บทที่ 5 ตอนที่5
ต้นฝน ซาโยโกะจัง.....
“มึงต้องพาตัวมินตรากลับมาหากูให้ได้ ไม่งั้นมึงตาย!!!”โอ้โหโหดซะด้วยเว้ยอีตานี่ ฉันค่อยเดินย่องๆเข้าไปหาร่างสูงที่ยืนหันหลังให้ฉันและมองหาอาวุธรอบๆตัวแต่แล้วก็ไม่มีอะไรมาเป็นอาวุธให้ฉันได้เลยน่ะสิ
“เออใช่”ฉันเอ่ยขึ้นเมื่อมองต่ำลงไปและสบสายตาเข้ากับรองเท้าส้นสูงส้นตึกของฉันคู่นี้ ฉันยิ้มขึ้นมาและค่อยๆก้มลงไปถอดรองเท้าส้นตึกของตัวเองมาถือไว้ และค่อยๆย่องเข้าไปแนบชิดกับร่างสูงนั้น เขาสูงกว่าฉันมากเลยน่ะเนี่ย หัวฉันอยู่แค่ไหลเขาเองแฮะ
พรึบ
“อย่าขยับไม่งั้นฉันยิงนายไส้แตกแน่!”ฉันเขย่งปลายเท้าอีกข้างให้ขึ้นไปเทียบตัวเขาและใช้มือไปคล้องคอของชายผู้โชคร้ายคนนั้นไว้ส่วนมืออีกข้างก็ใช้ปลายส้นตึกจี้ไปที่แผ่นหลังของเขาอย่างหนักๆเพื่อทำให้เขาเชื่อว่าวัตถุที่ฉันใช้ในการปล้นครั้งนี้เป็นปืนจริงๆ
“อะอะไรของเธอ เล่นอะไรอยู่เนี่ย!”ร่างสูงสบถออกมาเป็นภาษาไทยเพราะฉันพูดภาษาไทย เขาฟังภาษาไทยรู้เรื่องเหรอ?
“อย่าหันอย่าขยับไม่งั้นฉันยิงนายแน่!”
“คนไทย?”
“ก็ใช่น่ะสิ เห็นเป็นคนญี่ปุ่นเหรอไง ถามแปลกๆ!”ฉันพูดใส่อารมณ์กับเขาและพูดเสียงเข้มให้ดูน่ากลัว
“ใครจ้างเธอมาให้ฆ่าฉัน”เขาไม่ได้ขยับตัวแต่เอ่ยถามฉันกลับมาด้วยความสงสัย
“เอ่อออ”ฉันอ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะบอกว่าใคร เพราะไม่มีใครจ้างฉันให้มาฆ่าหมอนี่นี่น่า
“มันจ้างเธอมาเท่าไหร่?”เขาถามฉันกลับมาพร้อมกับทำท่าทางขยับ ฉันจึงรัดคอเขาให้แน่นขึ้น
“โอ้ว ฉันจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วเนี่ย!”เขาโวยวายใส่ฉัน
“อย่าแตะตัวฉัน!!”ฉันก็โวยใส่เขาทันทีที่มือหนาของเขากำลังจะจับโดนแขนของฉัน และฉันก็ตกใจเผลอปล่อยมือจากคอเขาเพราะฉันกลัวการแตะเนื้อต้องตัวเป็นที่สุด
พรึบ
“แฮ่กๆๆๆเกือบตายหายใจไม่ออก”เขาบ่นขึ้นและเขาก็จับชายคอเสื้อของเขาให้คลายคอลงฉันจึงรีบใช้มือปัดตามแขนของตัวเองและถูไปมาจนรู้สึกเจ็บแสบ
“อะไรจะขนาดนั้นแม่คุณ!”เขาหันมามองการกระทำของฉัน แต่ฉันก็ยังไม่เลิกใช้มือถูไปกับต้นแขนของตัวเอง ท่าทางที่ฉันเป็นมันแสดงออกได้เลยว่าฉันรังเกียจเขามาก
