บทที่ 7

ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้เจค คูเปอร์ เพื่อนของผม เขากำลังจะแต่งงานกับแอนทัวเน็ตต์ จอห์นสัน ผมเคยพยายามใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อเข้าหาเฮเลน พี่สาวของเธอ สมัยที่เรายังเด็ก แต่กลายเป็นว่าผมโดนเล่นซะเอง การเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้เจคไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากทำเลยสักนิด เหตุผลเดียวที่ผมตอบตกลงเจคไปก็เพราะรู้ว่าเฮเลนจะมางานนี้ด้วย คือเมื่อ 10 ปีก่อน ผมดันไปนอนกับแอนทัวเน็ตต์ พี่สาวของเธอ ผมคลั่งไคล้เฮเลนมาก แต่แอนทัวเน็ตต์บอกผมว่าเธอมีแฟนแล้ว และก็ตามประสาเด็กหนุ่ม ผมเลยอยากจะทำให้เฮเลนหึงหรือไม่ก็เสียใจ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอยากให้เธอรู้สึกแบบไหนกันแน่ แล้ววันหนึ่งตอนที่เรากำลังว่ายน้ำเล่นกันอยู่ที่บ้านของพวกเธอ แอนทัวเน็ตต์ก็มาอ่อยผมอีกครั้ง ผมเลยพาเธอขึ้นไปบนห้อง เธอล็อกประตู แต่ผมอยากให้เราโดนจับได้ พอเธอหันหลังให้ ผมก็ปลดล็อกประตู ผมรู้ว่าพ่อแม่ของพวกเธอไม่อยู่บ้าน และก็รู้ด้วยว่าเฮเลนอยู่ในห้องของเธอ ผมเลยส่งเสียง เสียงที่จะทำให้ใครก็ตามต้องสงสัยใคร่รู้ ผมกำลังอัดแอนทัวเน็ตต์ไม่ยั้งตอนที่เฮเลนเปิดประตูเข้ามาเห็นเราพอดี สีหน้าของเธอในตอนนั้นเป็นอะไรที่ผมไม่มีวันลืมจนถึงทุกวันนี้ มันคือความตกใจ แล้วก็เปลี่ยนเป็นความใจสลาย มันชัดเจนบนใบหน้าของเธอราวกับกลางวันแสกๆ แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่าทำไมเธอถึงได้ใจสลายขนาดนั้น จนกระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ตอนที่ผมมอมเหล้าเจคกับแอนทัวเน็ตต์จนเมาแอ๋ แล้วแอนทัวเน็ตต์ก็หลุดปากพูดความจริงออกมา

ปรากฏว่าเจครู้ว่าเธอกำลังอ่อยผม เขายังรู้เหตุผลด้วย ในทางกลับกัน ผมเพิ่งมารู้เมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี่เอง เหตุผลก็คือเฮเลนแอบชอบผมมาก และเธอไม่เคยคบกับใครเลยเพราะรอให้ผมเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่พอแอนทัวเน็ตต์มาบอกผมว่าเธอมีแฟนแล้ว ผมก็เลยทำตรงกันข้าม ผมตกหลุมพรางของเจคกับแอนทัวเน็ตต์เข้าเต็มเปา แอนทัวเน็ตต์โกรธพี่สาวของเธอ และการนอนกับผมก็เป็นวิธีเอาคืนพี่สาวของเธอ ผมมั่นใจว่าเฮเลนไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี่เลย และนั่นแหละเพื่อนเอ๋ย คือเหตุผลเดียวที่ผมตอบตกลงไอ้คนสองคนที่ทำลายชีวิตผมฉิบหายว่าจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้

ผมพักอยู่ที่โรงแรมใกล้ๆ วินเนตกา เพื่อจะได้อยู่ใกล้งานแต่ง แต่ก็ไม่ใกล้จนเกินไปจนอาจจะไปเจอเฮเลนเข้า ผมคอยแอบส่องเธอผ่านโซเชียลมีเดียมาตลอดหลายปี และเธอก็ยังไม่มีแฟน ไม่เคยมีโพสต์เรื่องวันไนต์สแตนด์หรือออกไปเที่ยวกลางคืนเลย ถ้าเธอจะทำอะไร เธอก็เก็บมันเป็นความลับ ซึ่งเป็นแบบที่ผมชอบเลย ผมไม่ชอบประโคมชีวิตแม่งทั้งหมดลงบนโซเชียลมีเดีย ผมว่านี่แหละคือเหตุผลที่ผมยังหาแฟนไม่ได้สักที เพราะผู้หญิงสมัยนี้อยากจะทำแต่เรื่องพวกนั้น ถ่ายรูปอาหารแล้วก็โพสต์ ถ่ายรูปหน้าห้างทาร์เก็ตแม่งแล้วก็โพสต์ แบบว่า...เฮ้ยพวกเรา ใช้ชีวิตกันโดยไม่ต้องโพสต์อะไรบ้างก็ได้ไหมวะ มีสองสามครั้งที่เกือบจะเฉียดกันจนเธอเกือบเห็นผม วันที่ผมออกมาจากร้านเครื่องประดับ ผมว่าผมเห็นเธอที่ร้านกาแฟ แล้วก็เมื่อเช้านี้ ตอนที่เธอวิ่งออกจากบ้านเพื่อไปกินมื้อเช้ากับพี่สาว เพราะไม่มีใครไปสายเพื่อนางแอนทัวเน็ตต์ได้ การจะบอกว่าผมแค่ฉุนๆ กับพวกเขานี่ถือว่าพูดน้อยไปมาก แต่ตอนนี้ผมโตขึ้นและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว ผมซ่อนความรู้สึกของตัวเองได้ ผมถึงกับหัวเราะกลบเกลื่อนตอนที่พวกเขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง

เหตุผลที่ผมไม่อยากให้เฮเลนเห็นผมก่อนก็เพราะผมอยากเห็นปฏิกิริยาของเธอตอนที่เธอเดินเข้าโบสถ์มาพร้อมกับพี่สาว ผมอยากจะเห็นว่าสีหน้าของเธอบอกอะไรผม เธอยังใจสลายอยู่หรือเปล่า? เธอยังมีใจให้ผมอยู่ไหม? หรือมันจะเป็นแค่ความประหลาดใจ? ผมรู้ว่าตอนที่เธอเดินเข้ามาในพิธี เธอจะไม่มีทางซ่อนความรู้สึกหรือซ่อนแววตาของเธอได้ และนั่นแหละคือหน้าต่างของหัวใจ

เราทุกคนอยู่ในห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว กำลังแต่งตัวแล้วก็ถ่ายรูปกัน เจคกำลังบ่นไม่หยุดเรื่องรองเท้าของเขา ทันใดนั้นเพื่อนเจ้าบ่าวอีกคนก็พูดขึ้นมาว่า “เฮเลนสลักอะไรบนรองเท้านายเหรอ?” แต่ตอนที่เขาเอ่ยชื่อเฮเลน เขาหันมามองผม เพราะผมเตือนพวกเขาทุกคนแล้วว่าให้อยู่ห่างๆ เธอไว้ ผมยังไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงซ้อม และผมก็รู้ว่าไอ้พวกเพื่อนเจ้าบ่าวพวกนี้มันหื่นกามจะตาย ผมไม่อยากให้พวกมันเข้าใกล้เฮเลน และนั่นคือเหตุผลที่พวกมันโดนเตือน ปฏิกิริยาของเจคคือความรังเกียจ เขาถอดรองเท้าออกมาแล้วดูที่พื้น “ยัยนั่นทำเหี้ยอะไรวะเนี่ย? ทำรองเท้าคู่โปรดของฉันพังหมด” ผมต้องแก้ต่างให้เธอโดยไม่ให้เจครู้ “นายไม่ได้ซื้อรองเท้าใหม่เหรอ?” “ไม่สิวะ นี่มันรองเท้าโลฟเฟอร์อิตาลีคู่เก่งของฉันเลยนะ แล้วเธอก็ดันมาสลักคำว่า ‘ฉันก็เอาด้วย’ ไว้ที่พื้นรองเท้าแม่งเลย แถมเป็นสีฟ้าอีกต่างหาก” เขายังบ่นต่อ “อาจจะเป็นไอเดียของแอนทัวเน็ตต์ก็ได้” เพื่อนอีกคนพยายามช่วย คนที่บอกเขาเรื่องรองเท้าพูดขึ้น “ใช่ แอนทัวเน็ตต์อยากได้ของที่เป็นสีฟ้า และนี่ก็เป็นไอเดียของเธอเอง” ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ความคิดของแอนทัวเน็ตต์แน่ๆ มันน่ารักและเรียบง่ายเกินกว่าจะเป็นตัวเลือกของแอนทัวเน็ตต์ เธอเป็นพวกชอบทำอะไรใหญ่โตเว่อร์วัง ผมเลยตัดสินใจเออออกับเพื่อนเจ้าบ่าวคนอื่น “เห็นไหม วิกฤตคลี่คลายแล้ว เป็นความคิดของว่าที่ภรรยานายนั่นแหละ” “ยัยผู้หญิงคนนั้นคิดอะไรของเขาวะ” เขายังบ่นไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าความเครียดเรื่องแต่งงานกำลังเล่นงานเขา แต่ก็นั่นแหละ บางทีอาจจะเป็นความเครียดที่เขาจะไม่ได้ฟันเพื่อนเจ้าสาวอีกต่อไปแล้วก็ได้ ใช่ เราทุกคนรู้กันหมด ผมว่ามีแต่เจ้าสาวผู้น่าสงสารนั่นแหละที่ไม่รู้ ผมรินสก็อตช์ให้ทุกคนคนละแก้ว “มาดื่มอวยพรให้เจ้าบ่าวกัน ขอให้ชีวิตแต่งงานของนายยอดเยี่ยมและมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง” ทุกคนโห่ร้องรับ แต่เจคดูไม่ประทับใจเลย โอ้ เยี่ยมไปเลย นี่ต้องเป็นงานแต่งงานที่ยอดเยี่ยมแน่ๆ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป