาษาญี่ปุ่น ทำให้ฉันหยุดชะงักฝีเท้าลงอย่างไวและมองไปที่เงามืดนั้นก็พบกับร่างของผู้ชายตัวสูงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในมุมมืด และแวบหนึ่งฉันก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาได้ หึๆๆฉันจะได้กลับบ้าน

แล้ว ประเทศไทยจ๋ารอต้นฝนก่อนนะจ๊ะ^\^

บทก่อนหน้า
บทถัดไป