บทที่ 4 คาสโนว่า
“พอร์ชก็เอาดุสุดยอดมากค่ะ อ่า แนนนี่จุกไปหมดแล้วที่รักอ้ะ อ้า อู้วว อา..” สาวสวยร้องครวญครางแหงนหน้าขึ้นเพราะทั้งจุกทั้งเสียวจึงกระแทกกระทั้นร่องสวาทเข้าใส่อย่างรุนแรงติดกันไม่หยุดเพราะเห็นสวรรค์อยู่แค่เอื้อม
“ตั้บบๆๆ ตั้บบๆๆ..”
“กริ้งงๆๆๆ..” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะของสองหนุ่มสาวแต่นิวารินไม่สนใจเพราะเธอกำลังจะขึ้นสวรรค์จึงหลับหูหลับตาจับหัวเตียงแล้วกระแทกร่องสวาทเข้าใส่พร้อมกับแก่นกายอวบใหญ่ที่เด้งสวนขึ้นรับจังหวะกันอย่างถึงอกถึงใจ
“ตั้บบๆๆ ตั้บบๆๆ
“กริ้งงงๆๆๆๆ..”
“โอ้วววส์.../ กรี๊ดดดด...”
สองหนุ่มสาวขึ้นสวรรค์ได้สำเร็จแล้วพฤทธิ์ก็ยกร่างผอมเพรียวของแฟนสาวลงจากตัวแล้วลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์มาดูพอเห็นเบอร์ของเลขาโชว์ก็กดรับสาน
“ว่าไงเปา นายรู้มั้ยว่าโทรมาเวลานี้อาจจะถูกตัดเงินเดือน” พฤทธิ์ว่าเลขาส่วนตัวมากความสามารถทั้งที่อายุน้อยแต่ปรีชาก็ทำงานดีสมกับที่เขาเลือกให้โอกาสและไว้ใจไม่เคยทำให้ผิดหวังเพราะปรีชาเป็นหลานชายของคนขับรถส่วนตัวของปู่นั่นเอง
“ผมยอมถูกตัดเงินเดือนครับ ตอนนี้คุณท่านเข้าโรงพยาบาลแต่ท่านไม่ให้ใครบอกนายครับ” ปรีชาตอบผู้เป็นนายหากเขาไม่บอกต้องโดนหักเงินเดือนแน่
“แล้วปู่เป็นยังไงบ้างแล้วทำไมปู่ถึงเข้าโรงบาล” พฤทธิ์ถามเลขาคนสนิทเสียงดัง
“คือว่าคุณโมมาคุยกับท่านเรื่องงานที่บริษัทแล้วทะเลาะกันทำให้ความดันสูงจนเกือบจะช็อกแล้วคุณพู่พาไปโรงพยาบาลตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ” ปรีชาตอบเจ้านายและตอนนี้ท่านเจ้าสัวก็ปลอดภัยแล้ว
“แล้วทำไมนายไม่บอกฉันเร็วกว่านี้วะ” พฤทธิ์พูดอย่างหัวเสียและเข้าใจดีว่าปู่ของเขาหัวแข็งแค่ไหนไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ไม่ยอมบอกลูกหลานและไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของท่านด้วย
“คุณท่านสั่งไว้ครับ แต่คุณพู่บอกให้ผมโทรบอกนายครับ” ปรีชาตอบเจ้านายเพราะเขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของท่านเจ้าสัวแต่คุณพู่บอกจะรับผิดชอบเองให้เขาโทรบอกหลานชายของท่าน
“เดี๋ยวฉันกลับเลย อีกสองชั่วโมงมารับด้วย” พฤทธิ์พูดจบก็วางสาย
“เราต้องกลับแล้วแนนนี่” ชายหนุ่มพูดแล้วหยิบผ้าขนหนูมาพันเอวสอบแล้วเดินเข้าไปในห้องเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวกลับและครั้งนี้เพื่อนๆไม่ได้มาด้วยเพราะนิวารินอยากมาสองคนกับเขา
“เราเพิ่งมาถึงเมื่อวานนี่เองนะคะพอร์ช แนนนี่ยังไม่อยากกลับเลยเราอยู่ต่อได้มั้ยคะ”
“ปู่ของผมเข้าโรงพยาบาลนะแนนแล้วคุณจะให้ผมอยู่เที่ยวหาความสุขสำราญให้กับตัวเองได้หรือไง” พฤทธิ์พูดด้วยความไม่พอใจที่แฟนสาวไม่เห็นความสำคัญปู่ของเขา
“หมอก็มีนี่คะพอร์ช คุณไม่ใช่หมอถึงไปก็รักษาท่านไม่ได้อยู่ดีค่ะ”
