บทที่ 8 ตอนที่8
“แปลกยังไงย่ะ?”ฉันดึงเสื้อของเขามาปิดหน้าอกตัวเองที่ข้างมันผ้าทำให้เสื้อเกาะอกของฉันจะคอยหลุดอยู่เรื่อย ก็อีตาบ้านี่นั้นแหละ ตอนที่เขาจะล้มลงไปสงสัยจะดึงชุดของฉันลงไปด้วยน่ะสิ หึย!!
“ก็คนดีๆที่ไหนเขาไม่มาปล้นผู้ชายหรอกคุณ!”
“เอ้าก็ฉันจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆหนิคุณ!”
“จะเอาเงินมากมายนั้นไปทำอะไร?”
“มองหน้าตาการแต่งกายของคุณก็มองเป็นคนมีเงิน”เขาไม่ว่าเปล่ายังจ้องมองฉันแต่เขาไม่ได้เลื่อนสายตาไปไกลจากหน้าอกฉันเลยน่ะย่ะ
“จะจ้องอีกนานไหม?”ฉันตวัดสายตามองเขาไปด้วยความไม่พอใจ เกิดมามีของใหญ่ก็แบบนี้แหละ ลำบากจริงๆอยู่ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัย พวกผู้ชายมันก็เลวแบบนี้เหมือนกันทุกคนนั้นแหละ
“ก็มันใหญ่เห้ยไม่ใช่ๆๆ!”เขาเผลอพูดออกมาและเมื่อนึกได้เขาก็รีบทำท่ารนรานทันที
“เห้อ!”ฉันผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายและเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ไปอย่างคนที่สิ้นหวังแล้วทุกอย่าง
“ผมขอโทษ”เขาเอ่ยขอโทษฉันด้วยนำ้เสียงที่รู้สึกผิดจริงๆ
“ไม่เป็นไรหรอก”ฉันบอกเขาพลางอย่างไม่สนใจ ถ้ามันคิดจะปล้ำฉันน่ะ ฉันจะกระทืบน้องชายมันให้สูญพันธุ์ไปเลยคอยดู
“ไม่เป็นไร?”เขามองหน้าฉันอย่างไม่อยากเชื่อ
“แล้วทำไมล่ะ หรือว่านายอยากให้ฉันโกรธนาย”
“ก็ไม่อ่ะ ผมมีศัตรูก็เยอะพอตัวอยู่แล้วอยากจะหาพันธมิตรบ้าง”เขาบอกฉันพลางเอนแผ่นหลังพิงเข้ากับพนักเก้าอี้ตัวเดียวกับฉัน นำ้เสียงของเขาฟังดูเหนื่อยๆ
“นายไม่มีเพื่อนหรือไง?”
“ไม่อ่ะ แล้วคุณล่ะ?”เขาตอบฉันและถามฉันกลับเขาเหลือบตามามองหน้าฉัน ฉันก็มองหน้าเขาและยิ้มขำๆออกมา
“มีสิ เพื่อนฉันเยอะแยะแต่ไม่ได้อยู่ที่นี้”
“เออจริงสินะ คุณเป็นคนไทยนี้น่า”
“ใช่แล้วคุณล่ะ?เป็นลูกครึ่งเหรอ?”
“เปล่าหรอก พ่อแม่ผมก็เป็นคนญี่ปุ่นทั้งคู่แต่พอดีพ่อผมมีภรรยาลองเพราะท่านอยากมีลูกสาวและท่านก็ไปมีภรรยาเป็นคนไทยผมจึงมีน้องสาวเป็นคนไทยแต่ธุรกิจของผมมันอันตรายเกินไปน่ะที่จะพาน้องสาวมาอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยกันผมเลยต้องไปญี่ปุ่นกลับไทยอยู่บ่อยๆเลยทำให้ผมพูดภาษาไทยได้คล่อง”เขาบอกฉันมาเหมือนเขาอยากจะระบายความในใจกับใครสักคน
“แต่ชีวิตคุณก็น่าจะมีความสุขมากไม่ใช่เหรอ?”
“ก็ใช่น่ะ แต่มันก็เหมือนขาดอะไรบางอย่างไปอยู่ดี”เขาพูดเสร็จเขาก็เงียบไปฉันจึงหันหน้าไปมองหน้าเขาก็เห็นว่าเขาหลับตาอยู่ ใบหน้าที่หล่อไร้ที่ติขาวใสไม่มีริ้วรอยไม่รอบแผลเป็นริมฝีปากสีชมพูระเรื่อที่ไม่ต้องแต่งเติม เป็นโครงหน้าที่เพอร์เฟคที่สุด
“แล้วคุณล่ะ มาทำอะไรที่นี้?”เขาถามฉันทั้งๆที่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองฉัน
“เล่ามาเถอะยังไงๆพอพ้นคืนนี้ไปเราก็ไม่ได้เจอกันอยู่ดี”เขาพูดออกมา ฉันก็คิดตามใช่เดี๋ยวพอพ้นวันนี้ไปเราก็ไม่ได้เจอกันอยู่ดี
“นั้นสิเนอะ^_^”
“อืม”
“พ่อฉันเป็นคนญี่ปุ่นแต่ไปพบรักกับแม่ฉันที่ประเทศไทยและท่านทั้งสองก็ตกลงที่จะแต่งงานอยู่กินกันที่ประเทศไทยและมีฉันเกิดมาแต่พอฉันได้สิบขวบพ่อกับแม่ก็หย่ากันและเขาก็ทิ้งให้ฉันอยู่กับแม่แค่สองคนฉันต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย”
“น่าเหนื่อยจริงๆ”เขาบอกฉันอย่างคนที่เห็นใจฉัน ฉันก็อมยิ้มและเริ่มเล่าต่อ
“ใช่ ฉันเหนื่อยมากจริงๆแหละและพอฉันอายุสิบแปดแม่ก็มีสามีและที่บัดซบไปกว่านั้นคือแฟนใหม่และลูกชายของแฟนใหม่แม่ฉันจ้องจะปล้ำฉันทั้งสองคนเลย”
“เห้ยจริงดิ!”ที่นี้หมอนี่ลืมตาตื่นมาจ้องมองหน้าฉันอย่างตกใจ
“คุณไปอ่อยเขารึเปล่า?”
“นี่นาย!”ฉันลุกขึ้นนั่งตัวตรงชี้หน้าเขาด้วยความไม่พอใจ
“ขอโทษๆผมล้อเล่น^_^”เขายกมือสองข้างขึ้นมาทำท่ายอมแพ้
“ไม่เล่าแล้ว!”
“เล่าเหอะ ผมอยากฟัง”เขามองมาที่ฉันพลางทำสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นจริงๆนั้นแหละ
“แล้วตกลงเขาสองคนพ่อลูกปลุกปล้ำคุณได้ป่ะ?”
“นี่นาย!!!”
“พอโกรธแล้วสรรพนามเปลี่ยนทันทีเลยวุ้ย^_^”เขาทำท่าล้อเลียนฉัน ฉันก็มองค้อนเขาและยกแขนขึ้นมากอดอก
“มาทำอะไรที่นี้อ่ะ?”อยู่ดีๆเขาก็เอ่ยถามฉัน
“แล้วนายล่ะมาทำอะไร?”
“ผมถามคุณก่อนนะคุณก็ต้องตอบผมก่อนดิ”
“พ่อฉันมารับตำแหน่งที่นี้”
“รับตำแหน่ง?”เขาทวนคำตอบฉันพลางขมวดคิ้วอย่างงุนงง
“ก็พ่อฉันเป็นท่านนายกรัฐมนตรีน่ะสิ!”ฉันกระแทกเสียงใส่เขาไป เขาก็หน้าเหวอมองหน้าฉันด้วยความตกใจ
“ทำไม พ่อฉันเป็นหนึ่งในศัตรูของนายรึไง?”ฉันถามเขาไป เขาก็จ้องมองหน้าฉันตาไม่กระพริบ ฉันก็มองหน้าเขาพลางขมวดคิ้วอย่างงุนงง
“เธอชื่อซาโยโกะจังอย่างงั้นเหรอ?”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม?”ฉันเอ่ยกวนเขาไป
“พ่อเธอชื่ออะไร?”
“เอ้าอีตานี่ถามแปลกๆก็พ่อฉันเพิ่งจะได้รับการเลือกตั้งขึ้นเป็นนายกจะให้ชื่ออะไรล่ะย่ะ!”ฉันก็โวยใส่เขาและในจังหวะนั้นฉันเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคู่กำลังเดินมุ่งหน้ามาทางนี้
“หาตัวนังซาโยโกะให้เจอ มีคำสั่งให้จับเป็น!”เสียงเหี้ยมเกรียมตะโกนดังลั่นทำให้ฉันหันไปชะเง้อคอมองหาต้นเสียงเพราะรู้สึกเหมือนเขาจะเรียกชื่อฉันไม่ใช่เหรอไง แต่ร่างของฉันก็โดนกระชากลงไปบนร่างของผู้ชายคนนั้นอย่างไว
พรึบ
