บทที่ 5 ลวงรักแม่สาวจอมเฉิ่มตอนที่5
“อืม...อย่าคิดมากเลยค่ะคุณถ้าหลานยังมีวาสนายังไงก็ได้กลับมาค่ะ”
แขไขอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมตีหน้าเศร้าปลอบใจสามีของเธอ
“เฮ้อ....”
อิทธิวัฒน์กุมขมับเขาจนปัญญากับเรื่องนี้จริงๆเพราะที่นั่นค่อนข้างไม่เจริญถนนหนทางไม่มีไฟไม่มีกล้องผู้คนก็ยังไม่ค่อยผ่านด้วยซ้ำ
“เอาอย่างนี้สิคะ...คุณก็เร่งให้คุณเหนือมีครอบครัวไวๆสิคะจะได้มีหลานเร็วๆ...คือแขไม่ได้คิดในแง่ลบนะคะว่าหลานเราจะไม่กลับมาแต่นี่มันก็หลายวันแล้ว”
แขไขถือโอกาสพูดเรื่องที่ลูกสาวเธอขอร้องให้ช่วยทันทีพร้อมทั้งยังพูดในทำนองที่อยากจะให้สามีเธอตัดใจเรื่องหลานอีกด้วยเพราะเธอแน่ใจว่ายังไงก็ไม่มีวันกลับมา
“ก็จริงอย่างที่คุณพูดนะ...แต่การที่จะบังคับตาเหนือให้มีครอบครัวคงจะยากแล้วใครมันจะมาทนคนอย่างตาเหนือได้”
อิทธิวัฒน์นั้นเป็นคนที่ค่อนข้างจะเชื่อคำพูดของแขไขเป็นซะส่วนใหญ่เพราะคิดว่าหญิงสาวนั้นหวังดีกับเขามาตลอดแต่เขาเองก็ยังมองไม่เห็นภาพว่าเหนือเมฆลูกชายคนเล็กของเขานั้นจะมีครอบครัวเพราะคิดว่าคงจะมีผู้หญิงที่ทนกับนิสัยของเหนือเมฆได้ยาก
“คุณต้องลองพูดดูก่อนค่ะ...ส่วนคนที่ทนคุณเหนือได้แล้วก็ดูเหมาะสมกันแขดูไว้แล้วล่ะค่ะน้องเอมลูกสาวแขไงคะ”
แขไขยังยุยงให้อิทธิวัฒน์นั้นลองพูดกับลูกชายของเขาดูก่อนและยังเอ่ยปากเสนอให้จับคู่กับลุกสาวของเธออีกด้วย
“หนูเอมเนี่ยเเหรอ...นี่เราจะจับคู่พวกเค้าใช่ไหม”
“ไม่ดีเเหรอคะ...คนในครอบครัวทั้งนั้นจะได้สบายใจว่าคุณเหนือจะไม่ไปคว้าเอาคนไม่ดีมาไงคะ”
แขไขยังพยายามหว่านล้อมทุกวิถีทางให้สามีเธอเชื่อฟังเธอ
“อืมม...แล้วผมจะลองคุยกับตาเหนือดูก็แล้วกัน”
อิทธิวัฒน์เองก็เห็นดีเห็นงามกับเรื่องที่คนเป็นภรรยาของเขาพูดเขารับปากเธอว่าจะลองคุยกับเหนือเมฆให้เพราะเขาเองในใจลึกๆก็อยากให้ลูกชายคนเล็กของเขาเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีเพราะอายุก็เกือบจะ35แล้วเขาเองก็ป่วยอยู่บ่อยครั้งหากเขาเป็นอะไรจะได้ตายตาหลับ
“ค่ะ...นอนกันเถอะค่ะคุณนอนดึกสุขภาพจะไม่ดีเอานะคะ”
แขไขพอใจที่อิทธิวัฒน์นั้นเชื่อฟังเธอตลอด
“เห็นจะมีแต่คุณที่ห่วงผมลูกชายที่คอยดูแลผมก็จากไปแล้วส่วนอีกคนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหัว”
อิทธิวัฒน์เชื่อใจแขไขอย่างสนิทใจว่าเธอมีแต่ความหวังดีให้เขาคอยดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องผิดกับลูกชายคนเล็กของเขาที่เวลานี้ก็ไม่เห็นหัว
วันต่อมา
“คุณพ่อเรียกผมมาที่บ้านมีธุระอะไรก็รีบพูดมาครับผมมีธุระต้องไปทำต่อ”
เหนือเมฆมาที่บ้านของเขาในตอนเช้าเพราะนภัสแจ้งว่าพ่อของเขามีเรื่องด่วนจะคุยด้วยเมื่อมาถึงเห็นทั้งพ่อเขาแม่เลี้ยงและเอมิกาอยู่พร้อมหน้ากันก็เสียอารมณ์ทันที
“หึ่...ฉันจะเรียกแกมาทั้งทีก็ต้องมีธุระสินะ...เอาล่ะฉันก็มีธุระจริงๆนั่นแหละฉันอยากจะให้แกแต่งงานมีครอบครัวเสียที”
คำถามของลูกชายคนเล็กของเขาอดทำให้อิทธิวัฒน์น้อยใจไม่ได้แต่เขาก็ทำใจไว้แล้วพร้อมทั้งรีบเปิดประเด็นเรื่องที่เรียกมาที่บ้านแต่เช้าทันที
“อะไรนะครับ”
เหนือเมฆไม่เข้าใจว่าพ่อของเขาจะมาอยากให้เขามีครอบครัวอะไรตอนนี้ทั้งที่เขาเองก็ยังไม่มีใครที่ถูกใจเลยสักคนและใช้ชีวิตแบบนี้เขาก็สบายดีอยู่แล้วไม่เห็นต้องมีคำว่าครอบครัวมาเป็นบ่วงผูกคอเลย
“แกเห็นใจฉันหน่อยเถอะนะฉันก็แก่แล้วหากฉันเป็นอะไรไปฉันจะได้ตายตาหลับพี่แกก็ไม่อยู่แล้วแกช่วยทำเพื่อฉันหน่อยเถอะนะ”
“มีครอบครัวเเหรอครับแต่ผมยังไม่ได้อยากแต่งงานกับใครนี่ครับ”
เหนือเมฆยังยืนยันว่าเขานั้นยังไม่อยากที่จะมีครอบครัว
“หนูเอมไงเธอเหมาะสมกับแกจะตายแต่งๆกันไปก็รักกันเอง”
อิทธิวัฒน์เปิดประเด็นความตั้งใจที่แท้จริงว่าเขาอยากจะให้ลูกชายของเขาแต่งงานกับใครตามที่ได้โดนคนเป็นภรรยายุยงมา
“นี่คงไม่ใช่ความคิดของคุณพ่อตั้งแต่แรกสินะครับ...ผมขอตัวผมมีธุระต้องไปทำต่อผมขอบอกไว้เลยนะครับผมจะแต่งกับใครก็ได้ถ้าไม่ใช่ยัยนี่”
เหนือเมฆพอจะรู้แล้วว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่ความคิดของพ่อเขาเองเป็นแน่พร้อมทั้งประกาศก้องว่าเขาจะไม่ยอมแต่งงานกับเอมิกาเป็นแน่และเดินออกไปจากบ้านอย่างไม่สนใจใครและมุ่งหน้าไปที่ลำปางทันทีที่ขึ้นรถได้
วันต่อมา
ลำปาง
09.00 น.
เหนือเมฆและนภัสมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนแต่ภูผาเองก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านเพราะทำงานค่อนข้างไม่เป็นเวลาเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับป่าไม้ก็ต้องเข้าไปดูทันที
“เป็นไงมั่งหลับสบายไหม”
ภูผากลับมาที่บ้านในช่วงเช้าเห็นเพื่อนของเขานั่งอยู่กับนภัสที่หน้าบ้านก็รีบขึ้นมาทักทาย
“ก็ดี”
“โทษทีที่เมื่อคืนไม่ได้อยู่ต้อนรับ”