“คุณไม่ไปก็ตามใจ แต่อย่ามาห้ามผมเพราะคุณปู่ท่านเป็นยิ่งกว่าพ่อของผม” ชายหนุ่มพูดด้วยความโกรธแฟนสาวและคิดว่าเขากับนิวารินคงไปด้วยกันต่อไม่ได้แล้ว
“พอร์ชคะรอแนนนี่ด้วยค่ะ” นิวารินลุกขึ้นแล้วรู้ตัวว่าเธอพูดผิดไปจึงรีบเข้าไปในห้อง
“ถ้าจะกลับพร้อมผมก็เก็บของซะ” พฤทธิ์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเพราะไม่ชอบคำพูดของนิวารินที่ไม่เห็นความสำคัญของคนในครอบครัวของเขาและผู้หญิงแบบนี้เหมาะจะเป็นแม่และรับผิดชอบครอบครัวได้หรือเปล่าและเขาเองก็คิดถูกแล้วที่คบหานิวารินในสถานะแค่แฟนที่ยังศึกษานิสัยใจคอกันอยู่ยังไม่ข้ามไปถึงคนรักและไปต่อไม่ได้แล้ว
“พอร์ชคะ แนนนี่ขอโทษที่พูดอะไรไปไม่คิดก็เราเพิ่งมาถึงยังไม่ได้เที่ยวก็จะกลับกันแล้ว” นิวารินแก้ตัวเมื่อรู้ว่าแฟนหนุ่มไม่พอใจเธอและที่ผ่านมาเธอกับพฤทธิ์ก็ไม่มีปัญหาอะไรกัน
“ไม่เป็นไร ผมไปรอข้างนอกนะ” พฤทธิ์พูดจบก็หิ้วกระเป๋าเดินทางแล้วเดินออกไปจากห้องพักสุดหรูที่เลขาจองให้สำหรับพักร้อนครั้งนี้
นิวารินมองแฟนหนุ่มที่เดินออกไปจากห้องแล้วเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเดินทางโดยไม่สนใจว่ามันจะยับย่นหรือไม่เพราะเธอต้องกลับบ้านแล้วก่อนจะปิดประเป๋าเดินทางแล้วเดินออกไปจากห้องพร้อมจะเดินทางกลับด้วยเครื่องบินเล็กส่วนตัวที่บินตรงมาจากสนามบินสุวรรณภูมิลงจอดรีสอร์ทหรูที่เธอมาพักเมื่อวานนี้และวันนี้ก็บินกลับ
พฤทธิ์เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิพร้อมกับแฟนสาวเวลาสิบเอ็ดนาฬิกากว่าเพราะเขาแจ้งทางรีสอร์ทขอบินกลับทันทีที่สามารถบินได้แล้ใช้วลาเดินทางสองชั่วโมงแต่บินแค่หนึ่งชั่วโมงยี่สิบห้านาทีเท่านั้น
“ทางนี้ครับคุณพอร์ช” ปรีชาเรียกเจ้านายหนุ่มที่เดินมาพร้อมกับแฟนสาวที่หน้าตาบูดบึ้งเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่างและถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นเรื่องที่เขาโทรรายงานเจ้านายแล้วทำให้แผนการเที่ยวล้มไม่เป็นท่า
“เอากระเป๋าฉันไปเก็บด้วย” นิวารินบอกปรีชาอย่างหงุดหงิดเพราะเขาทำให้แผนการเที่ยวของเธอล่มทั่งที่ถ่ายรูปอัพลงไอจีอวดเพื่อนๆแต่ไม่ทันไปไปไหนก็กลับบ้านมันเซ็งจริงๆ
“ครับ” ปรีชาตอบเบาๆแล้วลากกระเป๋าเดินทางแฟนของเจ้านายเดินตามหลังไปที่รถตู้คันใหญ่ที่จอดรออยู่หน้าประตูทางออก
“ไปส่งแนนนี่ก่อนเดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่ไปโรงพยาบาลเอง” พฤทธิ์บอกคนสนิทเพราะเขาไม่อยากอารมณ์เสียหากนิวารินพูดไม่เข้าหู
“พอร์ชคะ แนนนี่จะไปเยี่ยมคุณปู่กับคุณก่อนค่ะ”
“เอาไว้วันหลังนะแนนนี่” ชายหนุ่มพูดจบก็เดินไปเรียกแท็กซี่แล้วขึ้นรถไปโดยไม่ฟังเสียงของแฟนสาว
“พอร์ชคะ พอร์ชรอแนนนี่ด้วยค่ะ” นิวารินยืนกระทืบเท้าอยู่กับที่ด้วยความไม่พอใจที่แฟนหนุ่มไม่ให้เธอไปด้วย