“ผมไม่ได้สกปรกซกมกโสโครกขนาดนั้น!”เขาเดินมาประชิดร่างฉันอย่างไว ฉันก็ถอยหลังหนีเข
าอย่างไวเช่นกันตามสัญชาตญาณ
พรึบ
“โอ้ย!”ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจและเจ็บปวดเมื่อแผ่นหลังของฉันไปชนเข้ากับต้นไหม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังฉัน
พรึบ
“คุณไม่ต้องมาเฉไฉบอกมาเดี๋ยวนี้ว่าใครส่งคุณมา?”ชายร่างสูงเดินเข้ามาแนบชิดตัวฉันและเขาก็ใช้ท่อนแขนแข็งแรงกั้นทางไม่ให้ฉันออก ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาแต่ฉันก็มองเขาไม่เห็นหรอกเพราะที่ตรงนี้มันมืดมาก
“อื้อออ”ฉันหลับตาปี๋เบนหน้าหลบปลายจมูกโด่งของเขาที่อีกนิดเดียวก็จะมาชนเข้ากับโครงแก้มของฉันอยู่แล้ว
“สวย ใหญ่”
“อะไรใหญ่ยะ?”ฉันเบือนหน้ากลับไปหาเขาและเอ่ยถามเขาด้วยความไม่พอใจและในจังหวะนั้นแก้มของฉันก็ไปชนเข้ากับจมูกที่โด่งเป็นสันของเขาเข้าอย่างจัง
“ฟอดดดดดด”
“นี่!นายหอมแก้มฉันเหรอ!!”ฉันโวยใส่เขาเสียงดังและรีบยื่นมือขึ้นมากุมแก้มตัวเอง
“คุณหันแก้มของคุณเข้ามาหาจมูกของผมเองนะ”เขาพูดด้วยนำ้เสียงเฉยชา อีตาบ้า!!!ช่างกล้าพูด ฉันก็เขินเป็นน่ะเว้ย!
“แล้วนายสูดดมทำไมเล่า!!!”ฉันโวยกลับก็อีตาบ้านี่มันสูดดมกลิ่นแก้มของฉันน่ะสิ
“มีโอกาสก็ต้องกอบโกย”เขาตอบมาหน้าตาย ทำให้ฉันเริ่มที่จะโมโหเขาแล้วนะ
“ไอ้คนฉวยโอกาส!”
“ใครฉวยโอกาส ผมน่ะเหรอ?”เขาทำนำ้เสียงยียวนกวนประสาทฉัน ถึงฉันจะมองไม่เห็นหน้าเขาแต่ฉันก็มั่นใจว่าหน้าตาของอีตานี่ต้องเห่ยมากแน่ๆ
“ก็ใช่ไง!”
“ผมไม่ได้ฉวยโอกาสเลยนะ ก็คุณทำงานพลาดฆ่าผมไม่ได้อีกไม่นานคุณก็จะต้องโดนนายจ้างของคุณสั่งเก็บ”เขาบอกฉันมาและเริ่มขยับใบหน้าเข้ามาหาฉันใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้นจนฉันได้ยินเสียงหัวใจของฉัน ไม่สิมันสองเสียงนะ
ตึกตักตึกๆ ตึกตักตึกตักๆ
ฉันหลับตาปี๋เมื่อฉันรับรู้ได้ว่ามีปลายจมูกนุ่มมาคลอเคลียอยู่ตรงบริเวณซอกคอของฉัน
“ถ้าคุณไม่บอกผมว่าใครจ้างคุณมา....ผมปล้ำคุณตรงนี้แน่!”เขากดเสียงต่ำกระซิบที่ข้างหูฉัน ทำให้ฉันขนลุกซู่แต่แปลกแฮะ ทำไมฉันไม่รู้สึกขยะแขยงหมอนี่กันนะ?
