บทที่ 6 ตอนที่6
“จะบอกหรือไม่บอก”เขากดเสียงต่ำถามฉันอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาเม้นริมฝีปากขบติ่งหูฉันเบาๆเพื่อตอกย้ำให้ฉันพูด ฉันจะพูดได้ยังไงเล่า!!ก็ไม่มีใครจ้างฉันมาทั้งนั้นแหละโว้ยยยยย!มันจะคาดคั้นอะไรฉันนักหนาวะ!
“อื้อออออออ”ฉันร้องออกมาพลางเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นเพราะไอ้เห่ยนี้มันค่อยๆลากปลายจมูกของมันออกมาจากซอกคอฉันขึ้ยมาเรื่อยๆจนจะถึงริมฝีปากของฉันอยู่แล้ว
“ห๊อมหอม”
“ไอ้โรคจิต!!”
“ปากก็ด่าว่าผมไอ้โรคจิตทำท่าเหมือนรังเกียจขยะแขยงผมแต่มือกลับไม่ขัดขืน?”เขาเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย มันจะไปพูดไกลๆจากปากฉันไม่ได้รึไงนะ จะจูบกันอยู่แล้วเนี่ย!! จะขัดขืนได้ยังไงล่ะ ก็มือของฉันถือส้นตึกซ่อนไว้ด้านหลังอยู่อ่ะ
“ฉันไม่อยากโดนตัวนายต่างหากล่ะ!!!”
“ทำไมกลัวไฟช็อตรึไง?”
“หรือว่า.....กลัวหักห้ามใจเวลาอยู่ใกล้ๆผมไม่ได้^_^”
“ช่างมั่นหน้าเนอะ”ฉันเอ่ยบอกเขาไปด้วยความหมั่นไส้ อยากจะเห็นหน้าตาของเขาจริงๆว่ามันจะหล่อวัวตายควายล้มรึเปล่า!!!!
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย ตกลงใครส่งคุณมา?”เขากดเสียงต่ำถามฉันอีกครั้ง ใครจะส่งฉันมาเล่า ฉันนี่แหละส่งตัวเองมา
“ถ้าฉันบอกคุณ คุณจะให้อะไรฉัน”ฉันเอ่ยต่อลองเขาไป ยังไงๆวันนี้ฉันก็ต้องไปจากที่นี้ให้ได้
“ผมจะไม่ฆ่าคุณ”เขาตอบฉันมา ฉันก็หันไปมองหน้าเขาถึงจะไม่เห็นก็เถอะ
“ฉันขอเงินคุณสักห้าแสนแล้วฉันจะไปให้ไกลจากคุณและคุณก็จะไม่ได้เจอฉันอีกเลย”ฉันบอกเขาไป เขาก็เงียบไป อะไรของอีตานี่
“เหอะมันจะไม่มากไปเหรอ?”
“และที่สำคัญคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาต่อลองอะไรกับผม”
“มีสิ..ไม่งั้นฉันยิงนายแน่!”ฉันพูดขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าและเอาปลายส้นตึกจ่อไปที่หน้าท้องแข็งๆของอีตาบ้านี้เพื่อเป็นการขู่หลอกเขาว่าฉันฆ่าเขาแน่ถ้าเขาไม่ให้สิ่งที่ฉันต้องการ
“อ่ะ....ก็ได้แต่ผมไม่มีเงินสดนะแต่ผมจะเซ็นเช็คให้คุณแทน”เขาบอกฉันมาแต่นำ้เสียงของเขาไม่ได้แสดงออกว่ากลัวอะไรเลย
“ไม่!”ฉันบอกเขาไปทันควัน กว่าฉันจะเอาเช็คไปขึ้นเงินมีหวังโดนลูกน้องของท่านมิซานจับได้ซะก่อน
“อะไรของคุณอีกเนี่ย?”เขาทำน้ำหงุดหงิดใส่ฉัน
“ฉันกำลังจะหนีนะคุณ ไม่มีเวลาเอาเช็คของคุณไปขึ้นเงินหรอก!”ฉันโวยใส่เขา
“เออจริงด้วย งั้นเอาไงดี?”เขาพูดและเงียบไปสักพักเหมือนเขากำลังจะใช้ความคิด ฉันก็ยืนนิ่งมือยังคงถือรองเท้าส้นตึกจ่อไปที่หน้าของเขาอย่างไม่ลดละ
“เอางี้ ผมมีเงินติดตัวอยู่แค่ไม่กี่เยนแต่เงินสดจำนวนที่คุณพูดถึงอยู่ในรถผม เดี๋ยวผมจะเดินไปเอาให้คุณ”เขาบอกฉันหลังจากที่เขาเงียบไปสักพักหนึ่ง
“ก็ได้ แต่ถ้านายคิดตุกติกล่ะก็...นายตาย!”
