บทที่ 8 ตอนที่ 2 ของชิ้นแรกจากท่านชีค (3)

อุรัสยาเดินชมโรงพยาบาลโดยมีไกด์กิตติมศักดิ์เป็นคนคอยแนะนำไปจนรอบพื้นที่กว้างขวาง ถึงตอนนี้นี่เองหญิงสาวจึงได้รู้ว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ค่อนข้างจะทันสมัยเอามากๆ เครื่องมือเครื่องไม้ครบครันจะขาดก็แต่บุคลากรเท่านั้น แต่คงไม่นานทุกอย่างที่นี่จะครบสมบูรณ์เพราะชีคซาลซาเอลบอกว่าพระองค์กำลังติดต่อขอซื้อตัวคุณหมอมือดีจากหลายประเทศเพื่อให้มาทำงานที่นี่  แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่แน่ว่าที่ติดต่อซื้อตัวไปจะมาทำงานที่นี่กันทุกคนหรือเปล่า

และหลังจากชมโรงพยาบาลจนสามารถรู้ได้ว่าห้องไหนคือห้องไหน ช่วงเวลาต่อจากนั้นชีคซาลซาเอลจึงพาเธอไปแนะนำทำความรู้จักกับคุณหมอและคนอื่นๆ จนเกือบครบ จะเหลือก็แต่คุณหมอการิบและทีมผ่าตัด ที่กำลังจะเตรียมตัวเข้าทำการผ่าตัด แต่ชีคซาลซาเอลก็ขอเวลาเล็กน้อยเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักคุณหมอสาวคนใหม่

“คุณหมอการิบและทุกคน นี่คือคุณหมอคนใหม่ คุณหมออุรัสยา ชื่อเรียกยากไปหน่อยนะ คุณหมอฝีมือดีจากเมืองไทย”

แม้จะบ่นเรื่องชื่อเรียกยากเล็กน้อย แต่อุรัสยาก็รู้สึกดีขึ้นมากเล็กน้อยเหมือนกัน ที่พระองค์ทรงไม่แนะนำกับทุกคนว่าเธอคือคุณหมอซุ่มซ่าม ณ ประเทศไทย

“สวัสดีค่ะทุกคนยินดีที่ได้รู้จักนะคะ อุรัสยาหรือจะเรียกสั้นๆ ว่าหยาก็ได้ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ”

“ผมการิบครับ”

หลังจากคุณหมอการิบแนะนำตัวทุกคนในทีมผ่าตัดต่างก็เรียงคิวแนะนำตัวกับคุณหมอคนใหม่อย่างตื่นเต้นดีใจ จนได้เวลาที่จะต้องเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอการิบก็เอ่ยปากชวน

“คุณหมอหยาอยากพิสูจน์ฝีมือการผ่าตัดสักหน่อยไหมครับ”

“รายละเอียดของผู้ป่วยละคะ”

อุรัสยาถามอย่างสนใจ ก่อนจะรับแฟ้มประวัติจากคุณหมอการิบมาเปิดดู ขณะที่หูก็ฟังรายละเอียดจากอีกฝ่ายไปพร้อมๆ กัน

“ดูประวัติรายที่สามครับ เราจะผ่าบริเวณช่องท้อง เพราะผู้ป่วยมีก้อนเนื้อร้ายบริเวณลำไส้ใหญ่”

“โอเค ฉันจะร่วมในการผ่าตัดในครั้งนี้ค่ะ ขอเวลาเตรียมตัวและฆ่าเชื้อ อีกสิบห้านาทีเจอกันที่ห้องผ่าตัดค่ะ ขอตัวนะคะท่านชีค อิสลัม”

บอกก่อนจะผละออกไปเตรียมตัวเพื่อเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งชีคซาลซาเอลได้แต่มองตามพลางส่ายพระเศียรอย่างไม่คิดว่าหญิงสาวจะบ้างานขนาดนี้ สมกับที่ผู้อำนวยการที่โรงพยาบาลที่เมืองไทยว่าไว้จริงๆ ว่าอุรัสยาเป็นคุณหมอที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่องานจริงๆ ถึงอย่างนั้นมีรอยยิ้มให้กับคนไข้เสมอ ดังนั้นคนไข้คนไหนที่เธอได้รักษา มักจะคำชมตอบกลับมาให้ได้ยินตลอด

“งั้นเราไปรอเธอที่ห้องดีกว่า”

‘รอ’ อย่างนั้นเหรอ อิสลัมเลิกคิ้วก่อนจะยักไหล่ยิ้มๆ แล้วรีบตามชีคหนุ่มออกไป แต่ก็ไม่วายที่จะถามเพราะข้องใจ

“เราจะรอคุณหมอเหรอครับ แต่ผมว่าท่านชีคกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่าไหม เดี๋ยวตอนเย็นผมจะกลับมารับคุณหมออีกรอบเองดีกว่า”

ชีตซาลซาเอลโบกพระหัตถ์เป็นการปฏิเสธ

“ทันทีที่ยัยหมอซุ่มซ่ามออกจากห้องผ่าตัด เราถึงจะกลับ เธอต้องไปเตรียมตัว เพราะเย็นนี้ข้าจะพาเธอเข้าพบท่านพ่อ อย่างน้อยก็เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือใคร เวลาเธอเดินไปเดินมาภายในวังจะได้ไม่มีใครสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”

“แล้วท่านชีคจะแนะนำกับท่านชีคจารีว่าคุณหมอเข้ามาอยู่ในวังของท่านในฐานะอะไรหรือครับท่านชีค แขกคนพิเศษแล้วพิเศษแบบไหนหลายๆ คนคงสงสัย คงไม่เว้นแม้แต่ท่านชีคจารี และโดยเฉพาะท่านชีคคาทัลฟา ท่านอย่าลืมนะว่ายังไม่มีใครรู้ว่าท่านบาดเจ็บจากการโดนลอบยิงหรือจะรู้ข้าก็มิอาจทราบได้”

“เจ้าคิดอย่างนั้นเหรอ งั้นให้เธออยู่ในฐานะนางในฮาเร็มคนเดียวของข้าเป็นไง”

“ข้าได้แต่ภาวนาให้คุณหมอยอมนะครับ”

ได้ยินอย่างนั้น ชีคซาลซาเอลถึงกับพระสรวลออกมาอย่างชอบพระทัย และยิ่งคิดว่าถ้าพระองค์แนะนำหญิงสาวในฐานะนี้ต่อหน้าท่านพ่อและทุกคนในครอบครัวโดยไม่บอกกล่าวเธอก่อนอะไรจะเกิดขึ้น เธอจะรับสมอ้างหรือจะแหกหน้าเขาต่อหน้าทุกคน ชีคหนุ่มทรงคิดเล่นๆ พลางแย้มพระสรวล ก่อนจะปรับสีพระพักตร์ให้เคร่งขรึมเป็นงานเป็นการทันที่เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องทำงานส่วนพระองค์

“แต่ข้าว่าตอนนี้เรามีเรื่องสำคัญกว่าเรื่องของฐานะยัยคุณหมอซุ่มซ่าม ที่จะต้องคุยกันอยู่ใช่ไหมอิสลัม”

“ครับ”

อิสลัมเดินตามเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูล็อกกลอนอย่างดี แล้วเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวตรงข้ามกับชีคซาลซาเอลพร้อมกับเอ่ยถึงความคืบหน้าของการลอบยิงพระองค์

บทก่อนหน้า
บทถัดไป