“นี่ก็ขู่จังเว้ย!!”เขาโวยใส่หูฉัน หูฉันแทบแตกน่ะไอ้บ้า!!!
“ฉันไม่ได้ขู่แต่ฉันทำจริงแน่!”ถ้ามันเป็นปืนจริงๆนะแต่นี่มันเป็นปืนปลอมไง ถ้าหมอนี่รู้ว่าฉันเอาส้นของรองเท้ามาแกล้งทำเป็นปืนเพื่อขู่เขาล่ะก็มีหวังเขาฆ่าฉันทิ้งแน่
“อ่ะๆถ้าคุณไม่เชื่อใจผมคุณก็เดินตามผมไปแค่นั้นเอง”
“ก็ได้ งั้นนายก็เดินนำไป!”
“เค”เขาตอบฉันสั้นๆและถอยหลังห่างจากฉันไป ฉันก็เดินตามเขาไปเอาส้นตึกจี้แผ่นหลังเขาและออกแรงดันให้เขาเดินนำทางไป
“แล้วนี่ตกลงใครส่งคุณมา?”เขาเอ่ยถามฉันในขณะที่เรากำลังเดินไปตามพื้นหญ้า
“ซาโนะ”ฉันเอ่ยบอกเขาไป ใช่ฉันต้องทำให้คนที่ชื่อซาโนะหายไปจากชีวิตฉันไม่งั้นมีหวังฉันได้แต่งงานกับมันแน่!
“ซาโนะ?”เขาเอ่ยถามฉันกลับมาด้วยความแปลกใจ
“ใช่”ฉันตอบเขาไปด้วยนำ้เสียงหนักแน่น
“มิซาโนะ ซานโต้นะเหรอที่ส่งให้คุณมาฆ่าผม”
“ใช่”
“อืมมมม”เขาอืมยาวเหมือนเขาจะเชื่อฉันน่ะ
“แล้วคุณไปรู้จักกับซาโนะได้ยังไง?”
“ฉันก็ไม่ได้อยากจะรู้จักกับมันสักเท่าไหร่หรอก”ฉันบอกเขาไปอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากและสอดส่องสายตามองไปข้างทาง เดินมาตั้งไกลยังไม่เห็นโรงจอดรถเลยนะ!!
“อ้อเหรอ แล้วทำยังกับผมอยากรู้คุณอย่างงั้นแหละ”
“นายว่าอะไรนะ!”ฉันเอ่ยถามเขาไปเพราะเมื่อกี้ฉันว่าอีตานี่มันพูดจาแปลกๆเหมือนตัวเองเป็นซาโนะอย่างงั้นแหละ แต่คงไม่น่าใช่หรอกมั่ง
“เปล๊า”เขาตอบฉันกลับมาด้วยนำ้เสียงกวนโอ๊ย
“นี่ นายโกหกฉันรึเปล่าอ่ะ ไม่เห็นมีรถยนต์สักคันเลย!”ฉันโวยใส่เขาไปและจ้องเขม่นไปที่แผ่นหลังกว้างของเขา
ที่ตอนนี้ฉันเริ่มจะมองเห็นเขาได้ชัดขึ้นเพราะที่แถวนี้มีไฟติดไว้พอให้ความสว่างได้
